นายกฯ ยันไม่ลาออก ทิ้งประเทศชาติยามวิกฤติ

รัฐสภา 27 ต.ค. -นายกรัฐมนตรี ยันไม่ลาออกทิ้งประเทศชาติ ยามวิกฤติ เห็นด้วยข้อเสนอตั้งคณะทำงานหาทางออกร่วมกับผู้ชุมนุม

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณสมาชิกรัฐสภา ที่ได้แสดงความคิดเห็น เสนอแนะทางออกจากสถานการณ์ทางการเมืองหลายประเด็นให้กับรัฐบาล ยืนยันจะนำความเห็นไปพิจารณาปฏิบัติให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริง อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตนเป็นห่วงขณะนี้คือสถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 จึง ขอให้ทุกฝ่ายระมัดระวัง เพราะไม่อยากให้ประเทศกลับไปสู่สถานการณ์ล็อกดาวน์ แบบช่วงเดือนเมษายนอีก


ส่วนปัญหาทางเศรษฐกิจ ยืนยันว่ารัฐบาลกำลังขับเคลื่อนนโยบายอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะปัญหาการว่างงาน และยืนยันจะดูแลคนทุกกลุ่มทั่วประเทศ ส่วนสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในกรุงเทพมหานครที่ผ่านมา ตนจะไม่โทษผู้ชุมนุม แต่ต้องดูว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่เพราะตนไม่ทราบ แต่การชุมนุมอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ จำเป็นต้องหาวิธีแก้ไขให้ได้ และสิ่งที่ห่วงมากที่สุดคือ ความแตกแยกในสังคมไทย โดยเฉพาะสถาบันครอบครัว เราเคยพูดกันว่าคนไทยเป็นครอบครัวเดียวกัน เราเคยรักกัน เคยเคารพซึ่งกันและกัน จึงไม่อยากให้รากฐานทางวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศแตกราวเสียหายไปเพราะความไม่เข้าระหว่างคนแต่ละรุ่น

นายกรัฐมนตรียังขอให้ประชาชนทุกฝ่ายอย่าเพิ่งเชื่อทุกอย่างที่เห็นในโซเชี่ยลมีเดียตรวจสอบคัดกรองด้วยตัวเองอย่างมีสติปัญญา เพราะปัจจุบันมีระบบเทคโนโลยี ป้อนข้อมูลเฉพาะทาง เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ให้กลุ่มเปราะบาง ได้ปรุงแต่งความคิดความนิยม และขอให้ระมัดระวังการนำข้อมูลภายในประเทศไปเผยแพร่ที่ต่างประเทศด้วย


ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐสภา (กรณีกรีดแขน) ตนได้รับข้อมูลจากนักข่าวข้างล่างว่า เป็นเรื่องที่มีเบื้องหลังพอสมควร มีการเตรียมการไว้แล้วเพื่อให้โลกได้รับรู้ แต่รู้สึกเสียใจเพราะไม่เคยเกิดขึ้นในสภามาก่อน

นายกรัฐมนตรียืนยันว่าเห็นด้วยหากมีการตั้งคณะทำงานศึกษาหาทางออกตามที่สมาชิกรัฐสภาได้เสนอมา โดยเอาทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้เห็นต่าง มาหารือร่วมกัน แต่ตนก็ยังรู้สึกกังวลว่าไม่รู้จะพูดกับใคร เพราะทุกคนเป็นแกนนำหมด อาจจะต้องหาสถานที่กว้างๆรองรับ

ส่วนข้อเรียกร้องลาออกพร้อมย้อนไปถึงเหตุการณ์ ชุมนุมทางการเมือง ปี 2549 และ 2557 โดยย้อนถามกลับฝ่ายค้านว่าเหตุการณ์ขณะนั้นมีใครยอมลาออกหรือไม่ แล้วทุกวันนี้คนเหล่านั้นไปอยู่ที่ไหน ซึ่งขอเรียกร้องใดที่สอดคล้องกับความต้องการของคนกลุ่มอื่นที่ไม่ได้ออกมาชุมนุม ตนก็ยินดี รับไปดำเนินการ แต่ขอสงวนสิทธ์ของข้อเรียกร้องที่ไม่ใช่ความต้องการของคนส่วนใหญ่ในประเทศ ย้ำว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของรัฐสภาที่อยู่ในกระบวนการอยู่แล้ว ซึ่งตนจะคอยดูว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะจบได้หรือไม่ ยืนยันว่าตนไม่เคยยึดติดกับตำแหน่ง ขอให้ความเป็นธรรมกับตนบ้าง และตนจะไม่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวเพื่อหนีปัญหา จะไม่ละทิ้งด้วยการลาออกทั้งที่ ชาติบ้านเมืองมีปัญหา จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างเร่งด่วน พร้อมระบุว่า การได้ชัยชนะกันท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้านเมืองมันคุ้มค่ากันหรือไม่ เพราะมันจะไม่เหลืออะไรอีกเลย ที่คาดหวังว่าจะเปลี่ยนแกลงดุลอำนาจ มันก็จะไม่เหลือให้ได้เปลี่ยนแปลงอีก ขอให้สงสารลูกหลาน ประชาชน อย่าเอาเขามาขับเคลื่อนทางการเมือง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน