“ไพบูลย์” หนุนนายกฯ อยู่ต่อ

รัฐสภา 26 ต.ค.-“ไพบูลย์” ติงผู้ชุมนุมจาบจ้วง-หยาบคาย หนุนนายกฯ อยู่ต่อ อย่าลาออก เสนอทำประชามติเห็นด้วยชุมนุมหรือไม่ ด้านประธานสภาฯ สั่งเบรคหลังพูดนอกญัตติหลายครั้ง


นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อภิปรายในการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้นมีการพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2563 มาจนเกิดเหตุการผู้ชมนุมขวางทางขบวนเสด็จ ชี้ว่าเป็นการมุ่งร้ายและเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และยังมีการเรียกร้อง 3 ข้อ คือการแก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภาฯ และการปฏิรูปสถาบัน เชื่อว่าผู้ชุมนุมมีเป้าหมาย คือ การปฏิรูปสถาบันเพื่อการเปลี่ยนแปลงและการลดสถานะของสถาบัน และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบบการปกครองของไทยให้เป็นการปกครองระบอบสาธารณรัฐ และแม้มีข้อเรียกร้องจากผู้ชุมนุมให้ลาออก ตนขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกมนตรี อยู่ในตำแหน่งเพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เพื่อแก้วิกฤติเศรษฐกิจ และอย่าลาออก ให้คำนึงถึงเสียงประชาชน 8,400,000 คนที่เลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี

“ที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก เพราะเป็นบุคคลที่เป็นเลิศด้านความจงรักภักดีต่อสถาบันสูงสุด เป็นผู้ที่เข้มแข็งและมีความสามารถในการปกป้อง พิทักษ์และรักษาไว้ซึ่งสถาบัน อย่างไม่มีผู้ใดเทียบเคียงได้” นายไพบูลย์ กล่าว


นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมจะนำไปสู่การปฏิรูปสถาบันที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยไว้ และหากมีพรรคการเมือง นักการเมือง ร่วมชุมนุมการปฏิรูปสถาบัน อาจเข้าข่ายถูกดำเนินคดีอาญาและนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองนั้นด้วย พร้อมกันนี้ขอประณามว่ามีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของนักเรียน นักศึกษา ในการแย่งชิงอำนาจรัฐ บั่นทอนความมั่นคงของชาติและสถาบัน จึงเสนอให้ทำประชามติต่อการชุมนุมทางการเมืองในปัจจุบัน ด้วยการตรา พ.ร.ก.การออกเสียงประชามติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 173 โดยมั่นใจว่าหากมีการออกเสียงประชาชมติ จะมีเสียงข้างมากไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่มีการจาบจ้วงสถาบัน และเรียกร้องให้ประชาชนทั่วประเทศปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 50 ในการปกป้องพิทักษ์ชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัติรย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการอภิรายฯ ประธานรัฐสภาย้ำเตือนให้นายไพบูลย์อภิปรายใช้ถ้อยคำในญัตติเท่านั้น ขอให้อภิปรายเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เพื่อลดบรรยากาศความตรึงเครียดทางการเมือง และย้ำว่าข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภาข้อ 45 วรรค 2 ห้ามผู้อภิปรายแสดงกริยา หรือวาจาอันไม่สุภาพ ใส่ร้ายหรือเสียดสีบุคคลใด และห้ามกล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือออกชื่อสมาชิกรัฐสภาโดยไม่จำเป็น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก