ชี้นายกฯ ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสายเกินไป

ม.ธรรมศาสตร์ 22 ต.ค.-“ปิยบุตร” ชี้นายกฯ เลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินสายเกินไป จี้ลาออกให้สถานการณ์คลี่คลาย แนะเปิดสภาฯ นำ 3 ข้อเรียกร้องคณะราษฎร 63 พูดคุยหาทางออกร่วมกัน


นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมถอยคนละก้าว และยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ว่า การตอบสนองของนายกรัฐมนตรีล่าช้าเกินไป และไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม ซึ่งจากรัฐบาลจะไม่ยอมรับข้อเรียกร้องทั้งหมดและไม่ใช้วิธีการพูดคุยแล้ว กลับใช้กฎหมายเข้าจับกุมแกนนำนักศึกษา จะยิ่งทำให้สถานการณ์คุมไม่อยู่ มากขึ้น ดังนั้นการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินขณะนี้ ถือว่าสายเกินไปและไม่ควรประกาศตั้งแต่แรก

“สถานการณ์ตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ขาดความชอบธรรมในการปกครองบ้านเมือง สิ่งที่ควรทำ คือ การลาออก เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐสภาสรรหานายกรัฐมนตรีโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งผู้ที่จะมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะต้องไม่ใช่ร่างทรงของ พล.อ.ประยุทธ์ และต้องไม่สืบทอดอำนาจ แต่ต้องมาเปลี่ยนผ่านจากระบอบประยุทธ์ ไปสู่ระบอบปกติให้ได้” นายปิยบุตร กล่าว


นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า ส่วนการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อหาทางออกสถานการณ์การเมืองในวันที่ 26-27 ตุลาคมนี้ จะต้องดูว่าสมาชิกมีความจริงใจที่จะทางออกจริงหรือไม่ โดยเฉพาะการนำข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อของคณะราษฎรมาพูดคุยในสภาฯ เพื่อถกถึงแก่นของปัญหาที่แท้จริง แต่หากเปิดสภาฯ แล้วปล่อยให้ ส.ส.รัฐบาลและ ส.ว.มาใช้เวทีของสภาฯ โจมตีกล่าวหาว่าคนที่ออกมาชุมนุมเป็นพวกล้มล้างสถาบัน ก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้

“ขออย่าทำแบบที่ผ่านมา ที่เปิดสภาฯ มาแล้วไม่จริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยื้อเวลาเพื่อช่วยเหลือ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ ซึ่งหากยังทำแบบนี้อีก การแก้ไขปัญหาภายใต้กลไกของรัฐสภา ก็จะหมดความน่าเชื่อถือ ดังนั้นหากนายกรัฐมนตรีจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาที่แท้จริง ก็ควรจะลาออกในสัปดาห์หน้าเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้น จากนั้นตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ตามรายชื่อแคนดิเดตที่แต่ละพรรคเสนอไว้แล้ว รวมถึงเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ลงมติในวาระที่ 1 และนำข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปสถาบันเข้ามาพูดคุยในสภาฯ อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย เพราะต้องยอมรับความจริงว่าประเด็นเรื่องสถาบัน กลายเป็นส่วนหนึ่งความขัดแย้งทางการเมืองแล้ว” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวด้วยว่า ส่วนการที่เริ่มมีกลุ่มคนออกมาปกป้องสถาบัน ตนมองว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสถาบันจริง ๆ คือจะต้องพูดคุยหาทางออกร่วมกัน ไม่ใช่การห้ามพูดถึง หรือปราบปรามจับกุมผู้ที่เห็นต่าง แต่ควรต้องปรับทัศนคติให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปในศตวรรษที่ 21 เพื่อหาจุดลงตัวที่เหมาะสม และจากเหตุการณ์ปะทะ 2 ฝ่ายที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) ส่วนตัวไม่เห็นว่าจะเป็นผลดีสถาบัน แต่กลับส่งผลให้คนรุ่นใหม่มีทัศนคติแง่ลบต่อสถาบันมากขึ้น และยืนยันว่าข้อเสนอที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครพูดว่าประเทศไทยจะต้องไม่มีสถาบันพระทหากษัตริย์ เพียงแต่ต้องการให้เกิดการปฏิรูปเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน