19 ต.ค.- “สุวัจน์” เผยศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน และทีมพรรคชาติพัฒนา ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมโคราชต่อเนื่อง เตือนเตรียมพร้อมรับมือมวลน้ำ
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2563 เวลา 15.00 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนครราชสีมา ขอให้คนโคราชร่วมกันมอบกำลังใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมโคราช และให้ทุกคนพร้อมมีสติเตรียมรับมือกับมวลน้ำที่จะมาอย่างต่อเนื่องจากพายุดีเปรสชัน ล่าสุด แจ้งไปที่ “ศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน” และทีมพรรคชาติพัฒนา นำโดยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ให้เข้าพื้นที่อำเภอปักธงชัย และอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ที่กำลังประสบอุทกภัยน้ำท่วมต่อเนื่อง แม้กระทั่งเขื่อนและอ่างเก็บน้ำรอบๆ โคราช ไม่ว่าจะเป็นลำตะคอง ลำพระเพลิง ลำแชะ ลำมูลบน ตอนนี้มีปริมาณน้ำเต็ม และบางแห่งก็ต้องระบายออก เพราะอายุของเขื่อนที่สร้างมานาน จำเป็นต้องบริหารจัดการระดับน้ำให้ดีที่สุด เกิดผลกระทบน้อยที่สุด
“ตอนนี้ให้ศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกันนำอาหารและน้ำดื่มไปช่วยชาวบ้านผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน และขอเชิญชวนชาวโคราชร่วมใจกันมอบกำลังใจ น้ำใจ และบริจาคช่วยน้ำท่วมโคราชครั้งนี้” นายสุวัจน์ กล่าว
นายสุวัจน์ กล่าวย้ำว่า ตอนนี้น่าเป็นห่วงมาก เพราะพายุดีเปรสชันหลายลูกทยอยกันเข้ามา เมื่ออาทิตย์ก่อนก็เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมไหลหลาก เกิดจากการสะสมปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักหลายวัน ไหลบ่าเข้ามาที่จังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะอำเภอปากช่อง เหมือนเป็นประตูหน้าบ้านของจังหวัดนครราชสีมา น้ำท่วมในเขตอำเภอ แล้วมาซ้ำสองอีก เพียงทิ้งช่วงแค่ 1 อาทิตย์ แล้วก็ขยายวงจากอำเภอปากช่อง ไปอำเภอปักธงชัย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอำเภอที่มีเขื่อนเหนือน้ำ เหนือตัวอำเภอ อย่างเช่น ปากช่องก็จะมีลำตะคอง หรืออย่างที่ปักธงชัยก็จะมีลำพระเพลิง น้ำที่ไหลบ่ามาจากเขาใหญ่ก็ไปกักที่อ่างเก็บลำพระเพลิง และอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ตอนนี้ปริมาณน้ำเต็มทั้งสองเขื่อนเกินกว่าที่เขื่อนจะรับไว้ได้
ที่สำคัญ ต้องเฝ้าระวังเขื่อนทั้งสองแห่ง เพราะเป็นเขื่อนที่สร้างมานานแล้ว ความมั่นคงแข็งแรงทางด้านวิศวกรรม จะรับโหลดของน้ำได้มากน้อยเพียงใด อันนี้ก็ต้องระวัง และเราต้องมีการระบายน้ำออกจากเขื่อนไม่เช่นนั้นจะมีอันตรายกับตัวเขื่อน พื้นที่หมู่บ้านที่อยู่หลังเขื่อนก็จะมีปัญหาน้ำที่มาอย่างฉับพลัน เพราะมีการระบายมาจากตัวเขื่อน เราต้องบริหารการจัดการน้ำที่ออกจากเขื่อนไปตามหมู่บ้าน ก็ต้องมีการให้ข้อมูลข่าวสารให้ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ การพยากรณ์ต่างๆ หรือการปล่อยน้ำจากเขื่อนลงมา เพื่อเตรียมตัวอพยพ พื้นที่ไหนเป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยง ต้องมีการประชาสัมพันธ์ และต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ให้พร้อม หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต้องมีการประชุมและมีแผนปฏิบัติการแล้วในแต่ละพื้นที่ความเสี่ยง
โดยเฉพาะพื้นที่หลังเขื่อนทั้งหมด ที่โคราชก็มีหลายเขื่อน เช่น เขื่อนลำตะคอง เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนมูลบน หลายเขื่อนก็ต้องมีการระแวดระวังในพื้นที่้สุ่มเสี่ยง และเตือนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบสถานการณ์และเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ ในการเข้าไปกู้ภัยโดยด่วน
“ผมว่าคนโคราชหรือพี่น้องประชาชนคนไทย ถ้าจะส่งน้ำใจไปช่วยเหลือและดูแลในยามยาก ก็จะเป็นเรื่องที่น่ากราบขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้เขาต้องการอาหารและน้ำ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกันก็จะเตรียมน้ำและอาหารไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่อำเภอปักธงชัย ซึ่งตอนนี้ก็สาหัสมาก ก็ต้องช่วยกันในเวลาที่มีวิกฤติ แต่ที่สำคัญมาตรการของหน่วยงานราชการ ในการเตือนภัยการเตรียมความพร้อมการช่วยเหลือ ส่วนคนไทยด้วยก็น้ำใจและกำลังใจที่ไปช่วยกัน” นายสุวัจน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย