กทม. 17 ต.ค. – สื่อมวลชนต่างชาติติดตามและเสนอข่าวตำรวจปราบจลาจลฉีดน้ำแรงดันสูงสลายการชุมนุมบริเวณสี่แยกปทุมวัน ใจกลางกรุงเทพมหานคร เมื่อคืนที่ผ่านมา ระบุเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดในรอบ 3 เดือน นับตั้งแต่มีการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ “พล.อ.ประยุทธ์” ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ตำรวจปราบจลาจลไทยปราบปรามผู้ชุมนุมหลายพันคน นำโดยกลุ่มนักศึกษาหนุ่มสาว ซึ่งชุมนุมกันท่ามกลางฝนที่ตกลงมา โดยไม่สนใจพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่บริเวณสี่แยกปทุมวัน ใจกลางกรุงเทพมหานคร ตำรวจใช้วิธีฉีดน้ำแรงดันสูงสลายผู้ชุมนุม ซึ่งผู้สื่อข่าวบางคนถูกฉีดไปด้วย จนเกิดอาการระคายเคืองและมีสีฟ้าติดที่ร่างกาย
ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า การปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและตำรวจปราบจลาจลเมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดในรอบ 3 เดือน นับตั้งแต่มีการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก ตำรวจพร้อมด้วยกระบองและโล่ป้องกันเดินแถวกดดันผู้ชุมนุมให้ยอมสลายตัวกลับบ้าน ภาพเหตุการณ์คล้ายคลึงกับเหตุชุมนุมในฮ่องกง ซึ่งผู้ประท้วงมีเพียงร่มป้องกันตัวจากสายน้ำแรงดันสูงที่ถูกฉีดเข้ามา
ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานสถานการณ์ตึงเครียดที่บริเวณสี่แยกปทุมวันเช่นกัน โดยผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ผู้ชุมนุมซึ่งเป็นนักศึกษาวัย 21 ปีคนหนึ่ง เขาบอกว่าประชาชนรวมถึงเขาเองจะกลับมาชุมนุมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้แน่นอน การใช้ความรุนแรงมีแต่จะทำให้จำนวนผู้ชุมนุมออกมาบนท้องถนนมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย