ไทม์ไลน์การชุมนุม 16 ต.ค.63 ก่อนนัดรวมตัวใหม่วันนี้

กทม. 17 ต.ค. – ไทม์ไลน์การชุมนุม 16 ต.ค.63 ภายหลังคณะราษฎร 2563 เปลี่ยนสถานที่ชุมนุมจากแยกราชประสงค์ ไปที่แยกปทุมวัน ก่อนตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจะนำกำลังเข้ากดดันมวลชน พร้อมฉีดน้ำแรงดันสูงน้ำที่มีสารเคมีสีฟ้าเพื่อสลายการชุมนุม


เมื่อวานนี้การชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร 2563 ที่นัดเคลื่อนไหวบริเวณแยกราชประสงค์ ในเวลา 17.00 น. ทำให้ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเตรียมพร้อมรับมือ เริ่มตั้งแต่ปิดการจราจร 3 จุด บริเวณแยกราชประสงค์ เริ่มจากถนนราชดำริ ตั้งแต่แยกราชดำริถึงแยกประตูน้ำ จุดที่ 2 ถนนเพลินจิต ปิดตั้งแต่แยกชิดลมถึงแยกราชประสงค์ และจุดที่ 3 บริเวณถนนพระราม 1 จากแยกประสงค์ถึงแยกเฉลิมเผ่า ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เพื่อสกัดการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร และห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ ส่วนบริเวณสกายวอล์กก็ได้มีการล็อกประตูเหล็กปิดกั้นเส้นทางเข้าออกทุกเส้นทาง

ขณะที่ช่วงใกล้ 16.00 น. ฝนเกิดตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ตำรวจที่มาเฝ้ารอสกัดการชุมนุมต้องยืนตากฝนเฝ้าระวังสถานการณ์ แต่สุดท้ายสถานการณ์พลิก เพราะเพจเฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอกได้โพสต์ข้อความแจ้งเปลี่ยนสถานที่ชุมนุมไปที่แยกปทุมวัน ในเวลา 17.00 น.


จากนั้นมวลชนเคลื่อนไหวที่แยกปทุมวันตามนัดหมาย โดยมากันแบบดาวกระจาย และทยอยเข้าปักหลักชุมนุมกันในลักษณะฮ่องกงโมเดล ก่อนสถานการณ์จะค่อยๆ ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งช่วง 18.45 น. ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ตำรวจตระเวนชายแดน ได้ตั้งแถวบริเวณถนนพระราม 1 หน้าศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมรถควบคุมฝูง ตรึงกำลังก่อนขยับจากแยกเฉลิมเผ่า เคลื่อนเข้าประชิดกับแผงเหล็กที่กั้นกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณสี่แยกปทุมวัน ทำให้มวลชนบางคนเดินไปตั้งแถวประชิดแนวกั้น ก่อนจะมีการกรูกันเข้าไปทางสยามดิสคัฟเวอรี่ เนื่องจากตำรวจพยายามเข้ายึดพื้นที่การชุมนุม ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง

จากนั้นเกิดการผลักดัน เจ้าหน้าที่ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง หากยังไม่ยุติการชุมนุม และไม่ถอยไปภายใน 2 นาที จะฉีดน้ำเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมนับถอยหลังจนครบเวลา 2 นาที แต่ผู้ชุมนุมไม่ทีท่าทียุติการชุมนุม

เวลา 18.50 น. เจ้าหน้าที่ตัดสินใจฉีดน้ำแรงดันสูงที่มีสารเคมีสีฟ้าเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม และมีการปะทะผลักดันกันเป็นระยะ ซึ่งสารเคมีสีฟ้านี้ไม่เฉพาะกลุ่มมวลชนถูกฉีดใส่ แม้แต่สื่อมวลชนก็หนีไม่พ้น ทำให้คนที่ถูกมีอาการแสบหน้าและผิวหนัง


อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดูเหมือนสงบไปสักระยะ เนื่องจากเจ้าหน้าที่หยุดฉีดน้ำ มวลชนคิดว่าทุกอย่างจะจบ แต่เจ้าหน้าที่กลับมีการฉีดน้ำสลับกับหยุดฉีดเป็นระยะ

เวลา 19.25 น. แกนนำประกาศให้ผู้ชุมนุมถอยกลับไปรวมตัวกันที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะเดียวกันมีการแจ้งผ่านโซเชียลมีเดียจากสโมสรนิสิตเภสัชศาสตร์ แจ้งถึงจุด Safe Zone ให้กับนิสิต หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินให้นิสิตเข้ามาหลบได้ที่ห้องสโมสร ด้านเจ้าหน้าที่ประกาศขอให้ทุกคนกลับบ้านโดยเร็ว พร้อมระบุจำเป็นต้องรักษากฎหมาย

เวลา 20.00 น. แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎรได้ประกาศผ่านรถติดเครื่องขยายเสียงให้ทุกคนเดินทางกลับและยุติการชุมนุม พร้อมนัดหมายเตรียมชุมนุมในวันนี้

เวลา 20.25 น. เฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอกโพสต์ระบุยุติการชุมนุม โปรดรอติดตามอัปเดตต่อไป ผู้สั่งการจะต้องรับผิดชอบในการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมในครั้งนี้ ซึ่งกว่าครึ่งเป็นเยาวชน เราขอประณามการกระทำของรัฐ ต่อไปนี้ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิม

จากนั้นมีรายงานว่า นายณัฐนนท์ ดวงสูงเนิน และนายอนุรักษ์ เจตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดงนักเคลื่อนไหวทางการเมืองถูกเจ้าหน้าที่จับกุมขึ้นรถคุมขัง หลังจากมีการสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน และม็อบคณะราษฎรประกาศยุติการชุมนุม

ขณะที่นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือฟอร์ด แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก และคณะราษฎร 2563 ก็ถูกจับกุมเช่นกัน โดยเจ้าตัวทวีตภาพหมายจับบนทวิตเตอร์ส่วนตัว พร้อมข้อความว่า “ผมโดนจับแล้ว กำลังไป ตชด. ภาค 1” ขณะที่เฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอกโพสต์คลิปนาทีถูกจับกุม

เวลา 20.40 น. ผู้ชุมนุมบางส่วนยังไม่ยอมแยกย้าย และปักหลักบริเวณแยกปทุมวัน ใกล้กับ MBK Center ทำให้ตำรวจใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดเข้าใส่ ผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง และมีการประกาศให้ผู้ชุมนุมแยกย้ายกลับบ้าน ทั้งยังมีการฉีดน้ำโดยใช้ความดันที่แรงขึ้นเรื่อยๆ

ใกล้ 21.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มบางตา และตำรวจพักการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงชั่วคราว เพราะสามารถนำรถพร้อมกำลังพลเคลื่อนเข้ามายังแยกปทุมวันได้สำเร็จ ทำให้ผู้ชุมนุมบางรายตะโกนว่าอย่ารังแกประชาชน และตำรวจต้องรับใช้ประชาชน

จากนั้นช่วง 21.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานที่บริเวณแยกปทุมวัน เจ้าหน้าที่กั้นพื้นที่ กันผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกไป รวมถึงสื่อมวลชนด้วย ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ใช้สิทธิ ส.ส. เจรจากับ ผบช.น. เพื่อขอเข้าไปด้านในแยกปทุมวัน นำตัวคนที่ติดอยู่ด้านในออกมา เนื่องจากตอนนี้คนที่อยู่ด้านในกลับออกมาไม่ได้ เพราะไม่มีรถ รวมถึงขอเจ้าหน้าที่อย่าฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุม

ภายหลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ช่วงเวลา 22.50 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้ตรวจเยี่ยมกองกำลังบริเวณสี่แยกปทุมวัน โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน

ขณะที่หน่วย EOD ทำการเคลียร์พื้นที่โดยรอบการชุมนุม ตั้งแต่สี่แยกปทุมวันถึงถนนพระราม 1 เบื้องต้นไม่พบวัตถุต้องสงสัย ทำให้ตำรวจควบคุมฝูงชนได้ตั้งเเถวก่อนทยอยกลับ ส่วนรถน้ำก็ได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ และเปิดการจราจรในเวลา 23.30 น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย

23 มิ.ย.- ‘ปลัดฯ บุญสงค์’ รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดระยะเวลาการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย ขณะที่ล่าสุดแจ้งขอกลับเพิ่ม 9 ราย วันที่ 23 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะ รับและพบปะพูดคุยให้กำลังใจแรงงานไทยซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัท Chemo Aharon Ltd. จำนวน 22 ราย ที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม สัญญาจ้าง 2 ปี และเป็นกลุ่มแรงงานที่สิ้นสุดโปรเจคระยะสั้น จึงเดินทางกลับประเทศไทย โดย ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า แรงงานกลุ่มดังกล่าวมีกำหนดเดินทางกลับตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนด โดยทางบริษัท […]

กองทัพสั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ชายแดนไทย-กัมพูชา

23 มิ.ย.- “กองทัพ” สั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยกเว้นช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม-นักเรียน วันที่ 23 มิ.ย.68 เวลา 19.10 น. กองทัพภาคที่ 1 ได้เผยแพร่คำสั่งกองทัพภาคที่ 1 เรื่องควบคุมการเปิด – ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท ลงนามโดย พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 สำหรับเนื้อหาระบุว่า เนื่องด้วยปัจจุบัน ปรากฏข่าวสารทหารกัมพูชามีการรุกลํ้าอธิปไตยในพื้นที่ของประเทศไทยโดยการลาดตระเวน ปรับปรุงที่มั่น และดัดแปลงภูมิประเทศ รวมถึงมีการนำประชาชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ความปลอดภัยของประชาชนตามแนชายแดนได้รับความเดือดร้อน และเกิดความตึงเครียด จากสถานการณ์ดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ที่เดินทางข้ามแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 รวมถึงยังปรากฎการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการ Call Center และ Hybrid Scamซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในประเทศ และในภูมิภาคเป็นวงกว้าง กองทัพภาคที่ 1ในฐานะที่เป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่แนวชายแดนไทย – […]

นายกฯ ขีดเส้น 3 เดือนเห็นผล แก้อาชญากรรมข้ามชาติ

ทำเนียบ 23 มิ.ย.- นายกฯ นำแถลงไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ สั่งตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้มการเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดนักพนันบินไปเสียมราฐ จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้านทหาร-ตำรวจ จับมือ ปปง. คว่ำบาตรขบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือนสถิติแจ้งความต้องลดลง ไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมอาสาเป็นเจ้าภาพร่วมมือนานาชาติ ขณะ “นายกฯ” สั่ง ตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้ม การเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดบินเล่นพนัน – จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้าน ทหารตำรวจ จับ มือ ปปง.คว่ำบาตร กระบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือน เห็นผล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า รัฐบาลประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยที่ไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ […]

ผบ.ตร.ยันเอาผิด “ฮุน เซน” ได้หรือไม่ขึ้นกับพยานหลักฐาน

23 มิ.ย. – ผบ.ตร. ระบุสอบสวนปมคลิปเสียง “ฮุน เซน” อาจเชิญนายกฯ ไทย ขึ้นอยู่กับดุลพินิจพนักงานสอบสวน ส่วนการดำเนินคดีเอาผิด “ฮุน เซน” ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีต ผบ.ตร. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา (อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา) ในความผิดต่อกฎหมายไทย ว่าก่อนหน้านี้ทางเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินทางมาเพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้นำของประเทศกัมพูชา ตนเองเชื่อว่าทั้งหมดมีความรักชาติ รักแผ่นดิน จึงมีการนำข้อมูลมามอบให้กับตำรวจ แต่ต้องยอมรับว่า 2 กรณีเป็นคนละเหตุการณ์ และเกิดในพื้นที่แตกต่างกัน ย้ำตำรวจไม่หนักใจ และได้สั่งการให้หน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เกี่ยวข้องนำเรื่องไปพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจเพื่อนำมาเสนอกลับให้ตนเอง การที่มีหลักฐานต่างๆ ยิ่งเป็นเรื่องดี เพื่อยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ต่อให้เป็นเรื่องนอกราชอาณาจักร ส่วนจะมีการสอบปากคำในส่วนของผู้ถูกกล่าวถึง อย่างสมเด็จฮุน เซน ด้วยหรือไม่นั้น การจะเอาผิดได้หรือไม่อยู่ที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เบื้องต้นต้องสอบสวนในส่วนของผู้กล่าวหาก่อน ส่วนข้อมูลของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสามารถเอาผิดผู้นำประเทศกัมพูชา ได้หรือไม่ต้องเป็นการพิจารณาของพนักงานสอบสวนก่อนเช่นกัน ส่วนกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง […]