ไทม์ไลน์การชุมนุม 16 ต.ค.63 ก่อนนัดรวมตัวใหม่วันนี้

กทม. 17 ต.ค. – ไทม์ไลน์การชุมนุม 16 ต.ค.63 ภายหลังคณะราษฎร 2563 เปลี่ยนสถานที่ชุมนุมจากแยกราชประสงค์ ไปที่แยกปทุมวัน ก่อนตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจะนำกำลังเข้ากดดันมวลชน พร้อมฉีดน้ำแรงดันสูงน้ำที่มีสารเคมีสีฟ้าเพื่อสลายการชุมนุม


เมื่อวานนี้การชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร 2563 ที่นัดเคลื่อนไหวบริเวณแยกราชประสงค์ ในเวลา 17.00 น. ทำให้ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเตรียมพร้อมรับมือ เริ่มตั้งแต่ปิดการจราจร 3 จุด บริเวณแยกราชประสงค์ เริ่มจากถนนราชดำริ ตั้งแต่แยกราชดำริถึงแยกประตูน้ำ จุดที่ 2 ถนนเพลินจิต ปิดตั้งแต่แยกชิดลมถึงแยกราชประสงค์ และจุดที่ 3 บริเวณถนนพระราม 1 จากแยกประสงค์ถึงแยกเฉลิมเผ่า ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เพื่อสกัดการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร และห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ ส่วนบริเวณสกายวอล์กก็ได้มีการล็อกประตูเหล็กปิดกั้นเส้นทางเข้าออกทุกเส้นทาง

ขณะที่ช่วงใกล้ 16.00 น. ฝนเกิดตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ตำรวจที่มาเฝ้ารอสกัดการชุมนุมต้องยืนตากฝนเฝ้าระวังสถานการณ์ แต่สุดท้ายสถานการณ์พลิก เพราะเพจเฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอกได้โพสต์ข้อความแจ้งเปลี่ยนสถานที่ชุมนุมไปที่แยกปทุมวัน ในเวลา 17.00 น.


จากนั้นมวลชนเคลื่อนไหวที่แยกปทุมวันตามนัดหมาย โดยมากันแบบดาวกระจาย และทยอยเข้าปักหลักชุมนุมกันในลักษณะฮ่องกงโมเดล ก่อนสถานการณ์จะค่อยๆ ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งช่วง 18.45 น. ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน ตำรวจตระเวนชายแดน ได้ตั้งแถวบริเวณถนนพระราม 1 หน้าศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมรถควบคุมฝูง ตรึงกำลังก่อนขยับจากแยกเฉลิมเผ่า เคลื่อนเข้าประชิดกับแผงเหล็กที่กั้นกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณสี่แยกปทุมวัน ทำให้มวลชนบางคนเดินไปตั้งแถวประชิดแนวกั้น ก่อนจะมีการกรูกันเข้าไปทางสยามดิสคัฟเวอรี่ เนื่องจากตำรวจพยายามเข้ายึดพื้นที่การชุมนุม ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง

จากนั้นเกิดการผลักดัน เจ้าหน้าที่ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง หากยังไม่ยุติการชุมนุม และไม่ถอยไปภายใน 2 นาที จะฉีดน้ำเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมนับถอยหลังจนครบเวลา 2 นาที แต่ผู้ชุมนุมไม่ทีท่าทียุติการชุมนุม

เวลา 18.50 น. เจ้าหน้าที่ตัดสินใจฉีดน้ำแรงดันสูงที่มีสารเคมีสีฟ้าเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม และมีการปะทะผลักดันกันเป็นระยะ ซึ่งสารเคมีสีฟ้านี้ไม่เฉพาะกลุ่มมวลชนถูกฉีดใส่ แม้แต่สื่อมวลชนก็หนีไม่พ้น ทำให้คนที่ถูกมีอาการแสบหน้าและผิวหนัง


อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดูเหมือนสงบไปสักระยะ เนื่องจากเจ้าหน้าที่หยุดฉีดน้ำ มวลชนคิดว่าทุกอย่างจะจบ แต่เจ้าหน้าที่กลับมีการฉีดน้ำสลับกับหยุดฉีดเป็นระยะ

เวลา 19.25 น. แกนนำประกาศให้ผู้ชุมนุมถอยกลับไปรวมตัวกันที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะเดียวกันมีการแจ้งผ่านโซเชียลมีเดียจากสโมสรนิสิตเภสัชศาสตร์ แจ้งถึงจุด Safe Zone ให้กับนิสิต หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินให้นิสิตเข้ามาหลบได้ที่ห้องสโมสร ด้านเจ้าหน้าที่ประกาศขอให้ทุกคนกลับบ้านโดยเร็ว พร้อมระบุจำเป็นต้องรักษากฎหมาย

เวลา 20.00 น. แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎรได้ประกาศผ่านรถติดเครื่องขยายเสียงให้ทุกคนเดินทางกลับและยุติการชุมนุม พร้อมนัดหมายเตรียมชุมนุมในวันนี้

เวลา 20.25 น. เฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอกโพสต์ระบุยุติการชุมนุม โปรดรอติดตามอัปเดตต่อไป ผู้สั่งการจะต้องรับผิดชอบในการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมในครั้งนี้ ซึ่งกว่าครึ่งเป็นเยาวชน เราขอประณามการกระทำของรัฐ ต่อไปนี้ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิม

จากนั้นมีรายงานว่า นายณัฐนนท์ ดวงสูงเนิน และนายอนุรักษ์ เจตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดงนักเคลื่อนไหวทางการเมืองถูกเจ้าหน้าที่จับกุมขึ้นรถคุมขัง หลังจากมีการสลายการชุมนุมที่แยกปทุมวัน และม็อบคณะราษฎรประกาศยุติการชุมนุม

ขณะที่นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี หรือฟอร์ด แกนนำกลุ่มเยาวชนปลดแอก และคณะราษฎร 2563 ก็ถูกจับกุมเช่นกัน โดยเจ้าตัวทวีตภาพหมายจับบนทวิตเตอร์ส่วนตัว พร้อมข้อความว่า “ผมโดนจับแล้ว กำลังไป ตชด. ภาค 1” ขณะที่เฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอกโพสต์คลิปนาทีถูกจับกุม

เวลา 20.40 น. ผู้ชุมนุมบางส่วนยังไม่ยอมแยกย้าย และปักหลักบริเวณแยกปทุมวัน ใกล้กับ MBK Center ทำให้ตำรวจใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดเข้าใส่ ผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง และมีการประกาศให้ผู้ชุมนุมแยกย้ายกลับบ้าน ทั้งยังมีการฉีดน้ำโดยใช้ความดันที่แรงขึ้นเรื่อยๆ

ใกล้ 21.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มบางตา และตำรวจพักการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงชั่วคราว เพราะสามารถนำรถพร้อมกำลังพลเคลื่อนเข้ามายังแยกปทุมวันได้สำเร็จ ทำให้ผู้ชุมนุมบางรายตะโกนว่าอย่ารังแกประชาชน และตำรวจต้องรับใช้ประชาชน

จากนั้นช่วง 21.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานที่บริเวณแยกปทุมวัน เจ้าหน้าที่กั้นพื้นที่ กันผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกไป รวมถึงสื่อมวลชนด้วย ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ใช้สิทธิ ส.ส. เจรจากับ ผบช.น. เพื่อขอเข้าไปด้านในแยกปทุมวัน นำตัวคนที่ติดอยู่ด้านในออกมา เนื่องจากตอนนี้คนที่อยู่ด้านในกลับออกมาไม่ได้ เพราะไม่มีรถ รวมถึงขอเจ้าหน้าที่อย่าฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุม

ภายหลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ช่วงเวลา 22.50 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้ตรวจเยี่ยมกองกำลังบริเวณสี่แยกปทุมวัน โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน

ขณะที่หน่วย EOD ทำการเคลียร์พื้นที่โดยรอบการชุมนุม ตั้งแต่สี่แยกปทุมวันถึงถนนพระราม 1 เบื้องต้นไม่พบวัตถุต้องสงสัย ทำให้ตำรวจควบคุมฝูงชนได้ตั้งเเถวก่อนทยอยกลับ ส่วนรถน้ำก็ได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ และเปิดการจราจรในเวลา 23.30 น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย