สำนักงานป.ป.ช. 16 ต.ค.-รองเลขาฯ ป.ป.ช.เผยคำร้องถุงมือยางอคส. อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันให้ความสำคัญเพราะงบสูง พร้อมแจงครูโคราชอุทธรณ์ต้นสังกัดหลังถูกไล่ออกกรณีสนามฟุตซอลได้ ถ้าคดีสิ้นสุดแล้วไม่ผิด ขอคืนสิทธิจากต้นสังกัดได้
นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า( อคส.) ยื่นเรื่องร้องเรียนป.ป.ช. กรณีทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางมูลค่า 112,500 ล้านบาท โดยไม่ได้ดำเนินการตามพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 รวมถึงกฎข้อบังคับและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งป.ป.ช.จะเร่งดำเนินการ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ
“กรรมการป.ป.ช.ก็มองว่าเป็นเรื่องที่งบประมาณสูง ให้เร่งดำเนินการ แต่เนื่องจากเรื่องกล่าวหาร้องเรียนมีอยู่จำนวนมาก ปัจจุบันจึงได้บริหารจัดการคดีในระบบที่รับไว้ก่อนตามเงื่อนไขข้อกฎหมายที่กำหนดกรอบการทำงานของป.ป.ช.” รองเลขาธิการป.ป.ช. กล่าว
นายนิวัติไชย กล่าวถึงกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนในจังหวัดนคราชสีมา 8 แห่ง ที่ถูกไล่ออกจากราชการ หลังจากป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีทุจริตโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอล และกำลังยื่นอุทธรณ์หักล้างข้อกล่าวหาของป.ป.ช.ไปยังต้นสังกัดให้พิจารณาโทษใหม่ ว่า เป็นการขอทบทวนมติการวินิจฉัยของคณะกรรมการป.ป.ช. แต่ยังไม่แน่ใจว่ามีเรื่องดังกล่าวเข้ามาหรือยัง ซึ่งเป็นเรื่องการร้องขอความเป็นธรรมตามกฎหมาย และผู้บังคับบัญชาสามารถร้องขอความเป็นธรรมแทนผู้ถูกกล่าวหาได้
“การที่ผู้อำนวยการโรงเรียนถูกไล่ออกไปแล้ว 8 แห่ง เป็นการดำเนินการเบื้องต้นของผู้บังคับบัญชาตามที่คณะกรรมการป.ป.ช.ส่งรายงานสำนวนไปให้ดำเนินการทางวินัย แต่ท้ายที่สุดแล้วพบว่าคนที่ถูกไล่ออกไม่มีความผิด จะสามารถได้ตำแหน่งคืนหรือไม่ ในหลักของกฎหมายถ้าศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าเขาไม่ผิด เขาสามารถเรียกร้องเพื่อให้คืนสิทธิของเขาได้ ทางต้นสังกัดต้องไปดู แต่ต้องให้คดีถึงที่สุดก่อน” รองเลขาธิการป.ป.ช. กล่าว.-สำนักข่าวไทย