รัฐสภา 6 ต.ค.- ญัตติแก้ รธน.รายมาตราของฝ่ายค้านส่อโมฆะ ซ้ำซ้อนตั้ง ส.ส.ร. ด้าน “ชัยวุฒิ” อัดฝ่ายค้านละเมิดเสียงข้างมาก จ้องโยนบาปให้รัฐบาล – ส.ว.
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ก่อนรับหลักการ รัฐสภา เปิดเผย ผลความคืบหน้าการพิจารณาญัตติการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้าน ว่า ในญัตติการแก้ไขรายมาตราของฝ่ายค้าน ทั้งการแก้ไขระบบการเลือกตั้ง การปิดสวิตช์ ส.ว. การกำหนดให้นายกรัฐมนตรี ต้องเป็น ส.ส. อาจขัดต่อญัตติการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายกร่างใหม่ทั้งฉบับ
“เนื่องจากเมื่อมีการตั้ง ส.ส.ร. ก็ต้องมีการยกร่างแก้ไขทั้งฉบับอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีการแก้ไขบางมาตรา แต่หากฝ่ายค้านเห็นว่า จะไม่ตั้ง ส.ส.ร. เพื่อแก้รายมาตรา ก็ต้องมาหารือกัน ไม่ใช่ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรม เพราะการที่ฝ่ายค้านไม่มาร่วมการชี้แจง หรือมาทำความเข้าใจร่วมกัน ในประเด็นที่กรรมาธิการยังมีข้อสงสัย ถือว่าฝ่ายค้านไม่เคารพหลักการตามกระบวนการประชาธิปไตย ไม่ปฏิบัติตามเสียงข้างมากของรัฐสภา จึงเรียกร้องให้ฝ่ายค้าน ทบทวนบทบาทหน้าที่ด้วย และตั้งข้อสังเกต การไม่ร่วมสังฆกรรมของฝ่ายค้าน อาจเป็นการโยนบาปให้ ส.ส.รัฐบาล และวุฒิสภา” นายชัยวุฒิ กล่าว
ขณะที่ นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ในฐานะโฆษกกรรมาธิการฯ กล่าวถึง กระบวนการทำประชามติ หลังมีข้อกังวลการตั้ง ส.ส.ร.เพื่อยกร่างนัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อาจเป็นโมฆะตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อปี 2556 ว่า กรรมาธิการได้มอบหมายอนุกรรมาธิการไปพิจารณาว่า จะต้องจัดการออกเสียงประชามติในช่วงใด ทั้งก่อนการแก้ไข หรือเมื่อผ่านวาระ 3 แล้ว ซึ่งอนุกรรมาธิการจะไปศึกษาหาความชัดเจนต่อไป ทั้งนี้ มีรายงานว่า ฝ่ายกฎหมายของกรรมาธิการอยู่ระหว่างการพิจารณาว่า ญัตติการแก้ไขรายมาตราของฝ่ายค้าน ซ้ำซ้อนกับญัตติการแก้ไขในมาตรา 256 เพื่อตั้ง ส.ส.ร. หรือไม่ ซึ่งหากซ้ำซ้อน ญัตติก็อาจเป็นโมฆะ เพราะไม่สามารถดำเนินการซ้ำซ้อนคู่กันได้ .- สำนักข่าวไทย