กองบัญชาการกองทัพบก 6 ต.ค.-เครือข่ายประชาชนพิทักษ์สิทธิเสรีภาพและความเป็นธรรม ยื่นหนังสือ ผบ.ทบ. ลงโทษทหารทำร้ายเด็ก ยกเลิกแทรกแซงการเรียนการสอนความรักชาติ ชี้ไม่ใช่หน้าที่หลักของทหาร ผบ.ทบ แจง ถ้ามีหลักฐานทหารเข้าโรงเรียนให้ส่งมา
นายวรา จันทร์มณี เลขาธิการเครือข่ายประชาชนพิทักษ์สิทธิเสรีภาพและความเป็นธรรม ยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก กรณีมีทหาร เข้าไปบรรยายและฉายวิดีโอในโครงการ “เสริมสร้างอุดมการณ์ความรักชาติ” ที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ลักษณะแทรกแซงการเรียนการสอนโดยที่นักเรียนไม่ได้สมัครใจเข้าร่วมไม่ได้มีการแจ้งหรือนัดหมายล่วงหน้าอีกทั้งไม่ใช่หน้าที่ของทหารในการปลูกฝังเรื่องสถาบันกษัตริย์ในโรงเรียน ซ้ำร้ายยังมีทหารต่อยท้องนักเรียน 2-3 ครั้ง จากนั้นก็กอดอย่างแรง แล้วพูดว่าหล่อ เป็นการกระทำที่เข้าข่ายทำร้ายข่มขู่คุกคามเด็ก ซึ่งแม้จะมีการไกล่เกลี่ยของผู้ใหญ่ อ้างว่าหยอกเล่น แต่ก็ไม่ใช่ความยินยอมของเด็ก ไม่มีใครมีสิทธิละเมิดร่างกายผู้อื่นโดยเฉพาะเยาวชน
“ขอเรียกร้องให้ลงโทษทหารที่ข่มขู่ คุกคามทำร้ายละเมิดร่างกายเด็ก ขอให้ทหารเลิกไปแทรกแซงการเรียนการสอนในโรงเรียนและสถาบันการศึกษา และขอวิดีโอที่นำไปเผยแพร่ในโรงเรียน เพื่อนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะ สังคมไทยจะได้ศึกษาเรียนรู้ไปด้วยกัน ไม่ต้องแอบไปฉายในโรงเรียน และไม่สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินที่ต้องใช้ดำเนินการในเรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่ของทหาร และไม่ใช่เรื่องที่ประชาชนผู้เสียภาษีต้องการให้ทหารทำ”นายวรา กล่าว
ทางเครือข่ายได้แนบหลักฐาน ซึ่งเป็นข้อความผ่านทวิตเตอร์ ที่นักเรียนและเพื่อน โพสข้อความว่าถูกทหารเข้ามาบรรยายล้างสมองและคุกคามทำร้ายร่างกายด้วย แต่ไม่มีภาพการทำร้าย ไม่ทราบชื่อทหารที่ลงมือทำ
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงประเด็นนี้ว่า ได้รับรายงานแล้ว ซึ่งสิ่งที่ได้มอบหมายงานลงไป แต่ละคนแต่ละหน่วยก็มีวิธีปฏิบัติงานที่แตกต่างกัน ความเข้าใจอาจไม่เป็นเต็มร้อย ไม่มีใครสมบูรณ์ 100% เพราะทำงานตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ก็มีทหารเข้าไปในหลายโรงเรียน ผบ.ทบ. กล่าวว่า โรงเรียนมีกี่โรงเรียนในประเทศไทย ทหารคงไปตามหมดไม่ไหว หากมีหลักฐานก็ให้แจ้งเข้ามา เพราะกองทัพบกไม่มีนโยบายในเรื่องนี้ เด็กก็คือเด็ก เราก็มีลูกมีหลาน ซึ่งเด็กก็มีความคิดของเขา มีโลกส่วนตัวของเขา.-สำนักข่าวไทย