กรุงเทพฯ 1 ต.ค.- “วันวิชิต” มอง เพื่อไทยปรับ กก.บห. เหมือนรียูเนี่ยน ‘ไทยรักไทย-พลังประชาชน’ ชี้ ‘สมพงษ์’ แค่หัวหน้าขัดตาทัพ เชื่อมีทีเด็ดแต่ยังไม่เปิดตัว มั่นใจ พรรคเพื่อไทยมีเอกภาพมากขึ้น คาด ปูฐานดึงมวลชนคนรุ่นใหม่เตรียมเลือกตั้งท้องถิ่น หลังให้ ส.ส.เขตเป็น กก.บห.มากขึ้น
นายวันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ วิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ของพรรคเพื่อไทยว่า เป็นการรียูเนียนความเป็นไทยรักไทยและพลังประชาชนเดิม เพื่อเป็นการปลุกขวัญและกำลังใจ รวมถึงผสมผสานคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ อย่างการตั้ง น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ จากตำแหน่งเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ก้าวไปสู่ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค เป็นการสลายอิทธิพลของขั้วคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แต่การนำนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เข้ามาเป็นเลขาธิการพรรค นั้น ส่วนตัวมองว่านายประเสริฐมีบุคลิกที่สามารถเข้ากันได้กับทุกกลุ่ม และนายประเสริฐมีสปอนเซอร์ ที่ใกล้ชิดกับนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ซึ่งถือเป็นผู้มีอำนาจคนหนึ่งในสมัยไทยรักไทย ดังนั้น ก็จะเหมือนกับแม่น้ำที่เคยแตกสายมาก่อนกลับเข้ามาอยู่ด้วยกัน
นอกจากนี้ การที่มีโฆษกพรรคคือ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ ซึ่งเคยเป็นผู้สมัครของพรรคไทยรักษาชาติ เท่ากับว่าองคาพยพที่เคย กระเด็นออกไป ได้กลับเข้ามารวมในที่ตั้ง ดังนั้นแน่นอนว่า เพื่อไทยมารอบนี้ นอกจากจะปฏิรูปภายในองค์กรพรรคแล้ว ยังหวังเล่นการเมืองระยะยาว เพราะที่ผ่านมาการปล่อยให้ทีมงานของคุณหญิงสุดารัตน์มีบทบาทในพรรค นำไปสู่ความไม่มีเอกภาพ อีกทั้งยังไม่สามารถตอบโจทย์อะไรใหม่ ๆ ได้ พรรคเพื่อไทยมีความเคลื่อนไหวเป็นรองกว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน อย่างพรรคก้าวไกลด้วยซ้ำ ทั้งการต่อสู้และการชิงไหวชิงพริบ
นายวันวิชิต กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงรอบนี้ ที่จะมีการดึงกลุ่มแคร์เข้ามา แม้จะไม่มีชื่อ แต่ก็ดึงให้มาใกล้ชิดกัน ซึ่งพรรคเพื่อไทย มองว่า กลุ่มแคร์เป็นกลุ่มความเคลื่อนไหวทางการเมืองน้ำดี ที่จะสามารถตอบโจทย์และขยายฐาน แฟนคลับคนรุ่นใหม่ ที่สามารถแย่งชิงจากมวลชนของพรรคก้าวไกลได้
ส่วนการปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะทำให้พรรคเพื่อไทย กลับมาเฟื่องฟูเหมือนในอดีตหรือไม่นั้น นายวันวิชิต กล่าวว่า ต้องรอดูการทำงานก่อน แต่มั่นใจว่า จะทำให้พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นเอกภาพมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาในการเลือกตั้งซ่อมหลายพื้นที่ ซึ่งปล่อยให้คุณหญิงสุดารัตน์เข้ามามีบทบาท แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งซ่อม
นายวันวิชิต กล่าวว่า หลังจากนี้จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นตัววัดพลังของพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ การที่พรรคเพื่อไทยให้ ส.ส.เขต เข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรคมากขึ้นนั้น แสดงให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งท้องถิ่น และให้ความสำคัญกับ ส.ส.ที่มาจากเขต ซึ่งมีประสบการณ์และเข้าถึงคนในพื้นที่ และการหวังท่อน้ำเลี้ยง ไม่จำเป็นอีกแล้ว หลังจากนี้ จะเน้นยุทธศาสตร์การขยายมวลชน คนที่มีความจงรักภักดีกับพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะคนที่ชื่นชมสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ส่วนตัวก็มองว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ มาเป็นหัวหน้าพรรคแค่ขัดตาทัพเท่านั้น เพราะพรรคเพื่อไทยน่าจะมีทีเด็ดคือยังไม่เปิดเผยตัว เนื่องจากหัวหน้าพรรคจะต้องเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย