รัฐสภา 30 ก.ย.-อธิบดีกรมที่ดิน – ป่าไม้ ยืนยันที่ “ศรีพันวา” ซื้อจากประชาชนไม่ใช่ที่ของรัฐ ไม่รุกที่ป่า ขณะที่รองผู้ว่าฯ ภูเก็ต ยืนยันขออนุญาตก่อสร้างถูกต้อง
การประชุมคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (30 ก.ย.) มีนายอภิชาติ ศิริสุนทร เป็นประธาน โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลกรณีที่ดิน “รีสอร์ท ศรีพันวา” จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ปลัดจังหวัดภูเก็ต ที่ดินภูเก็ต โดยประเด็นสำคัญที่กรรมาธิการหยิบยกขึ้นมาพิจารณา คือที่ดินดังกล่าวเป็นของรัฐหรือไม่ เป็นป่าหรือไม่ และหากมีสิทธิครอบครอง กรรมสิทธิ์ในการครอบครองเป็นประเภทใด รวมถึงการออกเอกสารสิทธิเป็นไปโดยชอบหรือไม่
นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ชี้แจงเป็นคนแรก โดยนำแผนที่การดำเนินการของโรงแรมตั้งแต่ ปี 2546 มาแสดง พร้อมกล่าวว่า ศรีพันวาขออนุญาตก่อสร้างถูกต้อง และทุกครั้งที่จะขยายแปลง จะประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ทุกครั้ง ซึ่งไม่พบความผิดปกติ
ด้านนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า ได้ตรวจสอบแปลงที่ดินดังกล่าวแล้วตามที่กระทรวงมหาดไทยสั่งให้ดำเนินการ พบว่าที่ดินของศรีพันวาภูเก็ตมี โฉนด 2 แปลง ที่เหลือเป็นนส. 3 ก. กว่า 50 แปลง รวมเนื้อที่กว่า 63 ไร่ 2 งาน ส่วนการได้มาของที่ดิน จุดเริ่มต้นทั้งหมดมาจากสค. 1 ของประชาชนในพื้นที่ ก่อนออกเป็น นส. 3 ก. ยืนยันว่าการซื้อขายเป็นไปอย่างถูกต้อง ไม่ได้อยู่ในเขตป่าไม้ เขตป่าสงวน หรือที่ราชพัสดุ แต่ยอมรับว่าพื้นดังกล่าวเป็นพื้นที่เขาและมีความลาดชัน แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า ได้ครอบครองมาก่อนประกาศพื้นที่ควบคุมเขตเขาและเขตลาดชัน
ส่วนประเด็นที่กรรมาธิการตั้งคำถามถึงนายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาในคดีปลอมแปลงเอกสารและออกเอกสารสิทธิในที่ดินจังหวัดพังงาและภูเก็ตโดยมิชอบ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดินศรีพันวาหรือไม่ อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า ไม่มีชื่อบุคคลดังกล่าว ซึ่งอยู่คนละช่วงเวลากับการออกเอกสารสิทธิที่ดินของศรีพันวา เป็นการซื้อขายที่ดินจากชาวบ้านในพื้นที่ทั้งหมดและไม่ใช่ที่ของรัฐ
ขณะที่นายชีวะภาพ ชี้ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ชี้แจงว่า โครงการศรีพันวาตั้งอยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไม้ถาวร ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี และอยู่นอกเขตอุทยานด้วย โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากป่าสงวน 3 กิโลเมตร โอกาสที่จะคาบเกี่ยวกันจึงไม่มี แต่ยอมรับว่า พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพพื้นที่เป็นป่าตามมาตรา 4 ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 แต่เมื่อมีเอกสารสิทธิ์แล้วถือว่าไม่ได้มีสภาพเป็นป่า อย่างไรก็ตาม กรมป่าไม้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องการออกเอกสารสิทธิ์ ของ “รีสอร์ท ศรีพันวา” ขณะที่ความลาดชัน เป็นเรื่องที่กรมพัฒนาที่ดินดูแล
ทั้งนี้ กรรมาธิการส่วนใหญ่ตั้งคำถามว่า หากเป็นชาวบ้านทั่วไปสามารถทำแบบนี้ได้หรือไม่ และที่ดินลักษณะนี้หากเป็นในต่างประเทศจะออกเอกสารให้ยากมาก เช่นเดียวกับหากเป็นประชาชนทั่วไปขอออก นส 3 ก. ในลักษณะนี้ จะดำเนินการได้ยากเช่นกัน จึงมีมติขอภาพถ่ายทางอากาศของจังหวัดภูเก็ตมาศึกษา พร้อมขอให้ถ่ายสำเนาที่ดินสค.1 ของจังหวัดภูเก็ตทั้งเกาะมาให้กรรมาธิการฯ ตรวจสอบและส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าจะสามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้เป็นจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย