จำคุกอดีตอธิบดี ปค. 3 ปี คดีทุจริตสอบนายอำเภอปี 52

ศาลอาญา 29 ก.ย.- ศาลอาญาคดีทุจริตฯพิพากษาจำคุก 3 ปีไม่รอลงอาญา อดีตอธิบดีกรมการปกครอง อดีตผอ.ส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้าน ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ157 ทุจริตการสอบนายอำเภอปี 52 ส่วนผู้เข้าสอบ 103 คน โดนคุกระนาวคนละ2ปีปรับ1.2หมื่นบาท แต่รอลงอาญา 2 ปี


ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ซอยสีคาม ถ.นครชัยศรี ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่ พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง จำเลยที่ 1 นายสำราญ ตันเรืองศรี อดีต ผ.อ.ส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้านจำเลยที่ 2 นายครรชิต สลับแสง อดีตเลขานุการกรมการปกครองจำเลยที่ 3 กับพวกรวม 119 คน (จำเลยที่ 4-119 เป็นผู้สอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ มีนายคิม ปรีเปรม อดีตเลขานุการส่วนตัวของอดีตอธิบดีกรมการปกครองเป็นจำเลยที่ 117)

คำฟ้องระบุว่า ระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552 ถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2552 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 ขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองและจำเลยที่ 2 ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้าน สำนักบริหารการปกครองท้องที่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทุจริต โดยมีจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 119 ร่วมช่วยเหลือสนับสนุนในการกระทำผิด กล่าวคือ จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ร่วมกับนายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ซึ่งมีหน้าที่จัดระบบและบริหารงานบุคคล ตลอดจนรับผิดชอบการคัดเลือกข้าราชการเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอ ในขณะนั้น


วางแผนและกระทำการช่วยเหลือผู้เข้าทดสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552 ตามรายชื่อจำนวน 150 รายชื่อที่ จำเลยที่ 3 นำมาให้เป็นผู้ผ่านการทดสอบคัดเลือก ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของผู้มีอำนาจการเมืองขณะนั้น โดยจำเลยที่ 1 และนายวุฒิชัย ซึ่งเป็นคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบอัตนัยได้ทำการคัดเลือกข้อสอบอัตนัย ภาคความรู้ ความสามารถทั่วไปที่นายวุฒิชัย เป็นผู้ออกข้อสอบข้อหนึ่ง และคัดเลือกข้อสอบอัตนัย ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งที่จำเลยที่ 2 เป็นผู้ออกข้อสอบอีกข้อหนึ่ง เพื่อใช้ในการทดสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552 เพื่อให้จำเลยที่ 2 และนายวุฒิชัยจะได้เป็นผู้มีหน้าที่ในการตรวจข้อสอบ

ต่อมาเมื่อการทดสอบคัดเลือกแล้วเสร็จ นายวุฒิชัย โดยการรู้เห็นสั่งการของจำเลยที่ 1 ได้นำข้อสอบอัตนัยมาเก็บรักษาไว้ ตามอำนาจหน้าที่ของตน จากนั้นนายวุฒิชัย ได้ร่วมกับจำเลยที่ 3 ทำการจัดเรียงลำดับรายชื่อ จำนวน 150 รายชื่อดังกล่าวข้างต้น ให้เป็นผู้ผ่านการทดสอบเพื่อให้ได้ลำดับและรุ่นที่เข้าอบรมตามความต้องการของผู้มีอำนาจการเมือง นายวุฒิชัย ได้จัดทำเอกสารการลงคะแนนวิชาภาคความรู้ความสามารถทั่วไป โดยนายวุฒิชัยเป็นผู้ลงนามรับรองคะแนนในฐานะเป็นผู้ตรวจให้คะแนน และจัดทำเอกสารการลงคะแนนวิชาภาคความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่งไปให้จำเลยที่ 2 ซึ่งได้รับมอบหมายให้ตรวจข้อสอบอัตนัยข้อวิชาความรู้ความสามารถ เฉพาะตำแหน่งที่ตนเป็น ผู้ออกข้อสอบ ทำการตรวจข้อสอบและกรอกคะแนนที่ได้จากการตรวจข้อสอบลงในเอกสารดังกล่าว

แต่จำเลยที่ 2 กลับกระทำโดยมิชอบลงชื่อรับรองเป็นหลักฐานว่าตนเป็นผู้ทำการตรวจข้อสอบในเอกสารการลงคะแนนทั้งที่ตนไม่ได้ทำการตรวจข้อสอบจริง ตามที่ได้รับมอบหมายแต่อย่างใด จากนั้นส่งมอบคืนให้นายวุฒิชัย นำกลับไปใช้กรอกข้อความลงคะแนนเท็จ ช่วยให้ผู้เข้าทดสอบที่มีรายชื่อจำนวน 150 คน จนได้รับการคัดเลือกเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552 รุ่นที่ 68, 69 และ 70 ตรงตามที่จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ได้วางแผนร่วมกับนายวุฒิชัย อันเป็นการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นอันเป็นเท็จและรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นเท็จ ทั้งนี้เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ผู้เข้าทำการทดสอบที่มีรายชื่อจำนวน 150 คน ให้ผ่านการคัดเลือกเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552


ภายหลังจากมีการประกาศรายชื่อบุคคลผู้ผ่านการทดสอบและผู้ผ่านการทดสอบอยู่ระหว่างทำการอบรมหลักสูตรนายอำเภอรุ่นที่ 68, 69 และรุ่นที่ 70 อยู่นั้น จำเลยที่ 1 และนายวุฒิชัย ได้ร่วมกันวางแผนและกระทำการปกปิดการกระทำผิด โดยจำเลยที่ 1 สั่งการให้จำเลยที่ 117 ตัวแทนรุ่นที่ 68 จำเลยที่ 119 กับจำเลยที่ 76 ตัวแทนรุ่นที่ 69 และจำเลยที่ 103 ตัวแทนรุ่นที่ 70 มารับตัวอย่างคำตอบข้อสอบอัตนัยวิชาความรู้ความสามารถทั่วไปและวิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง จำนวนหลายแบบและสมุดกระดาษคำตอบเปล่าที่เหลือจากการทดสอบ จากนายวุฒิชัยเพื่อนำไปให้ผู้ที่เข้าศึกษาอบรมในรุ่นที่ 68, 69 และ 70 ที่อยู่ในรายชื่อที่ได้รับการช่วยเหลือให้ผ่านการทดสอบ จำนวน 150 รายชื่อ ทำการเขียนคำตอบขึ้นใหม่ลงใน-สมุดกระดาษคำตอบเปล่าโดยจำเลยที่ 117 ได้นำกลับไปให้จำเลยที่ 118 และจำเลยที่ 4 ถึงจำเลยที่ 49 รวมถึงตนเอง ซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอรุ่นที่ 68 ทำการเขียนคำตอบตามแบบตัวอย่างที่รับมาลงในสมุดกระดาษคำตอบเปล่า

ส่วนจำเลยที่ 119 กับจำเลยที่ 76 ได้นำกลับไปให้จำเลยที่ 50 ถึงจำเลยที่ 75 และจำเลยที่ 77 ถึงจำเลยที่ 88 รวมถึงตัวจำเลยที่ 119 กับจำเลยที่ 76 ซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างการศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอรุ่นที่ 69 ทำการเขียนคำตอบตามแบบตัวอย่าง ที่รับมาลงในกระดาษคำตอบเปล่า ส่วนจำเลยที่ 103 ได้นำกลับไปให้จำเลยที่ 89 ถึงจำเลยที่ 102 และจำเลยที่ 104 ถึงจำเลยที่ 116 และนายชูชีพ มหโชค ซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง รวมถึงตนเองซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างการศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอรุ่นที่ 70 ทำการเขียนคำตอบตามแบบตัวอย่างที่รับมาลงในกระดาษ คำตอบเปล่าด้วยเช่นกัน จากนั้นจำเลยที่ 117 จำเลยที่ 76 และจำเลยที่ 103 ได้ทำการรวบรวมกระดาษคำตอบซึ่งเขียนขึ้นใหม่ดังกล่าว มามอบให้แก่นายวุฒิชัย

นายวุฒิชัย อาศัยโอกาสที่ตนเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดูแล รักษาเอกสารกระดาษสมุดคำตอบด้วยความรู้เห็นสั่งการของจำเลยที่ 1 ได้กระทำการปลอมเอกสารกระดาษคำตอบโดยนำกระดาษคำตอบต้นฉบับจริงที่ได้จากการทดสอบออกจากปกสมุดคำตอบ แล้วนำกระดาษคำตอบที่เขียนคำตอบขึ้นใหม่ซึ่งรับมาจากจำเลยที่ 117 และจำเลยที่ 76 กับจำเลยที่ 103 มาใส่แทนที่กระดาษคำตอบต้นฉบับจริง ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่มาตรวจสอบสมุดคำตอบหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบข้อทุจริตการสอบ เชื่อว่าสมุดคำตอบเป็นสมุดคำตอบที่แท้จริงที่ทำขึ้นโดย จำเลยที่ 4 ถึงจำเลยที่ 119 และนายชูชีพ มหโชค ในขณะที่มีการทดสอบจริงอันเป็นการปลอมเอกสารสมุดคำตอบโดยมิชอบต่อกฎหมาย

การกระทำของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และนายวุฒิชัย เสาวโกมุท เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทุจริต ตลอดจนปลอมแปลงเอกสารและทำเอกสารหลักฐานอันเป็นเท็จเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่กรมการปกครองและบุคคลอื่นที่เข้าทำการทดสอบแต่ไม่ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552 รวมถึงบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยมีจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 119 และนายชูชีพ มหโชค ซึ่งมิใช่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด เหตุเกิดที่ กรมการปกครอง แขวงราชบพิธ เขตพระนคร และเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร, ค่ายธนะรัชต์ ตำบลเขาน้อย อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, วิทยาลัยการปกครอง อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี, ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 157, 161,162

โดยศาลพิเคราะห์เเล้วมีคำพิพากษาจำคุกอดีตอธิบดีกรมการปกครอง จำเลยที่ 1 ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ,ป.อ.มาตรา 161 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสารทำการปลอมเอกสารฯ,ป.อ.มาตรา 162 (1) (4) ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารฯ ซึ่งได้กระทำการด้วยการรับรองอันเป็นเท็จฯ ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักสุด ให้จำคุก 3 ปี โดยไม่รอการลงโทษ

สำหรับ อดีตผอ.ส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐสังกัดกรมการปกครอง จำเลยที่ 2 ผิดตามป.อ. มาตรา 157,162 (1) (4) ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ที่เป็นบทหนักสุด จำคุก 3 ปี โดยไม่รอการลงโทษเช่นกัน

ส่วน อดีตเลขานุการกรมฯ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐสังกัดกรมการปกครอง จำเลยที่3 ผิดตามป.อ.มาตรา 157,162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้กระทำความผิด จึงให้จำคุก 2 ปีโดยไม่รอการลงโทษ ฐานสนับสนุน ตาม มาตรา157, 86

กลุ่มประธานรุ่นและเลขารุ่นที่ไปช่วยเปลี่ยนข้อสอบ ซึ่งประกอบด้วย จำเลยที่ 48,76,103,117,119 พิพากษาลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนให้กระทำความผิดตามป.อ.มาตรา 157,162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 ให้จำคุกคนละ 2 ปี ไม่รอการลงโทษ ฐานสนับสนุนตามมาตรา157 ,86 อันเป็นบทหนักสุด

และกลุ่มผู้เข้าสอบที่ไม่ยอมรับว่ามีการเขียนข้อสอบใหม่ รวม 103 คน ประกอบด้วย จำเลยที่ 4-6,8-18,20-39,41-47,49-72,74-75,78-79,81-102,104,106-116,118 มีความผิดตามฐานเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิดตามป.อ.มาตรา 157 ,161 ประกอบมาตรา 86 ให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนันสนุนกระทำความผิดตามมาตรา 157 ประกอบ 86 จำคุกคนละ 2 ปี และปรับคนละ 12,000 บาท โดยโทษจำคุกนั้น ให้รอการลงโทษไว้กำหนดคงละ 2 ปี

และพิพากษายกฟ้อง จำเลยที่ 7,37,40,73,77,80,105 ที่เป็นผู้เข้าสอบนั้นพยานหลักฐานยังฟังไม่ได้ว่ากระทำความผิด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]