จำคุกอดีตอธิบดี ปค. 3 ปี คดีทุจริตสอบนายอำเภอปี 52

ศาลอาญา 29 ก.ย.- ศาลอาญาคดีทุจริตฯพิพากษาจำคุก 3 ปีไม่รอลงอาญา อดีตอธิบดีกรมการปกครอง อดีตผอ.ส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้าน ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ157 ทุจริตการสอบนายอำเภอปี 52 ส่วนผู้เข้าสอบ 103 คน โดนคุกระนาวคนละ2ปีปรับ1.2หมื่นบาท แต่รอลงอาญา 2 ปี


ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ซอยสีคาม ถ.นครชัยศรี ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่ พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง จำเลยที่ 1 นายสำราญ ตันเรืองศรี อดีต ผ.อ.ส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้านจำเลยที่ 2 นายครรชิต สลับแสง อดีตเลขานุการกรมการปกครองจำเลยที่ 3 กับพวกรวม 119 คน (จำเลยที่ 4-119 เป็นผู้สอบเข้าโรงเรียนนายอำเภอ มีนายคิม ปรีเปรม อดีตเลขานุการส่วนตัวของอดีตอธิบดีกรมการปกครองเป็นจำเลยที่ 117)

คำฟ้องระบุว่า ระหว่างวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552 ถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2552 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 ขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองและจำเลยที่ 2 ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้าน สำนักบริหารการปกครองท้องที่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทุจริต โดยมีจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 119 ร่วมช่วยเหลือสนับสนุนในการกระทำผิด กล่าวคือ จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ร่วมกับนายวุฒิชัย เสาวโกมุท ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ซึ่งมีหน้าที่จัดระบบและบริหารงานบุคคล ตลอดจนรับผิดชอบการคัดเลือกข้าราชการเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอ ในขณะนั้น


วางแผนและกระทำการช่วยเหลือผู้เข้าทดสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552 ตามรายชื่อจำนวน 150 รายชื่อที่ จำเลยที่ 3 นำมาให้เป็นผู้ผ่านการทดสอบคัดเลือก ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของผู้มีอำนาจการเมืองขณะนั้น โดยจำเลยที่ 1 และนายวุฒิชัย ซึ่งเป็นคณะกรรมการคัดเลือกข้อสอบอัตนัยได้ทำการคัดเลือกข้อสอบอัตนัย ภาคความรู้ ความสามารถทั่วไปที่นายวุฒิชัย เป็นผู้ออกข้อสอบข้อหนึ่ง และคัดเลือกข้อสอบอัตนัย ภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่งที่จำเลยที่ 2 เป็นผู้ออกข้อสอบอีกข้อหนึ่ง เพื่อใช้ในการทดสอบคัดเลือกข้าราชการเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552 เพื่อให้จำเลยที่ 2 และนายวุฒิชัยจะได้เป็นผู้มีหน้าที่ในการตรวจข้อสอบ

ต่อมาเมื่อการทดสอบคัดเลือกแล้วเสร็จ นายวุฒิชัย โดยการรู้เห็นสั่งการของจำเลยที่ 1 ได้นำข้อสอบอัตนัยมาเก็บรักษาไว้ ตามอำนาจหน้าที่ของตน จากนั้นนายวุฒิชัย ได้ร่วมกับจำเลยที่ 3 ทำการจัดเรียงลำดับรายชื่อ จำนวน 150 รายชื่อดังกล่าวข้างต้น ให้เป็นผู้ผ่านการทดสอบเพื่อให้ได้ลำดับและรุ่นที่เข้าอบรมตามความต้องการของผู้มีอำนาจการเมือง นายวุฒิชัย ได้จัดทำเอกสารการลงคะแนนวิชาภาคความรู้ความสามารถทั่วไป โดยนายวุฒิชัยเป็นผู้ลงนามรับรองคะแนนในฐานะเป็นผู้ตรวจให้คะแนน และจัดทำเอกสารการลงคะแนนวิชาภาคความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่งไปให้จำเลยที่ 2 ซึ่งได้รับมอบหมายให้ตรวจข้อสอบอัตนัยข้อวิชาความรู้ความสามารถ เฉพาะตำแหน่งที่ตนเป็น ผู้ออกข้อสอบ ทำการตรวจข้อสอบและกรอกคะแนนที่ได้จากการตรวจข้อสอบลงในเอกสารดังกล่าว

แต่จำเลยที่ 2 กลับกระทำโดยมิชอบลงชื่อรับรองเป็นหลักฐานว่าตนเป็นผู้ทำการตรวจข้อสอบในเอกสารการลงคะแนนทั้งที่ตนไม่ได้ทำการตรวจข้อสอบจริง ตามที่ได้รับมอบหมายแต่อย่างใด จากนั้นส่งมอบคืนให้นายวุฒิชัย นำกลับไปใช้กรอกข้อความลงคะแนนเท็จ ช่วยให้ผู้เข้าทดสอบที่มีรายชื่อจำนวน 150 คน จนได้รับการคัดเลือกเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552 รุ่นที่ 68, 69 และ 70 ตรงตามที่จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ได้วางแผนร่วมกับนายวุฒิชัย อันเป็นการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นอันเป็นเท็จและรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นเท็จ ทั้งนี้เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ผู้เข้าทำการทดสอบที่มีรายชื่อจำนวน 150 คน ให้ผ่านการคัดเลือกเข้าอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552


ภายหลังจากมีการประกาศรายชื่อบุคคลผู้ผ่านการทดสอบและผู้ผ่านการทดสอบอยู่ระหว่างทำการอบรมหลักสูตรนายอำเภอรุ่นที่ 68, 69 และรุ่นที่ 70 อยู่นั้น จำเลยที่ 1 และนายวุฒิชัย ได้ร่วมกันวางแผนและกระทำการปกปิดการกระทำผิด โดยจำเลยที่ 1 สั่งการให้จำเลยที่ 117 ตัวแทนรุ่นที่ 68 จำเลยที่ 119 กับจำเลยที่ 76 ตัวแทนรุ่นที่ 69 และจำเลยที่ 103 ตัวแทนรุ่นที่ 70 มารับตัวอย่างคำตอบข้อสอบอัตนัยวิชาความรู้ความสามารถทั่วไปและวิชาความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง จำนวนหลายแบบและสมุดกระดาษคำตอบเปล่าที่เหลือจากการทดสอบ จากนายวุฒิชัยเพื่อนำไปให้ผู้ที่เข้าศึกษาอบรมในรุ่นที่ 68, 69 และ 70 ที่อยู่ในรายชื่อที่ได้รับการช่วยเหลือให้ผ่านการทดสอบ จำนวน 150 รายชื่อ ทำการเขียนคำตอบขึ้นใหม่ลงใน-สมุดกระดาษคำตอบเปล่าโดยจำเลยที่ 117 ได้นำกลับไปให้จำเลยที่ 118 และจำเลยที่ 4 ถึงจำเลยที่ 49 รวมถึงตนเอง ซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอรุ่นที่ 68 ทำการเขียนคำตอบตามแบบตัวอย่างที่รับมาลงในสมุดกระดาษคำตอบเปล่า

ส่วนจำเลยที่ 119 กับจำเลยที่ 76 ได้นำกลับไปให้จำเลยที่ 50 ถึงจำเลยที่ 75 และจำเลยที่ 77 ถึงจำเลยที่ 88 รวมถึงตัวจำเลยที่ 119 กับจำเลยที่ 76 ซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างการศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอรุ่นที่ 69 ทำการเขียนคำตอบตามแบบตัวอย่าง ที่รับมาลงในกระดาษคำตอบเปล่า ส่วนจำเลยที่ 103 ได้นำกลับไปให้จำเลยที่ 89 ถึงจำเลยที่ 102 และจำเลยที่ 104 ถึงจำเลยที่ 116 และนายชูชีพ มหโชค ซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง รวมถึงตนเองซึ่งขณะนั้นอยู่ระหว่างการศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอรุ่นที่ 70 ทำการเขียนคำตอบตามแบบตัวอย่างที่รับมาลงในกระดาษ คำตอบเปล่าด้วยเช่นกัน จากนั้นจำเลยที่ 117 จำเลยที่ 76 และจำเลยที่ 103 ได้ทำการรวบรวมกระดาษคำตอบซึ่งเขียนขึ้นใหม่ดังกล่าว มามอบให้แก่นายวุฒิชัย

นายวุฒิชัย อาศัยโอกาสที่ตนเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดูแล รักษาเอกสารกระดาษสมุดคำตอบด้วยความรู้เห็นสั่งการของจำเลยที่ 1 ได้กระทำการปลอมเอกสารกระดาษคำตอบโดยนำกระดาษคำตอบต้นฉบับจริงที่ได้จากการทดสอบออกจากปกสมุดคำตอบ แล้วนำกระดาษคำตอบที่เขียนคำตอบขึ้นใหม่ซึ่งรับมาจากจำเลยที่ 117 และจำเลยที่ 76 กับจำเลยที่ 103 มาใส่แทนที่กระดาษคำตอบต้นฉบับจริง ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่มาตรวจสอบสมุดคำตอบหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบข้อทุจริตการสอบ เชื่อว่าสมุดคำตอบเป็นสมุดคำตอบที่แท้จริงที่ทำขึ้นโดย จำเลยที่ 4 ถึงจำเลยที่ 119 และนายชูชีพ มหโชค ในขณะที่มีการทดสอบจริงอันเป็นการปลอมเอกสารสมุดคำตอบโดยมิชอบต่อกฎหมาย

การกระทำของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และนายวุฒิชัย เสาวโกมุท เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและทุจริต ตลอดจนปลอมแปลงเอกสารและทำเอกสารหลักฐานอันเป็นเท็จเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่กรมการปกครองและบุคคลอื่นที่เข้าทำการทดสอบแต่ไม่ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอประจำปีงบประมาณ 2552 รวมถึงบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยมีจำเลยที่ 3 ถึงจำเลยที่ 119 และนายชูชีพ มหโชค ซึ่งมิใช่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด เหตุเกิดที่ กรมการปกครอง แขวงราชบพิธ เขตพระนคร และเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร, ค่ายธนะรัชต์ ตำบลเขาน้อย อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, วิทยาลัยการปกครอง อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี, ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 157, 161,162

โดยศาลพิเคราะห์เเล้วมีคำพิพากษาจำคุกอดีตอธิบดีกรมการปกครอง จำเลยที่ 1 ผิดตามประมวลกฎหมายอาญา (ป.อ.) 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ,ป.อ.มาตรา 161 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารหรือดูแลรักษาเอกสารทำการปลอมเอกสารฯ,ป.อ.มาตรา 162 (1) (4) ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารฯ ซึ่งได้กระทำการด้วยการรับรองอันเป็นเท็จฯ ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักสุด ให้จำคุก 3 ปี โดยไม่รอการลงโทษ

สำหรับ อดีตผอ.ส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐสังกัดกรมการปกครอง จำเลยที่ 2 ผิดตามป.อ. มาตรา 157,162 (1) (4) ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ที่เป็นบทหนักสุด จำคุก 3 ปี โดยไม่รอการลงโทษเช่นกัน

ส่วน อดีตเลขานุการกรมฯ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐสังกัดกรมการปกครอง จำเลยที่3 ผิดตามป.อ.มาตรา 157,162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้กระทำความผิด จึงให้จำคุก 2 ปีโดยไม่รอการลงโทษ ฐานสนับสนุน ตาม มาตรา157, 86

กลุ่มประธานรุ่นและเลขารุ่นที่ไปช่วยเปลี่ยนข้อสอบ ซึ่งประกอบด้วย จำเลยที่ 48,76,103,117,119 พิพากษาลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนให้กระทำความผิดตามป.อ.มาตรา 157,162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 ให้จำคุกคนละ 2 ปี ไม่รอการลงโทษ ฐานสนับสนุนตามมาตรา157 ,86 อันเป็นบทหนักสุด

และกลุ่มผู้เข้าสอบที่ไม่ยอมรับว่ามีการเขียนข้อสอบใหม่ รวม 103 คน ประกอบด้วย จำเลยที่ 4-6,8-18,20-39,41-47,49-72,74-75,78-79,81-102,104,106-116,118 มีความผิดตามฐานเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิดตามป.อ.มาตรา 157 ,161 ประกอบมาตรา 86 ให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนันสนุนกระทำความผิดตามมาตรา 157 ประกอบ 86 จำคุกคนละ 2 ปี และปรับคนละ 12,000 บาท โดยโทษจำคุกนั้น ให้รอการลงโทษไว้กำหนดคงละ 2 ปี

และพิพากษายกฟ้อง จำเลยที่ 7,37,40,73,77,80,105 ที่เป็นผู้เข้าสอบนั้นพยานหลักฐานยังฟังไม่ได้ว่ากระทำความผิด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพงเครียด ปฏิเสธโกงเงินวัด ยันไม่มีสัมพันธ์สีกา

กรุงเทพฯ 18 ก.ย. – พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง เปิดใจเป็นครั้งแรก หลังถูกเพจดังกล่าวหาทุจริตเงินวัดและมีสัมพันธ์สีกา 3 คน ความเคลื่อนไหวภายในวัดหัวลำโพง พระอารามหลวง กลางกรุงเทพฯ ยังคงถูกจับตามอง หลังเกิดกระแสข่าวลือในสังคมออนไลน์ กล่าวหาผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดว่าอาจมีส่วนพัวพันทั้งเรื่องการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส และถูกเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์สีกาถึง 3 ราย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ล่าสุด พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาคที่หนึ่ง ได้โทรศัพท์สอบถามให้พระครูปริยัติวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าว ซึ่งสุดท้ายพระครูยอมเปิดใจผ่านโทรศัพท์เป็นครั้งแรก โดยระบุว่า หลังได้เห็นข่าวในโซเชียล ยอมรับว่ารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ในประเด็นแรก เรื่องการทุจริตเงินวัด พระครูฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเองมีเพียงรับเงินทำบุญจากญาติโยม จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฌาปนกิจศพที่ตนดูแล เมื่อได้รับเงินจากเจ้าภาพก็จะทำการหักค่าแรงของคนงานออก ก่อนออกใบเสร็จยืนยัน ทุกขั้นตอนมีหลักฐานตรวจสอบได้ ส่วนข่าวลือเรื่องมีสัมพันธ์ชู้สาวกับสีกา 3 คน พระครูฯ ปฏิเสธหนักแน่นว่าไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดย “นางกระแต” ที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาคนแรกนั้น แท้จริงเป็นเพียงญาติโยมที่รู้จักกันมานานและจะมาทำบุญถวายสังฆทานเป็นครั้งคราวเท่านั้น ขณะที่ “นางแมว” เป็นอดีตคนงานวัด และ “นางดา” […]