ทำเนียบฯ 28 ก.ย.-นายกฯ เผย ศบค. ชุดใหญ่ ถกแนวทางรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มกำลังดูแลชายแดน รับสถานการณ์เพื่อนบ้านระบาดเพิ่มขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ว่า ถือเป็นการประชุมครั้งสำคัญ เพื่อวางแผนการขับเคลื่อนเดินหน้าป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสถานการณ์ที่โลกยังมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง โดยเรื่องแรกต้องระมัดระวังพื้นที่ตามแนวชายแดนที่ตนได้สั่งการไปยังกองกำลังต่าง ๆ ในการเพิ่มกำลัง และปฏิบัติหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านมีการระบาดที่สูงขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับฟังข้อมูลจากศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดสถานการ์โควิด-19 หรือ ศบศ. โดยมีการให้แนวทางว่าจะต้องมีการดูแลให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าไปได้ด้วยดี โดยมีกลุ่มที่ต้องพิจารณา คือกลุ่มของนักธุรกิจที่ต้องเข้ามาดูแลกิจการในประเทศไทย รวมถึงการลงทุนด้านต่าง ๆ ที่ต้องมีมาตรการเฉพาะสำหรับคนกลุ่มนี้ ที่ต้องมีมาตรการติดตามที่เหมาะสม อีกส่วนคือนักท่องเที่ยว ซึ่งวันนี้ได้หารือเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวระยะยาว หรือ long stay ซึ่งต้องพิจารณาตั้งแต่ประเทศต้นทาง พื้นที่ที่จะเข้ามาพักอาศัย และแหล่งท่องเที่ยวเฉพาะพื้นที่ เพื่อดูแลธุรกิจผู้ประกอบการตั้งแต่รายเล็กขึ้นมา รัฐบาลไม่ได้สนับสนุนเพียงธุรกิจขนาดใหญ่ แต่รัฐบาลคำนึงถึงลูกจ้าง พนักงาน ผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่การท่องเที่ยวทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้พัฒนารูปแบบในการช่วยติดตามตรวจสอบป้องกันการแพร่ระบาด เช่น การพัฒนาแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ก็มีความพร้อม ที่จะรองรับกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้ ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี ตั้งแต่ตุลาคมถึงธันวาคม ย้ำรัฐบาลต้องคิดแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ก็ต้องได้รับความร่วมมือ จากประชาชนทั้งประเทศ ร่วมกันดูแลและปฏิบัติตามกฎระเบียบกติกา ซึ่งวันนี้ต้องขอย้ำว่า ต้องให้ความสำคัญการสวมหน้ากาก การดูแลสุขอนามัย การเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย