นักวิชาการแนะจับตาเอกภาพฝ่ายค้านหลังเพื่อไทยแตกตัว

กทม. 27 ก.ย.- นักวิชาการ มองพรรคเพื่อไทยอาจเกิดการแตกตัว จากการขาดผู้นำที่ชัดเจน จับตาส่งผลเอกภาพฝ่ายค้าน เชื่อ อดีตแกนนำ “ภูมิธรรม-จาตุรนต์” ไม่หวนกลับ


นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึง การปรับโครงสร้างพรรคเพื่อไทยจะถือเป็นปรากฏการณ์แพ้แตกหรือไม่ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทยตอนนี้ สำคัญที่สุดคือเอกภาพของฝ่ายค้านในการเดินหน้าเรื่องการเมือง โดยเฉพาะญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยังไม่มีการลงมติ และโครงสร้างของฝ่ายค้านไม่ต่างจากรัฐบาลที่มีพรรคใหญ่ พรรคขนาดกลางและพรรคขนาดเล็ก เมื่อโครงสร้างเป็นเช่นนี้ โดยเฉพาะกับพรรคขนาดใหญ่อย่างเพื่อไทยก็จะส่งผลต่อเอกภาพ และการกำหนดทิศทางของฝ่ายค้าน

ขณะที่ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทยมีประเด็นปัญหา จากการมีกลุ่มย่อยภายในพรรค ซึ่งแนวคิดทางการเมืองและวิธีการปฏิบัติมีความต่างกันภายใน เป็นที่มาของปัญหาผู้นำที่ไม่ชัดเจน ต่างจากในอดีตสมัยพรรคไทยรักไทย ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้นำยึดโยงคนภายในพรรค มาถึงสมัยเป็นพรรคพลังประชาชน แม้นายทักษิณ ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค แต่ยังมีบารมีจนมาถึงยุคพรรคเพื่อไทย ก็มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวมาเป็นสัญลักษณ์ของการเกาะเกี่ยวคนในพรรคได้ แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่งของพรรคเพื่อไทย ที่ไม่มีคนในตระกูลชินวัตรอยู่ ทำให้แต่ละกลุ่มเคลื่อนไหว ประกอบกับทิศทางทางการเมือง หรือเงื่อนไขทางการเมืองที่เปลี่ยนไป เห็นได้จากปรากฏการณ์แตกแยกทางความคิด ที่ ส.ส. ส่วนหนึ่งโหวตสวนมติให้กับรัฐบาล รวมถึงการที่พรรคเพื่อไทย ไม่มี ส.ส. บัญชีรายชื่อ ร่วมกำหนดทิศทางในสภาฯ ทำให้เกิดการเมืองแบบรีโมทคอนโทรล คือการสั่งงานจากนอกสภาโดยทีมยุทธศาสตร์พรรค จนเกิดปัญหายืดเยื้อจนเรื้อรัง จึงถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้มีการลาออกของทีมยุทธศาสตร์พรรคและกรรมการบริหารพรรคบางส่วน ถือเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ ว่าพรรคเพื่อไทยจะไปอย่างไร


“ต้องไม่ลืมว่าฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทยอยู่ที่ ส.ส.เขต ดังนั้นต้องจับตาว่าเมื่อมีความแตกแยกภายใน ฐานเสียงสำคัญจะหายไปหรือไม่ เพราะกติกาเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่เอื้อที่จะทำให้พรรคเพื่อไทยได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้กำหนดยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยเป็นอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ อยู่นอกสภาฯ ผู้ขับเคลื่อนในสภาคือส.ส.เขต จะไปกันได้มากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าไปกันไม่ได้ก็มีโอกาสจะเห็นการแตกตัวของพรรคเพื่อไทยได้ ภายใต้ภาวะการขาดผู้นำที่ไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นใคร อีกทั้ง อดีตแกนนำของพรรคเพื่อไทยหลายคนแตกตัวไปตั้งกลุ่มการเมือง อย่างกลุ่มแคร์ หรือพรรคไทยรักษาชาติ จึงต้องจับตาว่าจะมีทิศทางพรรคเพื่อไทย อย่างไรรวมถึงส่งผลกับพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่” นายยุทธพร กล่าว  

นายยุทธพร มองว่า อดีตแกนนำของพรรคเพื่อไทย ที่ออกไปตั้งกลุ่มการเมือง เช่น นายภูมิธรรม เวชยชัย นายจตุรนต์ ฉายแสง คงไม่กลับมาเพื่อไทย เพราะได้มีการประกาศชัดเจนว่าจะออกไปตั้งกลุ่มการเมือง และขณะนี้พรรคเพื่อไทยไม่มีความทันสมัย ไม่ต่างจากพรรคการเมืองรุ่นเก่า ที่ต้องเผชิญกับความผันผวนทางการเมือง และวันนี้อาจถึงเวลาที่พรรคเพื่อไทยอาจจะไปต่อไม่ได้แล้วกับการเมืองในมิติใหม่ ทำให้โอกาสในการกลับมาของอดีตแกนนำพรรคเพื่อไทยมีน้อยมาก เพราะต้องการทำการเมืองในเส้นทางใหม่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

Thailand-Cambodia begin talk in Malaysia

เปิดฉากเจรจาไทย-กัมพูชาที่มาเลเซีย

ปุตราจายา 28 ก.ค.- สื่อทางการมาเลเซียรายงานว่า การประชุมพิเศษระหว่างไทยกับกัมพูชาเพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงหยุดยิงทันทีและยุติความเป็นปรปักษ์ตามแนวพรมแดนที่มีปัญหา ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วที่เมืองปุตราจายา เว็บไซต์สำนักข่าวเบอร์นามารายงานว่า การประชุมพิเศษจัดขึ้นโดยมาเลเซียและนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย ในฐานะประธานวาระปัจจุบันของสมาคมประชาชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน (ASEAN) เพื่อลดความตึงเครียดที่กำลังเพิ่มขึ้น และฟื้นฟูเสถียรภาพให้แก่พื้นที่ตามแนวชายแดน เบอร์นามารายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทยเดินทางถึงทำเนียบ ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุมพิเศษ และเป็นบ้านพักอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในเมืองปุตราจายา ศูนย์กลางการปกครองของมาเลเซียเมื่อเวลา 14.51 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง จากนั้นไม่นานนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเดินทางตามมา โดยมีนายกรัฐมนตรีอันวาร์ให้การต้อนรับบุคคลทั้งสอง นอกจากนี้ยังมีนายเอ็ดการ์ด เคแกน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำมาเลเซียและนายโอวหยาง ยู่จิ้ง เอกอัครราชทูตจีนประจำมาเลเซียเข้าร่วมการประชุมด้วยในฐานะผู้ร่วมอำนวยความสะดวก.-814.-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart

ศรีสะเกษ 28 ก.ค.-เปิดภาพทหารไทยบึ้มเสาสัญญาณเครือข่าย smart ใช้โดรนทิ้งบอมบ์ที่ตั้งทางทหารกัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ได้ทั้งหมด และมีการทำลายกระเช้าและบันได ที่ทหารกัมพูชาใช้เป็นเส้นทางในการขึ้นมาบนภูมะเขือ ล่าสุดทหารไทยใช้ระเบิดทำลายเสาสัญญาณเครือข่าย smart ของกัมพูชาบนยอดภูมะเขือ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ กองทัพบก ยังเผยแพร่คลิปการใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีที่ตั้งทางทหารของฝ่ายกัมพูชา บริเวณด้านล่างภูมะเขือ.-313.-สำนักข่าวไทย

บุกยิงกลางตลาด อ.ต.ก.จตุจักร ตาย 6 เจ็บ 2

กทม. 28 ก.ค. – คนร้ายบุกยิงในตลาด อ.ต.ก. จตุจักร ก่อนจบชีวิตตัวเอง เสียชีวิตรวม 6 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ (28 ก.ค.68) เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตในตลาด อ.ต.ก.จตุจักร จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าคนร้ายชื่อนายน้อย อายุ 61 ปี เป็นเจ้าของแผงขายสินค้าในตลาด อ.ต.ก. ก่อเหตุจ่อยิงศีรษะ รปภ. 4 คน และแม่ค้า 2 คน ก่อนจบชีวิตตัวเอง ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่พุ่งเป้าเรื่องความขัดแย้ง .-สำนักข่าวไทย

วันที่ 5 ชายแดนสุรินทร์ปะทะหนักแต่เช้ามืด

สุรินทร์ 28 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 5 ชายแดนสุรินทร์ กัมพูชาเปิดฉากปะทะหนักตั้งแต่เช้ามืด โดยเฉพาะโซนปราสาทตาควาย ด้านทีมข่าวลงพื้นที่ ต.บักได พบกระสุน BM-21 ตกจำนวนมาก บางหมู่บ้านเกิน 40 ลูก ขณะที่ศูนย์พักพิง ชาวบ้านยังมีปัญหาการหลับนอน และยังต้องการสิ่งของบริจาคจำนวนมาก ทีมข่าวลงพื้นที่ ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ มีกระสุน BM 21 มาตกในพื้นที่เป็นจำนวนมาก บางหมู่บ้านเกินกว่า 40 ลูก แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวบ้าน แต่สถานการณ์การปะทะ ที่เข้าสู่วันที่ 5 ทำให้วัวตายไปหลายตัว ส่วนใหญ่ตกในพื้นที่ทางการเกษตร โดยวันนี้พบว่า มีการเปิดฉากยิงปะทะกันด้วยอาวุธหนักตั้งแต่ช่วงเวลาตี 3 และมีเสียงดังอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ เว้นระยะบ้าง เสียงรัวถี่บ้าง สลับกันไป โดยเฉพาะช่วง 10 โมงครึ่งที่ผ่านมา มีการปะทะกันชุดใหญ่เกินครึ่งชั่วโมง ทำให้เครื่องบินรบ F 16 ต้องขึ้นบินถล่ม เมื่อ 11 โมงเศษที่ผ่านมา สองแนวหลักที่ยิงข้ามมาเป็นประจำคือ […]