กลาโหม 25 ก.ย.-นายกฯ สั่งการที่ประชุมสภากลาโหมนัดสุดท้าย ให้ทุกหน่วยจัดกิจกรรมเนื่องในวันสวรรคตรัชกาลที่ 9 พร้อมเผยแพร่พระราชกรณียกิจ รวมถึงให้กองทัพสนับสนุนการรักษาสันติภาพ เข้มชายแดนป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ย้ำกองทัพทำงานอย่างเป็นเอกภาพสร้างความสามัคคีในชาติ เพื่อนำไปสู่ความสงบสุขในประเทศ
พ.อ.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมสภากลาโหม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหมประจำเดือนกันยายน ซึ่งเป็นการประชุมนัดสุดท้ายประจำปีงบประมาณ 2563 และพิธีอำลาหน้าที่ของผู้บัญชาการเหล่าทัพและคณะนายทหารที่จะเดินทางไปเป็นทูตทหาร ว่า ในที่ประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ได้เน้น 2 เรื่องหลัก คือ สถาบันพระมหากษัตริย์และภารกิจของกองทัพ โดยเรื่องสถาบัน เตรียมจัดงานเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 13 ตุลาคม 2563 นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้กองทัพจัดงานและสนับสนุนกิจกรรมทุกหน่วยงานร่วมกันเผยแพร่พระราชกรณียกิจผ่านกิจกรรมในโครงการต่าง ๆ ที่นำมาซึ่งความผาสุก ทั้งทางกายและทางใจ ของประชาชนที่มีประโยชน์มากมาย รวมถึงสะท้อนความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชนชาวไทยที่มีมาอย่างยาวนาน และนำเสนอพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่10 ในการรักษา สืบสาน และต่อยอด โดยเฉพาะเกษตรทฤษฎีใหม่แบบประยุกต์ โดยเป็นการต่อยอดเกษตรทฤษฎีเดิมของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่มีการเพิ่มเติมคำว่าประยุกต์เข้ามาและพัฒนางานด้านเกษตรในรูปแบบต่าง ๆ
พ.อ.วันชนะ กล่าวว่า สำหรับภารกิจเหล่าทัพ เน้นการรักษาสันติภาพ การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ การพัฒนาและการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ ที่นายกรัฐมนตรีได้ชื่นมชมว่ามีพัฒนาการอย่างมากและขอให้ดำรงความต่อเนื่องไว้ให้เป็นไปอย่างประสานสอดคล้องและไม่เกิดความซับซ้อน การวิจัยพัฒนาและทำใช้เอง ลดการนำเข้าไปจนถึงพัฒนาเพื่อการส่งออก ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว
พ.อ.วันชนะ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังให้กองทัพสนับสนุนการแก้ปัญหาโควิด-19 ตามนโยบายรวมไทยสร้างชาติ ร่วมกันอย่างเป็นภาคส่วน โดยเฉพาะทำงานอย่างบูรณาการที่ใช้กลไกความร่วมมือของคณะกรรมการชายแดน ให้เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังและลาดตระเวนชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย ทั้งทางบกและทางน้ำที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงให้ทุกเหล่าทัพช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยจากพายุโนอึลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานฟื้นฟูการเข้าซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย และซ่อมแซมเส้นทางคมนาคม รวมถึงเรื่องการประกอบอาชีพของประชาชนให้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
“ท้ายที่สุดนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้กองทัพทำงานอย่างเป็นเอกภาพในการสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นภายในชาติ ประชาสัมพันธ์เรื่องการแสดงออกทางความคิดของประชาชนที่เคารพความแตกต่างซึ่งกันและกัน เพื่อนำไปสู่ความสงบสุขในประเทศ รวมถึงสร้างกิจกรรมสนับสนุนความมีจิตอาสา ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังได้ขอบคุณสมาชิกสภากลาโหมที่ได้ช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่ เข้มแข็ง และมุ่มมั่นปฏิบัติหน้าที่ต่อไปในภาพรวมของประเทศ” พ.อ.วันชนะ กล่าว.-สำนักข่าวไทย