รัฐสภา 23 ก.ย.- ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” เผยจำใจลงชื่อร่วมญัตติแก้รธน.
ค้านตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ยกร่างใหม่ เชื่อซื้อเวลารัฐบาล จี้”พล.อ.ประยุทธ์”ลาออก
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ในระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 6 ฉบับ ว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับญัตติของฝ่ายค้านที่เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ที่ร่วมลงชื่อด้วยเพราะเป็นมารยาท และตั้งข้อสังเกตว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นการร่างโดยคำสั่งของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
และการอภิปรายในวันนี้ เป็นความเห็นของส.ส. ฝ่ายค้านและรัฐบาลแต่ไม่ใช่ความเห็นของประชาชน และสว.ที่ร่วมพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้มาจากประชาชน ตนจึงไม่เห็นด้วยกับญัตติแก้ไขนี้ เพราะไม่ใช่ร่างของประชาชนและขั้นตอนในการยกร่างของส.ส.ร.ก็ต้องใช้เวลายาวนาน จึงเห็นว่าการให้มีส.ส.ร.มา ยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นการต่ออายุให้รัฐบาล
หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ขอเสนอแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าพล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงจะเป็นไปตามที่ประชาชนต้องการ หากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ลาออกก็ขอเรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกูลหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ และให้นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนมาพิจารณา โดยเปิดสมัยประชุมวิสามัญพิจารณาและเมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วขอให้ยุบสภาจัดให้มีการเลือกตั้งตามกติกาใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างการอภิปรายพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้อภิปรายพาดพิงถึงคนที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีการตั้งฉายาที่ไม่สุภาพ จนนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ต้องขอให้ถอน รวมทั้งได้มีการอภิปรายพาดพิงว่ารัฐธรรมนูญ 60 ถูกโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง แต่ปล่อยให้หลานพล.อ.ประยุทธ์ ไปเปิดบริษัทในค่ายทหาร และยังมีการอภิปราย พาดพิงถึงที่มาของรัฐบาลและส.ว. ที่เป็นผลพวงของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทำให้ในระหว่างการอภิปรายของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีการประท้วงเป็นระยะ อาทิ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ซึ่งเป็นส.ว. และเป็นน้องชายของพล.อ.ประยุทธ์ประท้วงและขอให้ถอน และบางช่วงขอใช้สิทธิ์ถูกพาดพิงว่าการนำรูปพล.อ.ปรีชามาประกอบการอภิปรายได้ขออนุญาตหรือไม่
ขณะที่นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ได้ประท้วงว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไม่ควรพลาดพิงอภิปรายถึงบุคคลภายนอก ถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ไม่มีโอกาสได้เข้ามาในสภาแห่งนี้ ทำให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ซึ่งเข้ามาทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมต่อ ได้ขอให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปรายอยู่ในประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น
ก่อนหน้านี้นายมณเฑียร บุญตัน สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายว่า สมาชิกแต่ละคนมีความเป็นอิสระ ดังนั้นสิ่งที่อภิปรายไม่ได้สะท้อนความรู้สึกนึกคิดของสมาชิกคนอื่นผู้หนึ่งผู้ใด ตนเป็นผู้หนึ่งที่เห็นชอบรัฐธรรมนูญปี 2560 เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ และเมื่อ ส.ส. เห็นว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงคิดว่า ส.ว.ไม่ควรเป็นอุปสรรคการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ และจะได้ไม่เป็นต้นเหตุให้รัฐธรรมนูญสิ้นอายุโดยไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตย ดังนั้นรัฐธรรมนูญต้องแก้ไขได้ ไม่ยากเกินไป แต่ก็ไม่เชื่อว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะนำมาซึ่งความพอใจของประชาชนโดยรวมเช่นกัน หากแก้ไขทั้งฉบับอาจนำมาซึ่งความขัดแย้งโดยไม่สิ้นสุด
นพ. เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว. อภิปรายว่า ส.ว.ชุดนี้มีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี และผู้ที่เห็นชอบกับบทเฉพาะกาลมีมากกว่า 4.2 ล้านเสียง ดังนั้นการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญควรต้องคำนึงถึงผลของประชามติและผู้ที่ออกเสียงเห็นชอบในประเด็นนี้ด้วย และสำหรับการแก้ไขรายมาตราก็ควรต้องดูเป็นเรื่อง ๆ ไปและตนจะขอรับฟังและนำมาประกอบการพิจารณา.-สำนักข่าวไทย