กองบัญชาการกองทัพบก 23 ก.ย.-ทบ.จัดพิธีเทิดเกียรตินายทหารชั้นนายนพลเกษียณอายุประจำปี 63 “พล.อ.พรพิพัฒน์” ยันจงรักภักดีต่อ 3 สถาบัน จิตวิญญาณความเป็นทหารอาชีพฝังแน่นในใจ พร้อมหนุนงานกองทัพ
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกและกองบัญชาการกองทัพบกจัดพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการนายทหารชั้นนายพล ประจำปี 2563 ให้แด่นายทหารที่เกษียณอายุราชการในปีนี้ โดยมี พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.) พล.อ.ชัยชนะ นาคเกิด รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา รองปลัดกระทรวงกลาโหม และนายทหารผู้ทรงคุณวุฒิระดับพลเอก พลโทและพลตรี จำนวน 266 นาย (จาก 340นาย) ร่วมพิธี ที่กองบัญชาการกองทัพบก
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และคณะ พร้อมด้วยนายทหารชั้นนายพล (อัตราพลเอก (พิเศษ) ที่เกษียณอายุราชการ กระทำพิธีถวายสักการะพระบรมรูป รัชกาลที่ 5 ณ ห้องพระบารมีปกเกล้า พิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ เสร็จแล้วจึงเข้าสู่กิจกรรมของนักเรียนนายร้อยโรงเรียนนายร้อยพระโดยผู้แทนนักเรียนนายร้อยกล่าวตั้งปณิธาน “เดินตามรอยเท้า” และผู้ร่วมพิธีทั้งหมดร้องเพลง “รั้วแดงกำแพงเหลือง และมนต์มัฆวาน” หลังจากนั้นกำลังพลในกองบัญชาการกองทัพบกเข้าแถวรายทาง ตั้งแต่หลังอาคารพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติไปยังพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 นายทหารชั้นนายพลที่เกษียณอายุราชการ นำโดยผู้บัญชาการทหารสูงสุดและคณะ พร้อมด้วยนายทหารชั้นนายพลที่เกษียณอายุราชการ ร่วมกันถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5และร่วมพิธีเทิดเกียรติและมอบของที่ระลึกแก่นายทหารชั้นนายพลที่อำลาชีวิตราชการทหารที่หอประชุมกิตติขจร
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า ขอขอบคุณกองทัพบกที่จัดพิธีอันมีเกียรติให้กับนายทหารชั้นนายพลที่เกษียณอายุราชการในวันนี้ การปฏิบัติราชการในกองทัพนับเป็นช่วงเวลาที่ภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ทหารของชาติและประชาชนต่อประเทศไทย ที่ตั้งไว้เพื่อพิทักษ์รักษาเอกราชอธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยความจงรักภักดี โดยมุ่งมั่นทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ กำลังสติปัญญาดำเนินภารกิจของกองทัพให้บรรลุผลสำเร็จร่วมแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติ และพัฒนาสังคมให้มีความเป็นปึกแผ่นรุ่งเรือง ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ของทหารอันมีเกียรตินี้ จะยังคงเป็นสิ่งที่พวกเรายึดถือปฏิบัติตลอดไป
“แม้จะเกษียณอายุราชการ ผมมั่นใจว่าผู้ที่จะเกษียณอายุราชการทุกท่าน สำนึกคุณูปการของของกองทัพบกที่หล่อหลอมให้พวกเรามีจิตวิญญาณความเป็นทหารอยู่ในสายเลือด ยังมีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ แม้ต้องอำลาชีวิตราชการจากกองทัพ แต่จิตวิญญาณของความเป็นทหารอาชีพยังคงฝังแน่นอยู่ในจิตใจและพร้อมจะสละตนรับใช้กองทัพและประเทศชาติทุกโอกาส พร้อมสนับสนุนการดำเนินการของกองทัพด้วยความเต็มใจ พวกเราจะเป็นกำลังใจให้กับกำลังพลที่ยังรับราชการอยู่ในกองทัพบก ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้สมกับที่ประชาชนให้ความไว้วางใจตลอดมา ขอขอบคุณผู้บัญชาการทหารบกและกองทัพบกที่จัดพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการในวันนี้อย่างสมเกียรติ” ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าว
สำหรับพิธีเทิดเกียรติและอำลาชีวิตราชการทหารของนายทหารชั้นนายพล เดิมจะจัดขึ้น ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า บริเวณเขาชะโงก ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก แต่ปีนี้เปลี่ยนสถานที่มาจัดที่กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ เนื่องจากเคยเป็นสถานที่ตั้งของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ที่เป็นแหล่งผลิตนายทหารหลักที่สร้างชื่อเสียงเกียรติยศแก่กองทัพบกจำนวนมาก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งนายทหารที่สำเร็จจากสถาบันแห่งนี้ มีความผูกพันกับสถานที่ตั้งดังกล่าว อีกทั้ง มีความสะดวกการเดินทางมากระทำพิธี เพราะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานกำเนิด เมื่อ 5 สิงหาคม 2430 ณ บริเวณพระราชวังสราญรมย์ ต่อมาเมื่อปี 2452 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขยายที่ตั้งโรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยม มาอยู่ที่ถนนราชดำเนินนอก จนกระทั่งปี 2523 จึงย้ายไปอยู่ที่จังหวัดนครนายกจนปัจจุบัน .-สำนักข่าวไทย