จ.เพชรบุรี 18 ก.ย.- นายกรัฐมนตรี เปิดและปิดการฝึกซ้อมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานประสบภัย ย้ำความจำเป็นต้องจัดซื้อยุทโธปกรณ์เพื่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน – ขวัญกำลังใจของผู้ปฏิบัติงาน ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดและปิดการฝึกซ้อมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยปี 2563 หรือ SAREX 2020 ที่ค่ายพระราม 6 อําเภอชะอํา จังหวัดเพชรบุรี เพื่อทบทวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และเป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยการฝึกซ้อมเป็นการจำลองเหตุการณ์เสมือนจริงรวมถึงแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ทดสอบและปรับปรุงบัญชีบริภัณฑ์ รวมถึงระบบการติดต่อสื่อสารยกระดับเพิ่มขีดความสามารถสร้างความเชื่อมั่นในการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการบินนานาชาติของไทยซึ่งการฝึกเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน เป็นต้นมา
นายกรัฐมนตรียังได้ชมการฝึกซ้อมสาธิตเหตุการณ์จำลอง การช่วยเหลือและการเข้าไปกู้ภัย กรณีเครื่องยนต์เฮลิคอปเตอร์มีปัญหา 2 ลำ ทำให้เฮลิคอปเตอร์ตก มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
สำหรับการฝึกซ้อมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยเป็นไปตามคณะกรรมการแห่งชาติ ซึ่งดำเนินการฝึกมาแล้วทั้งหมด 39 ครั้งซึ่งมี 6 หน่วยงานหลักด้านความมั่นคงสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ชื่นชมการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำให้การฝึกล่วงไปได้ด้วยดี คำว่า “แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ” คำนี้ใช้ได้ทุกโอกาส แม้ไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นแต่จำเป็นต้องเตรียมตัว เตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์ให้ดี เพราะภารกิจของเจ้าหน้าที่มีเป็นจำนวนมากจึงจำเป็นต้องมีการฝึกร่วมเพื่อบูรณาการการทำงานให้มีประสิทธิภาพ การเตรียมการรับสถานการณ์มีทั้งความมั่นคงเศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญทำให้ประชาชนมีความปลอดภัย การฝึกซ้อมจะแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นไม่เพียงแต่คนไทยแต่ยังรวมถึงต่างประเทศด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญอีกประการคือการวางแผนและจำลองสถานการณ์ที่ควรจะต้องมีแบบหลากหลาย อย่างเหตุไฟป่าหรือการดับเพลิงในพื้นที่สูง ที่ต้องทันต่อสถานการณ์ของโลก โดยเจ้าหน้าที่จะต้องมีแผนหลักแผนรองและการติดต่อสื่อสารที่ต้องเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานซึ่งต้องทำงานร่วมกัน ส่วนเรื่องของอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ รัฐบาลได้พยายามจัดหาอย่างต่อเนื่องและจะดำเนินการต่อไป รวมถึงงานด้านการวิจัยและพัฒนาที่จะต้องทำควบคู่ไปด้วยเพื่อลดค่าใช้จ่าย ในการซื้ออุปกรณ์เหล่านี้จากต่างประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ถ้ามองมุมเดียวว่าจะซื้อไปทำไม ไม่มีประโยชน์ ก็เป็นอีกเรื่อง แต่ถ้าซื้อมาแล้วใช้ประโยชน์ก็ถือเป็นความจำเป็น เป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทั้งผู้ประสบภัยและเจ้าหน้าที่ สิ่งสำคัญที่สุดคือขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงาน อย่างที่ตนเคยกล่าวไว้อำนาจการรบของทหาร มี 2 อย่างคืออำนาจที่มีตัวตนและไม่มีตัวตน ยุทโธปกรณ์ถือเป็นอำนาจที่มีตัวตน ขวัญและกำลังใจ ถือเป็นอำนาจที่ไม่มีตัวตน แต่ทั้ง 2 อย่างจะต้องรวมเข้าด้วยกัน เพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยเกิดประสิทธิภาพ ความปลอดภัย สิ่งที่อยากฝากคืออยากให้ทุกฝ่ายรู้บทบาทหน้าที่ของตนเอง เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ มีความสงบเสถียรภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ภาครัฐและประชาชนจะต้องทำเพื่อลูกหลานของคนไทยในอนาคต.-สำนักข่าวไทย