ยังจำเป็นต้องใช้ “ไทยชนะ”

รัฐสภา 14 ก.ย.-วุฒิสภาพิจารณากระทู้ถามนายกฯรัฐมนตรี เรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ระบบ “ไทยชนะ” รมว.ดีอีเอสยันหน่วยอื่นเข้าดูข้อมูลไม่ได้นอกจากกรมควบคุมโรคเท่านั้น สถานการณ์ปัจจุบันยังจำเป็นต้องใช้


การประชุมวุฒิสภา นัดพิเศษ วันนี้(14 ก.ย. เริ่มเวลา 09.30 น. มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยพิจารณากระทู้ถามนายกรัฐมนตรีเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลในระบบปฏิบัติการ “ไทยชนะ” ซึ่งนายอำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา เป็นผู้ตั้งถาม

นายอำพล กล่าวว่า ต้องการทราบว่ารัฐบาลมีมาตรการป้องกันควบุคมการนำข้อมูลของผู้ลงทะเบียนในระบบ ปฏิบัติการ “ไทยชนะ” ไปใช้นอกเหนือจากการป้องกันโรคโควิด-19หรือไม่ และรัฐบาลจะเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไว้นานเพียงใด และเมื่อครบกำหนดแล้วจะดำเนินการอย่างไรกับข้อมูลของผู้ลงทะเบียน รวมทั้งประเมินผลการใช้หรือไม่


นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ได้รับมอบหมายให้ตอบกระทู้ถามแทนชี้แจงว่า สถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ประเทศไทยจำเป็นต้องใช้แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ต่อไป โดยปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนใช้งานกว่า 44 ล้านคน ซึ่งแอปพลิเคชันนี้ ใช้สำหรับผู้ประกอบการและประชาชนลงทะเบียนเข้าและออก โดยไม่มีข้อมูลอื่น เพื่อให้สามารถติดตามตัวสอบสวนโรคได้ และเก็บข้อมูล 90 วัน เพื่อการตรวจสอบข้อมูลเคร่งครัด

“สำหรับการเก็บข้อมูลมีเพียงกรมควบคุมโรคเป็นผู้เก็บรวบรวมฐานข้อมูลเท่านั้น หน่วยงานอื่นไม่สามารถเปิดข้อมูลได้ จากนั้นจะลบข้อมูลทิ้ง อย่างไรก็ตาม จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของประเทศเพื่อนบ้าน ยืนยันว่าไทยจำเป็นต้องใช้แอปพลิเคลชันนี้ต่อไป โดยในอนาคตหากไทยเปิดประเทศ จำเป็นต้องพัฒนาระบบปฏิบัติการแอปพลิเคชันต่อไป ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยขอความร่วมมือประชาชนลงทะเบียนเข้าและออกผ่านแอปพลิเคชันทุกครั้ง ยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้พัฒนาแอปพลิเคชันมาโดยตลอด เช่น การลงทะเบียนกลุ่ม และการจองร้านอาหารเพื่อจำกัดปริมาณผู้ใช้บริการ รวมทั้งประเมินผลการใช้งานอย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]