“จุรินทร์” ปลื้มราคายางขึ้นเพราะมาตรการรัฐบาล

รัฐสภา 9 ก.ย.- “จุรินทร์” แจงสภา ฯ ตัวเลขส่งออกไทยดีกว่าหลายประเทศ ปลื้ม! ราคายางขึ้นเพราะมาตรการรัฐบาล

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องวิกฤตทางเศรษฐกิจและวิกฤติทางการเมือง ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 อาคารรัฐสภา


นายจุรินทร์ กล่าวว่า กรณีสมาชิกพรรคพูดถึงตัวเลขการส่งออกที่ติดลบในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาขอทำความเข้าใจว่าตัวเลขส่งออกติดลบในขณะนี้นั้นเป็นสถานการณ์ที่กำลังเผชิญกันอยู่เกือบทุกประเทศทั่วโลก เพราะนอกจากสงครามการค้าที่ยังยืดเยื้อระหว่างจีนกับสหรัฐ และยังมีการปรับรูปแบบไปสู่ความตึงเครียดยิ่งขึ้นในบางช่วง ซ้ำเติมมาด้วยสถานการณ์โควิด ทั้งหมดนี้ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวอัตราการเจริญเติบโตน้อยลง ที่เรียกว่าเศรษฐกิจโลกหดตัว ประเทศไทยได้รับผลกระทบและตัวเลขการส่งออกของทุกประเทศในโลกก็ล้วนได้รับผลกระทบตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกรกฎาคมปีนี้ ประเทศไทย -7.7% แต่เมื่อเทียบกับหลายประเทศในโลกแล้ว ตัวเลขของเราไม่ได้น่าวิตกไปกว่าประเทศอื่น เช่น อินเดีย -22.4% ญี่ปุ่น -14.6% เกาหลี – 10.6% ฟิลิปปินส์ -17.8% สิงคโปร์ -10.3% และมาเลเซีย-9.4% เป็นผลกระทบมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกและภาวะวิกฤตโควิดที่ทุกประเทศได้รับผลเช่นเดียวกัน

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทางออกของประเทศไทยในสถานการณ์วิกฤตนั้น ท่านนายกได้จัดตั้งองค์กรขึ้นมาแก้ปัญหาในสถานการณ์พิเศษที่เรียกว่า ศบค.เศรษฐกิจ หรือศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) ขึ้นมาเป็นการเฉพาะ กระทรวงพาณิชย์ได้ก็จะตั้ง คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์(กรอ.พาณิชย์)ขึ้นมาเพื่อปฏิบัติภารกิจร่วมกันระหว่างส่วนราชการกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนทำงานอย่างใกล้ชิด ว่าทำอย่างไรผ่อนหนักให้เป็นเบาที่สุดในเรื่องของตัวเลขการส่งออกและรูปแบบการค้าการส่งออกได้มีการปรับรูปแบบเข้าสู่ยุค New Normal การปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการค้าออฟไลน์เป็นการค้าแบบออนไลน์ พัฒนาไปถึงขั้นเรียกว่าการค้ารูปแบบไฮบริดที่ผสมระหว่างออฟไลน์และออนไลน์ ประสานกันเพื่อทำตัวเลขการส่งออกให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปรากฏผลเป็นอย่างดี


และรัฐบาลได้สร้างทัพนักธุรกิจยุคใหม่ที่เรียกว่าทัพนักธุรกิจการค้าออนไลน์ขึ้นมาทั้งเพื่อให้มีศักยภาพในเรื่องการค้าออนไลน์ในประเทศและด้านการส่งออกโดยให้การอบรมให้ความรู้เป็นกรณีเฉพาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเรียนจบมหาวิทยาลัย กระทรวงพาณิชย์ก็มีนโยบายและโครงการชัดเจนที่ต้องการปั้นคนเหล่านี้ที่เรียกว่าคนเจนซีให้เป็นซีอีโอ(Gen Z to be CEO) เพื่อสร้าง ซีอีโอเจนซีขึ้นมาให้มีศักยภาพและมีความรู้ในการที่จะค้าออนไลน์และเป็นทัพหน้าในการนำรายได้เข้าประเทศต่อไปในอนาคต เริ่มต้นดำเนินการแล้วใน 7 มหาวิทยาลัยในภาคเหนือและจะทำในทุกภาคทั่วประเทศของไทยต่อไปตั้งเป้าหมายว่าในปีนี้เราจะทำให้ได้ 12,000 คน เป็นสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ได้ดำเนินการเรื่องการแก้ปัญหาการส่งออกในยุค New Normal

สมาชิกท่านหนึ่งได้พูดในเรื่องของการส่งออกข้าว ว่าประเทศไทยเสียแชมป์ส่งออกข้าวไปเรียบร้อยแล้วและสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้ออกข่าววิงวอนรัฐบาลให้เร่งพัฒนาสายพันธุ์ข้าวขึ้นมา ขอขยายความเพิ่มเติมรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯและสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ทำงานร่วมกันมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีการหารือร่วมกันเร่งรัดการส่งออกตลอดระยะเวลาทั้งในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ข้าวและใน กรอ.พาณิชย์ การเสียแชมป์ส่งออกนั้นประเทศไทยเสียแชมป์ส่งออกข้าวมาตั้งแต่ปีช่วงที่มีการดำเนินการโครงการจำนำข้าวไม่ได้เพิ่งเสียแชมป์แต่เราเสียแชมป์ส่งออกข้าวมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ในช่วงปี 60-61เรากลับมาเป็นแชมป์อีกครั้งหนึ่ง เพราะประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งระบายข้าวที่ค้างอยู่ในสต๊อกจำนวนมากออกไป ทำให้ตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นมา

เวลานี้ใต้สถานการณ์โควิด ไม่ได้แปลว่าการส่งออกข้าวเลวร้ายในทุกตลาดยังมีบางตลาดที่ยังขยายตัวได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะข้าวพรีเมี่ยมหรือข้าวเกรดคุณภาพสูง เช่น ข้าวขาว 100% โดยเฉพาะในตลาดญี่ปุ่น อเมริกา ออสเตรเลีย ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 15 สาเหตุที่การส่งออกข้าวช่วงนี้ประสบปัญหาเพราะนอกจากสถานการณ์โควิดแล้วราคาเราสู้คู่แข่งไม่ได้ ต้นทุนข้าวของเราสูงกว่าประเทศคู่แข่ง และในปัจจุบันเราขาดความหลากหลายของพันธุ์ข้าวที่เป็นที่ต้องการของตลาด จึงเป็นที่มาที่ท่านนายกฯเป็นประธาน นบข.มอบหมายให้ผมดำเนินการไปจัดทำยุทธศาสตร์ข้าว มาถึงจุดนี้เราสามารถดำเนินการมียุทธศาสตร์ข้าวขึ้นมาเสร็จเรียบร้อยแล้วรอนำเข้าที่ประชุม นบข.อีกครั้งและเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยยุทธศาสตร์ข้าวชุดใหม่นี้จะมีอายุ 5 ปีนับตั้งแต่ปี 63 ถึง 67 มีวิสัยทัศน์ว่าจะทำประเทศไทยให้เป็นผู้นำการผลิตการตลาดข้าว ผลิตภัณฑ์ข้าวของโลก โดยใช้ยุทธศาสตร์”ตลาดนำการผลิต”โดยแบ่งตลาดเป็น 3 เกรด 1.ตลาดพรีเมี่ยม 2.ตลาดทั่วไป และ 3.ตลาดเฉพาะข้าวที่จะมุ่งเน้นประกอบด้วย ข้าว 7 ชนิด 1.ข้าวหอมมะลิ 2.ข้าวหอมไทย 3.ข้าวพื้นนุ่ม 4.ข้าวพื้นแข็ง 5.ข้าวนึ่ง 6.ข้าวเหนียวและ7.ข้าวสีต่างๆ ที่มีตลาดเฉพาะมีการตั้งเป้าชัดเจนเพื่อสนองต่อตลาดข้าวในอนาคตที่จะกลับมาเป็นแชมป์อีกครั้งหนึ่งในวันข้างหน้า


1.การลดต้นทุนการผลิตว่าจะลดต้นทุนการผลิตข้าวจากไร่ละ 6,000 บาทเป็นไม่เกิน 3,000 บาทภายในระยะเวลา 5 ปี
2.จะเพิ่มผลผลิตจากปัจจุบันเฉลี่ยผลิตได้ไร่ละ 465 กิโลกรัมเป็น 600 กิโลกรัมต่อไร่ และในเรื่องเมล็ดพันธุ์ที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศตั้งเป้าว่าประเทศไทยภายใต้รัฐบาลที่จะเดินหน้ามุ่งเน้นผลิตเม็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณสมบัติ “สั้น เตี้ย ดก ดำ” โดยมีตัวเลขชัดเจนว่า 1.จะผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวพื้นนุ่มอย่างน้อย 4 สายพันธุ์ 2.พันธุ์พื้นแข็ง 4 สายพันธุ์ 3.ข้าวหอมไทย 2 สายพันธุ์ 4.ข้าวโภชนาการสูง 2 สายพันธุ์ อย่างน้อย 12 พันธุ์ใน 5 ปีเพื่อสนองต่อความต้องการของตลาด

ปีนี้จัดประกวดพันธุ์ข้าวไปแล้ว จะจัดอีกครั้งหนึ่งปลายปีนี้เพื่อเร่งรัดให้ทั้งเอกชนและนักวิชาการผู้ที่มีศักยภาพ เร่งทำการวิจัยผลิตข้าวพันธุ์ใหม่ขึ้นมาเพื่อนำมาประกวดจัดเป็นทรัพยากรสำคัญของประเทศในเรื่องการส่งออกข้าวต่อไป แล้วปีต่อไปจัดปีละครั้ง รัฐบาลชุดนี้มีนโยบายที่มีความชัดเจนในเรื่องข้าวที่เป็นรูปธรรม

และสมาชิกอีกท่านหนึ่งได้พูดถึงพืชเกษตรตัวอื่นนอกจากข้าว ว่ามีเรื่องมันสัมปะหลัง ยางพารา ข้าวโพด และปาล์มน้ำมัน ยังเป็นปัญหา ความจริงคือสถานการณ์ไม่ได้เลวร้าย อย่างน้อยที่สุด ช่วงฤดูกาลผลิตที่ผ่านมาราคาพืชเกษตรสำคัญดีเกือบทุกตัว เช่น ข้าวเปลือกเจ้า ช่วงนี้ ราคาตกตันละ 9,100 ถึง 10,000 บาทต่อเกวียน มันสำปะหลังราคาตกกิโลกรัมละ 2.20 บาท ข้าวโพดความชื้น 14.5% ตกกิโลกรัมละ 8.70 บาท ปาล์มเมื่อวานราคาทางการ กิโลกรัมละ 3.80 บาทถึง 4.20 บาทหน้าโรงงาน และยางพาราสองสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาไปถึงกิโลกรัมละ 60 บาทแล้วสำหรับยางแผ่นรมควันชั้นสาม ที่ราคาดีขึ้นนั้น นอกจากปัจจัยภายนอกทั้งราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ตลาดล่วงหน้าก็ปรับตัวสูงขึ้น ความต้องการใช้ถุงมือยางเพิ่มขึ้น ทำให้น้ำยางข้นขายดีขึ้น ประกอบกับภาวะทางภูมิศาสตร์ในบางประเทศผู้ผลิต เช่น ฝนตกหนัก แรงงานขาดแคลนเป็นต้น ปัจจัยภายในก็มีผลสำคัญอย่างยิ่งที่ช่วยให้ราคายางดีขึ้นโดยเฉพาะมาตรการเชิงรุกของรัฐบาลชุดนี้ เช่นที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการนำทัพเอกชนไปบุกตลาดต่างประเทศหลายประเทศด้วยกัน การลงนามเอ็มโอยู กับจีน อินเดีย ตุรกี และในหลายประเทศ วันนี้เราได้ตัวเลขหลายหมื่นล้าน หลังเร่งรัดการส่งมอบ ที่มีผลไม่มากก็น้อยในการช่วยกระตุ้นให้ยางในประเทศสามารถระบายไปยังต่างประเทศได้ มีการลงนามเอ็มโอยู 511,500 ตันเป็นเงิน 47,991 ล้านบาท ส่งมอบไปแล้ว 145,940 ตันเป็นเงิน 12,835 ล้านบาท ในช่วงภาวะวิกฤตโควิด และกำลังทยอยส่งมอบ

และที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ นำยางไปทำหลักนำทาง เสาหลักกิโล รวมทั้งทำกำแพงคอนกรีตแบบครอบแผ่นยาง อนุมัติในงบประมาณปี 64 จำนวน 39,175 ล้านบาท งบประมาณปี 65 จำนวน 43,995 ล้านบาท รวม 83,170 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นตลาดให้เห็นว่าในอนาคต ภาครัฐมีความต้องการใช้ยางเพิ่มขึ้นและมีผลในการกระตุ้นยกระดับราคายางในประเทศให้สูงขึ้น

และมาตรการในเรื่องของการตลาด เพื่อระบายยาง กระทรวงพาณิชย์จะจัดพบปะระหว่างผู้นำเข้าจากต่างประเทศกับผู้ส่งออกยางไทยบนช่องทางออนไลน์ เพื่อทำตัวเลขการส่งออกทั้งผลิตภัณฑ์ถุงมือยาง ที่นอน หมอนยางพารา เบาะรถนั่ง เป็นต้น โดยเน้นตลาดอียู ตลาดจีน ตลาดอินเดีย ตลาดเกาหลีและตลาดญี่ปุ่น เป็นต้น เดือนพฤศจิกายนจะมุ่งเน้นสินค้านวัตกรรมอย่างโดยการจะให้ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานพบปะระหว่างผู้นำเข้ากับผู้ส่งออกไทย เดือนมีนาคมปีหน้าจะเน้นเรื่องผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ และผู้ประกอบการอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับรถยนต์ มีการเตรียมจัดงาน international rubber expo ในไทย โดยภายใต้ความรับผิดชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เตรียมจัดงานเอ็กซ์โปใหญ่ เพื่อขยายช่องทางการตลาดอย่างผลิตภัณฑ์ยางนวัตกรรมให้เป็นเวทีพบปะระหว่างผู้ซื้อผู้นำเข้าผู้ส่งออกผู้ขายของไทยภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด” และในอนาคตของยางไทยภายใต้รัฐบาลชุดนี้ การที่เรามุ่งเน้นจะทำให้ประเทศไทย “ฮับของถุงมือโลก” การยางแห่งประเทศไทยได้ชักจูงผู้ลงทุนจากประเทศสเปน ประเทศจีนมาลงทุนทำโรงงาน เพื่อใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตถุงมือยาง ดึงนักลงทุนมาได้แล้วประมาณ 10 ราย แต่ละรายจะลงทุนประมาณ 1,000 ถึง 1,500 ล้านบาท

และสุดท้ายประเด็นที่เพื่อนสมาชิกพูดถึงในเรื่องของล้ง ท่านบอกว่าเราไม่ควรจะปล่อยให้ล้งต่างด้าวมาตั้งในประเทศไทย ควรไล่ออกจากแผ่นดินให้หมด ขอเรียนว่าล้ง คือผู้รับซื้อผลไม้และรับซื้อไปเพื่อกระจายในตลาดทั้งในประเทศและเพื่อการส่งออก ล้งจะประกอบด้วย 2 ประเภท คือ 1.ล้งที่เป็นคนไทย 2.ล้งที่เป็นคนต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้รวบรวมผลผลิตและกระจายผลผลิตในต่างประเทศ นำไปสู่การส่งออกในต่างประเทศ ผลจะเกิดข้อดีกับเกษตรกร ผมไปประชุมที่จันทบุรีร่วมกับเกษตรกรผู้ส่งออก เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมามีการร้องเรียนเรื่อง ล้งเอาเปรียบเกษตรกร ถ้าอย่างนั้นเราควรกำจัดล้งให้ออกไปจากประเทศนี้หรือไม่ เกษตรกรบอกว่าอย่า เดี๋ยวจะไม่มีคนมาซื้อผลผลิตเพราะล้งไทยไม่พอที่จะรองรับผลผลิตของเกษตรกร ล้งต่างประเทศยังมีความจำเป็นเพียงแต่ต้องมีมาตรการที่เข้มงวดกำกับอย่าให้เขาเอาเปรียบเกษตรกรไทย และเรื่องลำไย ว่ามีการร้องเรียนว่าทำอย่างไรจะอนุญาตให้ล้งจีนข้ามประเทศมาซื้อในประเทศได้ สุดท้ายก็ไม่สามารถทำได้เพราะต้องถูกกักตัว 14 วัน เราแก้ด้วยการค้าออนไลน์ ขณะนี้คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแล้วในการช่วยชาวสวนลำไยในภาวะวิกฤตและเจอภัยแล้ง อนุมัติช่วยชาวสวนลำไยไร่ละ 2,000 บาท ครัวละไม่เกิน 25 ไร่

มาตรการกำกับล้ง 1.เราจะบังคับให้ใช้สัญญาของกระทรวงพาณิชย์เพื่อความเป็นธรรมของทั้งล้งและเกษตรกร ไม่เอาเปรียบกัน 2.ต้องบังคับใช้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวให้ล้งต่างประเทศรับซื้อเพื่อการส่งออกเท่านั้น 3.พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้าปี 60 ต้องนำมาบังคับใช้ เมื่อมีล้งใดจงใจกดราคารับซื้อ มีความผิดจำคุก 2 ปีปรับไม่เกินร้อยละ 10 ของรายได้ในปีนั้นทั้งปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าพบว่าล้งต่างประเทศล้งไหนเอาเปรียบเกษตรกรก็จะบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัดต่อไป ปัจจุบันได้จับกุมแล้วหนึ่งรายที่จันทบุรี และเตรียมดำเนินคดีอีก 5 ราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย