“จุรินทร์” ปลื้มราคายางขึ้นเพราะมาตรการรัฐบาล

รัฐสภา 9 ก.ย.- “จุรินทร์” แจงสภา ฯ ตัวเลขส่งออกไทยดีกว่าหลายประเทศ ปลื้ม! ราคายางขึ้นเพราะมาตรการรัฐบาล

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องวิกฤตทางเศรษฐกิจและวิกฤติทางการเมือง ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 2 อาคารรัฐสภา


นายจุรินทร์ กล่าวว่า กรณีสมาชิกพรรคพูดถึงตัวเลขการส่งออกที่ติดลบในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาขอทำความเข้าใจว่าตัวเลขส่งออกติดลบในขณะนี้นั้นเป็นสถานการณ์ที่กำลังเผชิญกันอยู่เกือบทุกประเทศทั่วโลก เพราะนอกจากสงครามการค้าที่ยังยืดเยื้อระหว่างจีนกับสหรัฐ และยังมีการปรับรูปแบบไปสู่ความตึงเครียดยิ่งขึ้นในบางช่วง ซ้ำเติมมาด้วยสถานการณ์โควิด ทั้งหมดนี้ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวอัตราการเจริญเติบโตน้อยลง ที่เรียกว่าเศรษฐกิจโลกหดตัว ประเทศไทยได้รับผลกระทบและตัวเลขการส่งออกของทุกประเทศในโลกก็ล้วนได้รับผลกระทบตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกรกฎาคมปีนี้ ประเทศไทย -7.7% แต่เมื่อเทียบกับหลายประเทศในโลกแล้ว ตัวเลขของเราไม่ได้น่าวิตกไปกว่าประเทศอื่น เช่น อินเดีย -22.4% ญี่ปุ่น -14.6% เกาหลี – 10.6% ฟิลิปปินส์ -17.8% สิงคโปร์ -10.3% และมาเลเซีย-9.4% เป็นผลกระทบมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกและภาวะวิกฤตโควิดที่ทุกประเทศได้รับผลเช่นเดียวกัน

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทางออกของประเทศไทยในสถานการณ์วิกฤตนั้น ท่านนายกได้จัดตั้งองค์กรขึ้นมาแก้ปัญหาในสถานการณ์พิเศษที่เรียกว่า ศบค.เศรษฐกิจ หรือศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) ขึ้นมาเป็นการเฉพาะ กระทรวงพาณิชย์ได้ก็จะตั้ง คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์(กรอ.พาณิชย์)ขึ้นมาเพื่อปฏิบัติภารกิจร่วมกันระหว่างส่วนราชการกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนทำงานอย่างใกล้ชิด ว่าทำอย่างไรผ่อนหนักให้เป็นเบาที่สุดในเรื่องของตัวเลขการส่งออกและรูปแบบการค้าการส่งออกได้มีการปรับรูปแบบเข้าสู่ยุค New Normal การปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการค้าออฟไลน์เป็นการค้าแบบออนไลน์ พัฒนาไปถึงขั้นเรียกว่าการค้ารูปแบบไฮบริดที่ผสมระหว่างออฟไลน์และออนไลน์ ประสานกันเพื่อทำตัวเลขการส่งออกให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปรากฏผลเป็นอย่างดี


และรัฐบาลได้สร้างทัพนักธุรกิจยุคใหม่ที่เรียกว่าทัพนักธุรกิจการค้าออนไลน์ขึ้นมาทั้งเพื่อให้มีศักยภาพในเรื่องการค้าออนไลน์ในประเทศและด้านการส่งออกโดยให้การอบรมให้ความรู้เป็นกรณีเฉพาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะเรียนจบมหาวิทยาลัย กระทรวงพาณิชย์ก็มีนโยบายและโครงการชัดเจนที่ต้องการปั้นคนเหล่านี้ที่เรียกว่าคนเจนซีให้เป็นซีอีโอ(Gen Z to be CEO) เพื่อสร้าง ซีอีโอเจนซีขึ้นมาให้มีศักยภาพและมีความรู้ในการที่จะค้าออนไลน์และเป็นทัพหน้าในการนำรายได้เข้าประเทศต่อไปในอนาคต เริ่มต้นดำเนินการแล้วใน 7 มหาวิทยาลัยในภาคเหนือและจะทำในทุกภาคทั่วประเทศของไทยต่อไปตั้งเป้าหมายว่าในปีนี้เราจะทำให้ได้ 12,000 คน เป็นสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ได้ดำเนินการเรื่องการแก้ปัญหาการส่งออกในยุค New Normal

สมาชิกท่านหนึ่งได้พูดในเรื่องของการส่งออกข้าว ว่าประเทศไทยเสียแชมป์ส่งออกข้าวไปเรียบร้อยแล้วและสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้ออกข่าววิงวอนรัฐบาลให้เร่งพัฒนาสายพันธุ์ข้าวขึ้นมา ขอขยายความเพิ่มเติมรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯและสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ทำงานร่วมกันมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีการหารือร่วมกันเร่งรัดการส่งออกตลอดระยะเวลาทั้งในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ข้าวและใน กรอ.พาณิชย์ การเสียแชมป์ส่งออกนั้นประเทศไทยเสียแชมป์ส่งออกข้าวมาตั้งแต่ปีช่วงที่มีการดำเนินการโครงการจำนำข้าวไม่ได้เพิ่งเสียแชมป์แต่เราเสียแชมป์ส่งออกข้าวมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ในช่วงปี 60-61เรากลับมาเป็นแชมป์อีกครั้งหนึ่ง เพราะประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งระบายข้าวที่ค้างอยู่ในสต๊อกจำนวนมากออกไป ทำให้ตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นมา

เวลานี้ใต้สถานการณ์โควิด ไม่ได้แปลว่าการส่งออกข้าวเลวร้ายในทุกตลาดยังมีบางตลาดที่ยังขยายตัวได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะข้าวพรีเมี่ยมหรือข้าวเกรดคุณภาพสูง เช่น ข้าวขาว 100% โดยเฉพาะในตลาดญี่ปุ่น อเมริกา ออสเตรเลีย ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 15 สาเหตุที่การส่งออกข้าวช่วงนี้ประสบปัญหาเพราะนอกจากสถานการณ์โควิดแล้วราคาเราสู้คู่แข่งไม่ได้ ต้นทุนข้าวของเราสูงกว่าประเทศคู่แข่ง และในปัจจุบันเราขาดความหลากหลายของพันธุ์ข้าวที่เป็นที่ต้องการของตลาด จึงเป็นที่มาที่ท่านนายกฯเป็นประธาน นบข.มอบหมายให้ผมดำเนินการไปจัดทำยุทธศาสตร์ข้าว มาถึงจุดนี้เราสามารถดำเนินการมียุทธศาสตร์ข้าวขึ้นมาเสร็จเรียบร้อยแล้วรอนำเข้าที่ประชุม นบข.อีกครั้งและเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยยุทธศาสตร์ข้าวชุดใหม่นี้จะมีอายุ 5 ปีนับตั้งแต่ปี 63 ถึง 67 มีวิสัยทัศน์ว่าจะทำประเทศไทยให้เป็นผู้นำการผลิตการตลาดข้าว ผลิตภัณฑ์ข้าวของโลก โดยใช้ยุทธศาสตร์”ตลาดนำการผลิต”โดยแบ่งตลาดเป็น 3 เกรด 1.ตลาดพรีเมี่ยม 2.ตลาดทั่วไป และ 3.ตลาดเฉพาะข้าวที่จะมุ่งเน้นประกอบด้วย ข้าว 7 ชนิด 1.ข้าวหอมมะลิ 2.ข้าวหอมไทย 3.ข้าวพื้นนุ่ม 4.ข้าวพื้นแข็ง 5.ข้าวนึ่ง 6.ข้าวเหนียวและ7.ข้าวสีต่างๆ ที่มีตลาดเฉพาะมีการตั้งเป้าชัดเจนเพื่อสนองต่อตลาดข้าวในอนาคตที่จะกลับมาเป็นแชมป์อีกครั้งหนึ่งในวันข้างหน้า


1.การลดต้นทุนการผลิตว่าจะลดต้นทุนการผลิตข้าวจากไร่ละ 6,000 บาทเป็นไม่เกิน 3,000 บาทภายในระยะเวลา 5 ปี
2.จะเพิ่มผลผลิตจากปัจจุบันเฉลี่ยผลิตได้ไร่ละ 465 กิโลกรัมเป็น 600 กิโลกรัมต่อไร่ และในเรื่องเมล็ดพันธุ์ที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศตั้งเป้าว่าประเทศไทยภายใต้รัฐบาลที่จะเดินหน้ามุ่งเน้นผลิตเม็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณสมบัติ “สั้น เตี้ย ดก ดำ” โดยมีตัวเลขชัดเจนว่า 1.จะผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวพื้นนุ่มอย่างน้อย 4 สายพันธุ์ 2.พันธุ์พื้นแข็ง 4 สายพันธุ์ 3.ข้าวหอมไทย 2 สายพันธุ์ 4.ข้าวโภชนาการสูง 2 สายพันธุ์ อย่างน้อย 12 พันธุ์ใน 5 ปีเพื่อสนองต่อความต้องการของตลาด

ปีนี้จัดประกวดพันธุ์ข้าวไปแล้ว จะจัดอีกครั้งหนึ่งปลายปีนี้เพื่อเร่งรัดให้ทั้งเอกชนและนักวิชาการผู้ที่มีศักยภาพ เร่งทำการวิจัยผลิตข้าวพันธุ์ใหม่ขึ้นมาเพื่อนำมาประกวดจัดเป็นทรัพยากรสำคัญของประเทศในเรื่องการส่งออกข้าวต่อไป แล้วปีต่อไปจัดปีละครั้ง รัฐบาลชุดนี้มีนโยบายที่มีความชัดเจนในเรื่องข้าวที่เป็นรูปธรรม

และสมาชิกอีกท่านหนึ่งได้พูดถึงพืชเกษตรตัวอื่นนอกจากข้าว ว่ามีเรื่องมันสัมปะหลัง ยางพารา ข้าวโพด และปาล์มน้ำมัน ยังเป็นปัญหา ความจริงคือสถานการณ์ไม่ได้เลวร้าย อย่างน้อยที่สุด ช่วงฤดูกาลผลิตที่ผ่านมาราคาพืชเกษตรสำคัญดีเกือบทุกตัว เช่น ข้าวเปลือกเจ้า ช่วงนี้ ราคาตกตันละ 9,100 ถึง 10,000 บาทต่อเกวียน มันสำปะหลังราคาตกกิโลกรัมละ 2.20 บาท ข้าวโพดความชื้น 14.5% ตกกิโลกรัมละ 8.70 บาท ปาล์มเมื่อวานราคาทางการ กิโลกรัมละ 3.80 บาทถึง 4.20 บาทหน้าโรงงาน และยางพาราสองสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาไปถึงกิโลกรัมละ 60 บาทแล้วสำหรับยางแผ่นรมควันชั้นสาม ที่ราคาดีขึ้นนั้น นอกจากปัจจัยภายนอกทั้งราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ตลาดล่วงหน้าก็ปรับตัวสูงขึ้น ความต้องการใช้ถุงมือยางเพิ่มขึ้น ทำให้น้ำยางข้นขายดีขึ้น ประกอบกับภาวะทางภูมิศาสตร์ในบางประเทศผู้ผลิต เช่น ฝนตกหนัก แรงงานขาดแคลนเป็นต้น ปัจจัยภายในก็มีผลสำคัญอย่างยิ่งที่ช่วยให้ราคายางดีขึ้นโดยเฉพาะมาตรการเชิงรุกของรัฐบาลชุดนี้ เช่นที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการนำทัพเอกชนไปบุกตลาดต่างประเทศหลายประเทศด้วยกัน การลงนามเอ็มโอยู กับจีน อินเดีย ตุรกี และในหลายประเทศ วันนี้เราได้ตัวเลขหลายหมื่นล้าน หลังเร่งรัดการส่งมอบ ที่มีผลไม่มากก็น้อยในการช่วยกระตุ้นให้ยางในประเทศสามารถระบายไปยังต่างประเทศได้ มีการลงนามเอ็มโอยู 511,500 ตันเป็นเงิน 47,991 ล้านบาท ส่งมอบไปแล้ว 145,940 ตันเป็นเงิน 12,835 ล้านบาท ในช่วงภาวะวิกฤตโควิด และกำลังทยอยส่งมอบ

และที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ นำยางไปทำหลักนำทาง เสาหลักกิโล รวมทั้งทำกำแพงคอนกรีตแบบครอบแผ่นยาง อนุมัติในงบประมาณปี 64 จำนวน 39,175 ล้านบาท งบประมาณปี 65 จำนวน 43,995 ล้านบาท รวม 83,170 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นตลาดให้เห็นว่าในอนาคต ภาครัฐมีความต้องการใช้ยางเพิ่มขึ้นและมีผลในการกระตุ้นยกระดับราคายางในประเทศให้สูงขึ้น

และมาตรการในเรื่องของการตลาด เพื่อระบายยาง กระทรวงพาณิชย์จะจัดพบปะระหว่างผู้นำเข้าจากต่างประเทศกับผู้ส่งออกยางไทยบนช่องทางออนไลน์ เพื่อทำตัวเลขการส่งออกทั้งผลิตภัณฑ์ถุงมือยาง ที่นอน หมอนยางพารา เบาะรถนั่ง เป็นต้น โดยเน้นตลาดอียู ตลาดจีน ตลาดอินเดีย ตลาดเกาหลีและตลาดญี่ปุ่น เป็นต้น เดือนพฤศจิกายนจะมุ่งเน้นสินค้านวัตกรรมอย่างโดยการจะให้ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานพบปะระหว่างผู้นำเข้ากับผู้ส่งออกไทย เดือนมีนาคมปีหน้าจะเน้นเรื่องผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ และผู้ประกอบการอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับรถยนต์ มีการเตรียมจัดงาน international rubber expo ในไทย โดยภายใต้ความรับผิดชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เตรียมจัดงานเอ็กซ์โปใหญ่ เพื่อขยายช่องทางการตลาดอย่างผลิตภัณฑ์ยางนวัตกรรมให้เป็นเวทีพบปะระหว่างผู้ซื้อผู้นำเข้าผู้ส่งออกผู้ขายของไทยภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด” และในอนาคตของยางไทยภายใต้รัฐบาลชุดนี้ การที่เรามุ่งเน้นจะทำให้ประเทศไทย “ฮับของถุงมือโลก” การยางแห่งประเทศไทยได้ชักจูงผู้ลงทุนจากประเทศสเปน ประเทศจีนมาลงทุนทำโรงงาน เพื่อใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตถุงมือยาง ดึงนักลงทุนมาได้แล้วประมาณ 10 ราย แต่ละรายจะลงทุนประมาณ 1,000 ถึง 1,500 ล้านบาท

และสุดท้ายประเด็นที่เพื่อนสมาชิกพูดถึงในเรื่องของล้ง ท่านบอกว่าเราไม่ควรจะปล่อยให้ล้งต่างด้าวมาตั้งในประเทศไทย ควรไล่ออกจากแผ่นดินให้หมด ขอเรียนว่าล้ง คือผู้รับซื้อผลไม้และรับซื้อไปเพื่อกระจายในตลาดทั้งในประเทศและเพื่อการส่งออก ล้งจะประกอบด้วย 2 ประเภท คือ 1.ล้งที่เป็นคนไทย 2.ล้งที่เป็นคนต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้รวบรวมผลผลิตและกระจายผลผลิตในต่างประเทศ นำไปสู่การส่งออกในต่างประเทศ ผลจะเกิดข้อดีกับเกษตรกร ผมไปประชุมที่จันทบุรีร่วมกับเกษตรกรผู้ส่งออก เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมามีการร้องเรียนเรื่อง ล้งเอาเปรียบเกษตรกร ถ้าอย่างนั้นเราควรกำจัดล้งให้ออกไปจากประเทศนี้หรือไม่ เกษตรกรบอกว่าอย่า เดี๋ยวจะไม่มีคนมาซื้อผลผลิตเพราะล้งไทยไม่พอที่จะรองรับผลผลิตของเกษตรกร ล้งต่างประเทศยังมีความจำเป็นเพียงแต่ต้องมีมาตรการที่เข้มงวดกำกับอย่าให้เขาเอาเปรียบเกษตรกรไทย และเรื่องลำไย ว่ามีการร้องเรียนว่าทำอย่างไรจะอนุญาตให้ล้งจีนข้ามประเทศมาซื้อในประเทศได้ สุดท้ายก็ไม่สามารถทำได้เพราะต้องถูกกักตัว 14 วัน เราแก้ด้วยการค้าออนไลน์ ขณะนี้คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแล้วในการช่วยชาวสวนลำไยในภาวะวิกฤตและเจอภัยแล้ง อนุมัติช่วยชาวสวนลำไยไร่ละ 2,000 บาท ครัวละไม่เกิน 25 ไร่

มาตรการกำกับล้ง 1.เราจะบังคับให้ใช้สัญญาของกระทรวงพาณิชย์เพื่อความเป็นธรรมของทั้งล้งและเกษตรกร ไม่เอาเปรียบกัน 2.ต้องบังคับใช้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวให้ล้งต่างประเทศรับซื้อเพื่อการส่งออกเท่านั้น 3.พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้าปี 60 ต้องนำมาบังคับใช้ เมื่อมีล้งใดจงใจกดราคารับซื้อ มีความผิดจำคุก 2 ปีปรับไม่เกินร้อยละ 10 ของรายได้ในปีนั้นทั้งปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าพบว่าล้งต่างประเทศล้งไหนเอาเปรียบเกษตรกรก็จะบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัดต่อไป ปัจจุบันได้จับกุมแล้วหนึ่งรายที่จันทบุรี และเตรียมดำเนินคดีอีก 5 ราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งรับ มท.3

สงขลา 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งให้นายอำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมากล่าวถึงเรื่องที่มีหนังสือคำสั่งทางราชการให้นายอำเภอของจังหวัดสงขลาทั้ง 16 อำเภอจัดเวรต้อนรับ-ส่ง และจัดห้อง VIP พร้อมอาหารว่าง ต้อนรับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งรายละเอียดในหนังสือกล่าวว่าให้นายอำเภอเมืองสงขลาปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 คือในวันนี้ ว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ออกหนังสือฉบับนี้ เพราะหนังสือที่ตนลงนามฉบับสุดท้ายในวันนั้นคืองานประชุม ส่วนความจริงตอนนี้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่ให้ข้อคิดว่าหนังสือที่จะขอใช้พื้นที่หน่วยงานจากท่าอากาศยาน ก็ต้องเป็นลายเซ็นของผู้ว่าราชการเท่านั้น ส่วนมีใครคิดจะปลอมแปลงหรือทางหนังสือปลอมขึ้นมาก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่จะให้ได้ความจริงให้เร็วที่สุด เมื่อมีการสอบถามเรื่องความขัดแย้งของจังหวัดสงขลาราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่าท่านไม่น่าจะมีความขัดแย้งกับใคร เพราะไม่เคยทำงานในพื้นที่มาก่อน เพิ่งมารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในครั้งแรก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวอีกว่า วันและเวลาดังกล่าวที่มีการออกหนังสือ ตนก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ไปธุระส่วนตัวงานแต่งงานของญาติที่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่จะให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหาความจริงเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดเพราะถือว่าเป็นการทำผิดอย่างมาก.-สำนักข่าวไทย

“วันนอร์” จี้ สส.ที่ถูกติดต่อให้เงิน 10 กก. เปิดโปง อย่าอ้ำอึ้ง

รัฐสภา 18 ส.ค.-“วันนอร์” จี้ สส.ที่ถูกติดต่อให้เงิน 10 กก. เปิดโปง อย่าอ้ำอึ้ง ยันพร้อมตรวจสอบหากส่งเรื่อง-หลักฐานร้องมา ส่วนปัญหาองค์ประชุม โยนวิปรัฐคุมเสียงปริ่มน้ำ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปัญหาองค์ประชุมที่เสียงรัฐบาลปริ่มน้ำทำให้ประธานต้องชิงปิดประชุมหลายครั้งเพราะองค์ประชุมไม่ครบ ว่าเสียงของรัฐบาลเป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาล ที่จะทำให้องค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งเพื่อให้ประชุมได้ ซึ่งในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ที่ผ่านมา ต้องมีการตรวจสอบองค์ประชุมก่อนลงมติ ดังนั้นหากประสานงานกันให้ดีและทุกคนรู้หน้าที่ตนเอง สภาก็คงดำเนินการเดินหน้าไปได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอะไรก็เช่นกัน หากมีการลงมติที่มีผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็คิดว่าหากทุกคนปฏิบัติตามหน้าที่ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะรัฐบาลมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งจะมากหรือจะน้อยก็ถือว่าเกินกึ่งหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นองค์ประชุมและลงคะแนนได้ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนที่มีการปิดประชุมก่อนเนื่องจากเสียงไม่พอนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า หากองค์ประชุมไม่ครบก็ต้องปิดประชุม เพราะตามกฎหมายและข้อบังคับไม่สามารถดำเนินการไปได้ ซึ่งก็ต้องดูกันไป โดยในช่วงสัปดาห์ต่อไปก็มีกฎหมายหลายฉบับที่จะเข้ามา ซึ่งตนคิดว่าแม้องค์ประชุมมาก หากสมาชิกไม่มาอยู่ในห้องประชุมให้ครบองค์ประชุมก็ไม่มีประโยชน์อะไรเช่นกัน แต่ถ้าองค์ประชุมปริ่มน้ำ แต่มาครบเกินกึ่งหนึ่งก็ดำเนินการไปได้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ที่มีฝ่ายค้านและรัฐบาล โดยหากรัฐบาลต้องการให้กฎหมายผ่าน มติกฎหมายของฝ่ายรัฐบาล รัฐบาลก็ต้องดูแลสมาชิกให้เกินกึ่งหนึ่งจะมากหรือจะน้อยก็ให้เกินกึ่งหนึ่งก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎรยังกล่าวถึงกรณีที่มี สส.ออกมาเปิดเผยว่า มีการเสนอให้เงิน 10 กิโล เพื่อแลกกับการลงมติ ผ่านร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ และร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า […]

กัมพูชาขอเลื่อนประชุม RBC ทภ.2 เป็น 27 ส.ค.นี้

กทม. 18 ส.ค.-กัมพูชาขอเลื่อนประชุม RBC กองทัพภาคที่ 2 เป็นวันที่ 27 ส.ค.นี้ เตรียมนัดหารือที่ช่องสะงำ ศบ.ทก. แจ้งความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชา ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 โดยระบุว่ากองเลขาฯ ฝ่ายกัมพูชา ประสานขอเลื่อนการประชุม RBC สมัยวิสามัญ จากเดิมวันที่ 21 ส.ค.68 เป็นวันที่ 27 ส.ค.68 เพื่อมีเวลาเตรียมการประชุมเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำเรียน พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. แล้ว ไม่ขัดข้องสำหรับการเลื่อนห้วงการประชุม RBC ตามที่ฝ่ายกัมพูชาเสนอ ดังนั้น กองทัพภาคที่ 2 จึงขอเลื่อนการประชุมประสานการปฏิบัติ และการประชุม RBC สมัยวิสามัญ ดังนี้1.วันที่ 25-26 ส.ค.68 : ประชุมกองเลขาฯ2.วันที่ 27 […]

“เดชอิศม์” ยันหนังสือด่วนปลอม เชื่อหวังดิสเครดิต

กทม.18 ส.ค.-“เดชอิศม์” ยันหนังสือด่วนปลอม จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่งสนามบินหาดใหญ่ เชื่อหวังดิสเครดิต นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี ที่มีการเผยแพร่ทำหนังสือด่วนลงนามโดยนายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เนื้อหาลักษณะจัดคิวนายอำเภอ ต้อนรับและส่ง นายเดชอิศม์ สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ว่า ได้ตรวจสอบไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาแล้ว พบว่าเป็นเอกสารปลอม ผู้ว่าราชการจังหวัดบอกว่าไม่มีไม่ใช่ลายเซ็นของท่าน นายเดชอิศม์ กล่าวว่าส่วนตัวไม่ได้ต้องการให้มีใครมารับมาส่ง เพราะเป็น สส.สงขลาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาต้อนรับ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นกระบวนการ ต้องการดิสเครดิตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และอาจมีความพยายามต้องการให้มาถึงตนเองด้วย.-(1)319.-สำนักข่าวไทย