รัฐสภา 3 ก.ย.-สภาฯ รับทราบรายงานรับฟังความเห็นนักศึกษาฯ หลังอภิปราย 2 วัน “ธีรัจชัย” ติงรัฐรับฟัง นศ.แบบหูทวนลม ตั้ง กมธ.แค่ถ่วงเวลา ด้าน กมธ.แจง ทำได้แค่เสนอแนะ ไม่มีอำนาจสั่งใครได้ อัดฝ่ายค้านไม่ให้ความร่วมมือเป็นกรรมาธิการฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (3 ก.ย.) มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณารับฟังความคิดเห็นของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชน โดยเปิดให้สมาชิกอภิปรายต่อจากเมื่อวานนี้ (2 ก.ย.)
โดยนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า กลุ่มที่มาเคลื่อนไหวอาจไม่ได้มาแสดงความเห็น แต่เป็นเยาวชนบางกลุ่มที่ไม่ใช่กลุ่มที่เคลื่อนไหวมาแสดงความเห็นแทน แท้จริงแล้วผู้ที่ควรต้องลงมารับฟังความเห็น ไม่ใช่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เพราะสภาผู้แทนราษฎรไม่ใช่ตัวปัญหา แต่ควรเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เป็นแกนนำ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่ต้องมารับฟังความเห็นโดยตรง เพราะเป็นแกนหลักในการวางกลไก จนพลิกเข้ามาเป็นรัฐบาล ดังนั้นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเหล่านี้ต้องรับฟังความเห็นด้วยใจ เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ แต่ที่ผ่านมายังไม่เห็นท่าทีที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหา แต่กลับเห็นนักศึกษาเป็นฝ่ายตรงข้าม อ้างใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินป้องกันการระบาดโควิด-19 เป็นเงื่อนไขเพื่อตัดทอนกำลังการเคลื่อนไหวของนิสิต นักศึกษา
นายธีรัจชัย กล่าวอีกว่า การเคลื่อนไหวของนักศึกษา ไม่ใช่การเคลื่อนไหวด้วยความเกลียดชังรัฐบาล แต่เป็นการต่อสู้เคลื่อนไหวเพื่อปัจจุบันและอนาคตของตัวเอง หากรัฐบาลมีความจริงใจอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้า ไม่ไปสู่ความตึงเครียด ก็ควรรับฟังและเร่งแก้ไข ขณะที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่าวางโครงสร้างสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่เอื้อต่อการสืบทอดอำนาจ แต่ต้องกระจายไปถึงทุกกลุ่ม เพื่อให้การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการฯ ยืนยันว่า กรรมาธิการฯ ตั้งใจไปรับฟังผู้ชุมนุมทุกกลุ่มให้ดีที่สุด แต่ที่บอกว่าแค่ไปยืนฟัง แค่จด แล้วก็กลับบ้านมาทำรูปเล่มนั้น คงไม่ใช่ เพราะการทำหน้าที่ของกรรมาธิการฯ มีความยากลำบาก ไม่ใช่เพราะว่าได้เข้าไปนั่งในหัวใจของผู้ชุมนุมหรือไม่ แต่เนื่องมาจากองค์ประกอบของกรรมาธิการฯ ที่ควรจะเป็นนั้นไม่ครบ สิ่งที่ทำได้ คือ การให้ข้อเสนอแนะ รับฟัง และนำเสนออย่างตรงไปตรงมา
นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นคนหนึ่งที่ลงมติเห็นชอบกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะถ้าไม่ทำเช่นนั้น รัฐธรรมนูญฉบับต่อไปใครจะเป็นคนร่าง คณะทหารจะเป็นคนร่างเอง ทีนี้จะไม่มีสิทธิเลือกเลย อย่างไรก็ตาม เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เชื่อว่ารัฐบาลก็รับฟังข้อเรียกร้องของนักศึกษา ก็ถือว่าได้เริ่มดำเนินการแล้ว ส่วนเรื่องการยุบสภาฯ นั้น ถ้ายุบแล้วจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้อย่างไร ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยยุบสภาฯ ขณะที่การถูกคุกคามนั้น ตนก็มีประสบการณ์ ถูกตั้งข้อหากว่า 20 ข้อหา ดังนั้นขอให้ปฏิบัติต่อผู้ถูกกล่าวหาอย่างถูกต้องและด้วยความละมุนละม่อม
ขณะที่นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวสรุปว่า แม้กรรมาธิการฯ ชุดนี้จะถูกมองว่าไม่สมประกอบเท่าไร เพราะองค์ประกอบมีเพียงสมาชิกฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น แต่ยืนยันว่าทั้งหมดมีความตั้งใจที่จะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากสภาฯ อย่างดีที่สุด แต่ไม่ค่อยสบายใจที่หลายคนบอกว่าคณะกรรมาธิการฯ ชุดนี้พยายามซื้อเวลาและเป็นเครื่องมือของรัฐบาล เพราะกรรมาธิการฯ ชุดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากรัฐบาล แต่เกิดขึ้นจากสภาฯ และสิ่งที่ไม่สบายใจที่สุด คือ กำลังดูถูกสภาฯ ซึ่งหมายถึงดูถูกตัวเองและประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากอภิปรายกันอย่างกว้างขวางและกรรมาธิการชี้แจง แล้ว ถือว่าที่ประชุมได้รับทราบรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณารับฟังความคิดเห็นของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชน.-สำนักข่าวไทย