นายกฯ เผยคดีบอส อาจทำเป็นขบวนการ

ทำเนียบฯ 1 ก.ย.- นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดี “บอส อยู่วิทยา” ยังไม่เปิดเผยรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง ชี้อาจทำเป็นขบวนการ พร้อมรับข้อเสนอ 5 ข้อของคณะกรรมการฯ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อ ขณะที่คณะกรรมการฯ ขอทำงานต่ออีก 30 วัน เพื่อเสนอแนะปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงผลสรุปการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญานายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน ว่า คดีนี้เป็นที่คาใจของสังคมและประชาชน ซึ่งตนไม่อยากให้ประชาชนเกิดความไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมและกฎหมายของไทย และคดีในลักษณะนี้มีจำนวนมาก จึงได้ตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้นมา พร้อมชื่นชมการทำงานของคณะกรรมการฯ ที่มีการส่งรายงานทุก ๆ 10 วัน และตนจะไม่ไปก้าวล่วงใคร และไม่ก้าวล่วงอัยการ ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ ในส่วนของตำรวจตนจะสั่งการไป ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการฯ เห็นว่าคดีดังกล่าวดำเนินการมายาวนานถึง 8 ปี เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก มีความซับซ้อนและมีการร้องเรียนขอความเป็นธรรมถึง 14 ครั้ง ซึ่งเรื่องนี้อาจจะมีการทำเป็นขบวนการ จึงต้องตรวจสอบกันต่อไป และเรื่องนี้ยังต้องเข้ากระบวนการตรวจสอบ จึงยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ เพราะอาจทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้น เชื่อว่าเมื่อถึงเวลารายชื่อจะปรากฏออกมาเอง


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ข้อเสนอของคณะกรรมการ 5 ข้อ คือ 1.ยกคดีขึ้นดำเนินการใหม่ โดยเฉพาะคดีที่ยังไม่ขาดอายุความ 2.ดำเนินคดีและวินัยที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย 3.บางเรื่องที่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นความผิดหรือไม่ แต่จะตรวจสอบพฤติการณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องในเชิงจริยธรรม 4. สร้างความเข้าใจกับวิธีปฏิบัติในการมอบอำนาจของผู้บังคับบัญชา ที่เมื่อมอบไปแล้วจะรับผิดชอบอย่างไร ซึ่งตรงนี้ต้องไปแก้ไขกฎระเบียบอีกหลายเรื่อง ซึ่งต่าง ๆ เหล่านี้ จะส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในทันที

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจ ตนกำกับดูแลอยู่แล้ว ส่วนอัยการเป็นองค์กรอิสระ ทนายความให้สภาทนายความไปดูแล ว่ามีคนที่เกี่ยวข้องหรือไม่ โดยรัฐบาลจะให้ ปปท.เป็นศูนย์กลางติดตามประสานงานในการดำเนินการความก้าวหน้าให้ประชาชนทราบเป็นระยะ ทั้งนี้คณะกรรมการฯ ขอทำงานต่ออีก 30 วัน เพื่อเสนอแนะปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในเชิงปฏิรูปให้ชัดเจน และเรื่องนี้ถือเป็นประโยชน์ที่ต้องผลักดันกันต่อไป ดังนั้นใครมีเบาะแสให้ส่งมายังคณะกรรมการฯ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมถือเป็นหลักของประเทศชาติ ถ้าอยู่กันแบบไร้กฎหมาย ก็ไม่สามารถทำได้ บ้านเมืองจะกลายเป็นอณาธิปไตยทันที ไม่ใช่ประชาธิปไตย หลายอย่างจะทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศ ความเชื่อมั่นต่างประเทศก็เสียไป เศรษฐกิจไม่มั่นคง การลงทุนก็ลดลง จึงขอย้อนถามว่า เราจะได้อะไรบนชัยชนะบนซากปรักหักพัง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก