กทม. 30 ส.ค.-ศรีสุวรรณ เตรียมร้อง ป.ป.ช.สอบ ส.ส.คนดังเรียกรับเงิน 12 ล้านจากบริษัทติดตั้งกล้อง CCTV
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เผยว่าในวันพรุ่งนี้ ( 31 ส.ค.) จะเดินทางไปยื่นคำร้อง พร้อมหลักฐานคลิปเสียงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ในเวลา 10.30 น. กรณีที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้มีการเผยแพร่คลิปเสียงความยาวเกือบ 2 นาที โดยเสียงในคลิปดังกล่าวคล้ายเสียงของ ส.ส.คนดัง หัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งกำลังเจรจาเรียกรับเงินจำนวน 12 ล้านบาท จากบริษัทที่รับติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ ซีซีทีวี (CCTV) ในโครงการ Safe Zone Schools ของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแลกกับการเคลียร์สื่อมวลชนและคนใหญ่คนโตในหลายวงการ เพื่อให้ยุตินำเสนอข่าวด้านลบของบริษัทนั้น พฤติการณ์และการกระทำดังกล่าว หากพิสูจน์แล้วเป็นจริง ย่อมถือได้ว่า เป็นความเลวร้ายที่สุด ที่ไม่หมดสิ้นเสียทีในแวดวงนักการเมืองไทย ซึ่งสังคมไทยไม่อาจยอมรับได้ เพราะถือว่าเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และเป็นเสมือนพวกปลิงทากที่เข้ามาเกาะกิน ทำลาย สถาบันการปกครองในระบบประชาธิปไตยของไทยเลยทีเดียว การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.149 ที่บัญญัติว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 40,000 บาท หรือประหารชีวิต
นายศรีสุวรรณ ยังกล่าวว่า กรณีนี้ถือเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม เข้าข่ายฝ่าฝืนบทบัญญัติใน ม.129 ประกอบ ม.128 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 เพราะถือว่าเป็นการกระทําความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการหรือความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมด้วย เป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะต้องรีบพิสูจน์และดำเนินการไต่สวนและชี้มูลว่ามีความผิดจริงหรือไม่ หากเป็นไปตามคลิปที่ปรากฏก็จะได้ส่งให้อัยการฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาลงโทษ ให้ออกจากตำแหน่ง ส.ส. และตัดสิทธิ์ทางการเมือง ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ 2560 ม.101 ประกอบ ม.98 ต่อไป.-สำนักข่าวไทย