ทำเนียบฯ 13 ส.ค.-“อิทธิพล” เผยเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาวันหยุดชดเชย วันสงกรานต์ เพิ่ม 2 วันในช่วงเดือนกันยายนนี้
นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (13 ส.ค.) กระทรวงวัฒนธรรมเตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์ ที่ยังเหลืออีก 2 วันเพิ่มเติม เบื้องต้นคาดว่าจะมีในช่วงวันที่ 4-7 กันยายนนี้ เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน เหมือนที่ผ่านมา
นายอิทธิพล กล่าวอีกว่า จากการหารือร่วมกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีกหลายคน เห็นว่าการเพิ่มวันหยุดชดเชยในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศกลับมาคึกคัก ซึ่งเบื้องต้นเคยมีแนวคิดที่จะให้มีวันหยุดชดเชยในช่วงเดือนสิงหาคม แต่เห็นว่าในช่วงเดือนสิงหาคมมีวันหยุดช่วงวันแม่อยู่แล้ว ซึ่งนายวิษณุ เห็นว่าการจะกำหนดให้มีวันหยุดหลายวัน ควรจะเว้นระยะอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อให้ประชาชนได้มีเวลาในการวางแผนการท่องเที่ยว จึงมาลงตัวในเดือนกันยายน เพราะเดือนตุลาคมก็มีวันหยุดนักขัตฤกษ์อยู่แล้ว
นายอิทธิพล กล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะมีการแบ่งงาน และมอบหมายงานให้กับรองนายกรัฐมนตรีที่รับตำแหน่งใหม่ทั้ง 2 คน รวมถึงมอบหมายการทำงานแบบ New normal โดยให้แต่ละกระทรวงที่มีงานเกี่ยวข้องกัน ได้บูรณาการการทำงานร่วมกัน พร้อมทั้งมอบหมายภารกิจของแต่ละกระทรวงให้ดูงานในเชิงพื้นที่ด้วย
นายอิทธิพล กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมจะมีการรายงานเรื่องการผ่อนปลดมาตรการต่าง ๆ ทั้งการเปิดภาคเรียนเต็มรูปแบบ การเข้าชมกีฬา หรือการแสดงมหรสพต่าง ๆ เนื่องจากสถานการณ์ผ่อนคลายลง และกิจกรรมบางลักษณะจำเป็นต้องเปิดให้มีคนเข้าร่วมมากขึ้น เช่น การเข้าชมภาพยนตร์ รวมถึงการจัดแสดงคอนเสิร์ตที่อาจจะยกเลิกการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมที่ 500 คน แต่จะพิจารณาตามความเหมาะสมของพื้นที่ โดยเฉพาะกรณีการจัดคอนเสิร์ตศิลปินจากต่างประเทศ ที่เคยมีกำหนดการจัดแสดงในไทยก่อนที่จะมีสถานการณ์ของโรคโควิด-19 แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประสานเข้ามา เพราะยังติดข้อจำกัดเรื่องการจำกัดจำนวนผู้เข้าชม อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องอยู่ที่ผู้จัดด้วยว่าจะตัดสินใจอย่างไร เนื่องจากไทยยังมีข้อจำกัดเรื่องการเดินทางจากต่างประเทศ แต่ทางรัฐบาลก็พร้อมสนับสนุนให้มีการจัดแสดงคอนเสิร์ต เพราะจะช่วยส่งเสริมให้เกิดรายได้และเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศ.-สำนักข่าวไทย