ศบค.แถลงมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15 ราย

ทำเนียบฯ 7 ส.ค. -ศบค.แถลงสถานการณ์โรคโควิด 19 มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15 ราย ทั้งหมดกลับจากต่างประเทศ ยันไม่ปิดบังรายชื่อโรงแรมที่เป็นAlternative State quarantine ผลตรวจทหารสหรัฐอเมริกา 110 ราย ไม่พบเชื้อ เผยที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจ ศบค. ประชุมพิจารณาผ่อนคลาย 5 ประเด็น เปิดโรงเรียนแบบ 100% เปิดให้บริการรถโดยสารสาธารณะเต็มรูปแบบ เปิดแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชม ขายอาหารบนเครื่องบิน และการขยายเวลาสถานบริการถึง 02.00 น.


น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้่อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงตัวเลขผู้ติดเชื้อวันนี้ (7ส.ค) เพิ่มขึ้น 15 ราย ผู้ติดเชื้อสะสม 3,345 ราย หายป่วยกลับบ้านแล้ว 3,148 ราย อยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาล 139 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ผู้เสียชีวิตยังคงที่ 58 ราย

โดยผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15 ราย จากอียิปต์ 4 ราย ทั้งหมดเป็นชายไทย อายุ 22 ,23 ,26 และ 28 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 24 กรกฎาคม เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 5 ราย เข้าพัก State Quarantine ในจังหวัดชลบุรี ตรวจพบเชื้อในวันที่ 5 สิงหาคม ทั้งหมดไม่มีอาการ จากซาอุดิอาระเบีย 10 ราย เป็นนักศึกษาชายไทย 9 ราย อายุระหว่าง 24-28 ปี และอีก 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 43 ปี อาชีพพนักงานโรงงาน เดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 2 ราย เข้าพัก state quarantine ที่จังหวัดชลบุรี ตรวจพบเชื้อวันที่ 5 สิงหาคม ทั้งหมดไม่มีอาการ และจากญี่ปุ่น 1 รายเป็นชายอายุ 29 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทยเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม เข้าพัก state quarantine ที่จังหวัดสมุทรปราการ ตรวจพบเชื้อ วันที่ 5 สิงหาคมไม่มีอาการ


โฆษก ศบค. กล่าวว่า ขณะที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลก 19,256652 ราย เสียชีวิตแล้ว 717,680 ราย ผู้ติดเชื้อในรอบ 24 ชั่วโมงทั่วโลก 282,728 ราย สหรัฐอเมริกายังคงมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด กว่า 5 ล้านราย ตามด้วย บราซิล อินเดีย รัสเซีย แอฟริกาใต้ ส่วนประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 112 สำหรับเที่ยวบินที่จะนำคนไทยที่ตกค้างในต่างประเทศกลับประเทศไทยวันนี้ 2 เที่ยวบิน ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 190 คน และสิงคโปร์ 68 คน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์ในต่างประเทศ นางคีตา สภารวัน ผู้แทนองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทยเขียนบทความลงในเว็บไซต์ขององค์การสหประชาชาติ แสดงความชื่นชมความสำเร็จของประเทศไทยในการจัดการกับวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้องค์การอนามัยโลกยกให้ไทยและนิวซีแลนด์เป็นความสำเร็จที่ประเทศอื่นควรศึกษา ซึ่งประเทศไทยเป็นตัวอย่างของความแข็งแกร่งในการฟื้นฟูอย่างยอดเยี่ยม จากเดิมที่เคยมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 2 ของโลกจนปัจจุบันไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ชี้ให้เห็นว่า ความสำเร็จครั้งนี้มาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ การดำเนินมาตรการของรัฐบาล ความรับผิดชอบต่อสังคมของจิตอาสา และความสามัคคีเป็นหนึ่งอันเดียวกันของประชาชนในการช่วยกันป้องกันโรค

ต่อข้อถามว่าโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักตัวแบบเสียค่าใช้จ่ายเอง หรือ Alternative State Quarantine(ASQ) จะสามารถเปิดเผยชื่อโรงแรม ได้หรือไม่ เพื่อให้ประชาชนที่เข้าไปใช้บริการทราบ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ประกาศรายชื่อโรงแรมทั้งหมดผ่านเว็บไซต์ www.hsscovid.com อยู่แล้ว ไม่เคยปิดบัง และต้องขอบคุณโรงแรมที่เข้าร่วมทุกแห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่มีคุณภาพระดับสูง ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และฝ่ายความมั่นคง ที่เข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด ส่วนการให้ประกาศหน้าโรงแรม ว่าใช้เป็นสถานที่กักตัวแบบเสียค่าใช้จ่ายเอง หรือ Alternative State Quarantine ก็ต้องเป็นสิทธิของโรงแรม ซึ่งหากการประกาศทำให้ประชาชนตื่นตระหนกก็ไม่เห็นด้วย แต่หากจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานของโรงแรม ก็เป็นเรื่องที่ดี


น.พ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงกรณีกลุ่มทหารสหรัฐอเมริกาเดินทางเข้ามาฝึกร่วมผสม หนุมานการ์เดียน ในประเทศไทย เดินทางเข้ามาวันที่ 3-4 สิงหาคม ที่ผ่านมา ว่า ทางกองทัพบก ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข เข้าไปตรวจเชื้อทหารทั้ง 110 ราย ที่พักอยู่ 3 โรงแรมแล้ว ได้แก่ โรงแรม อนันตรา ริเวอร์ไซด์ โรงแรม ดิ ไอดอล และโรงแรม คอนราด ผลการตรวจเชื้อทั้ง 110 ราย ไม่พบเชื้อ

โฆษก ศบค. กล่าวว่า การแถลงข่าวของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้่อไวรัสโคโรน่า 2019 จะแถลงในวันจันทร์ พุธ และ ศุกร์ เช่นเดิม แต่จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้แถลง ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาลจะแถลงเฉพาะการประชุม ศบค. และสถานการณ์สำคัญ ๆ เท่านั้น เนื่องจากขณะนี้มีการผ่อนคลายมาตรการไปมากแล้ว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกัน และยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19 ) วันนี้ จะพิจารณา 5 ประเด็น คือ การเปิดโรงเรียนแบบ 100% , การเปิดให้บริการของรถโดยสารสาธารณะแบบเต็มรูป ,การเปิดแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชม, การขายอาหารบนเครื่องบิน และการขยายเวลาสถานบริการถึง 02.00 น. .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ