“ชวน” เผย กมธ.ที่ตามคดี “บอส” ตกลงกันได้เหลือ 2 คณะ

รัฐสภา 3ส.ค.- “ชวน” เผย กมธ.ที่ตามคดี “บอส” ตกลงกันได้เหลือ 2คณะ กมธ.กฎหมาย-ศาล ทำงานร่วมกัน วอนติดตามการทำงานของ กก.ตรวจสอบ อย่าด่วนวิจารณ์ เชื่อ ทุกองค์กรรู้ บ้านเมืองอยู่ได้ด้วยหลักความถูกต้อง


นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ร่วมกับประธานคณะกรรมาธิการที่พิจารณาเรื่องซ้ำซ้อนกัน ว่า ที่ประชุมได้ข้อยุติ เรื่องการพิจารณาค้นหาความจริงในคดีนายวรยุทธ หรือ บอก อยู่วิทยา เรียบร้อยแล้ว จะเหลือเพียง 2 คณะ คือ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน และคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน ส่วนคณะกรรมาธิการกิจการตำรวจแจ้งว่า ได้ศึกษามาระดับหนึ่งแล้ว จึงไม่ติดใจ แต่หากต้องการมาร่วมกับอีก 2 คณะ ก็จะนำเข้าหารือต่อที่ประชุมก่อน

“การที่ผมไม่ให้ทำงานซ้ำซ้อนกัน เพราะไม่ต้องการรบกวนข้าราชการ หรือบุคคลภายนอกต้องเข้ามาชี้แจง หากกรรมาธิการทั้ง 3 คณะ เชิญตำรวจ อัยการ หรือองค์การต่างๆ ทุกคณะ ก็ต้องมา 3 ครั้ง ถือเป็นภาระ และความเดือนร้อน ดังนั้น ตามระเบียบแล้ว ต้องการให้กรรมาธิการที่มีความซ้ำซ้อน สามารถทำงานร่วมกันได้ โดยต้องมีชุดใดชุดหนึ่งเป็นเจ้าภาพของเรื่องนั้นๆ เพื่อมาประชุมร่วมกัน” นายชวน กล่าว


นายชวน ยังกล่าวถึง ข้อวิพากษ์วิจารณ์ในคดีนี้ ว่า องค์กรทั้งหลายที่ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบต่างรู้ว่า บ้านเมืองอยู่ได้ด้วยหลักการความถูกต้อง ทุกฝ่ายคงจะรู้ว่าอะไรคืออะไร เพียงแต่ต้องให้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาได้ทำงาน อย่าเพิ่งไปวิจารณ์อะไรมาก เชื่อว่าแต่ละองค์กรรู้ว่า ทำอย่างไรถึงจะให้บ้านเมืองอยู่ได้ด้วยความถูกต้อง ชอบธรรม หากทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง องค์กรนั้นก็จะมีอันเป็นไปในระยะยาว ถือเป็นสิ่งสำคัญที่แต่ละองค์กรต้องตระหนักในความรับผิดชอบ ทุกองค์กร มีทั้งคนดีและคนไม่ดี จึงต้องการดูที่ตัวบุคคล ไม่ต้องการให้เหมารวม

ส่วนกรณีที่น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กทม. ขอบันทึกการประชุมของกรรมาธิการการกฏหมาย สมัย สนช. ที่พิจารณาคดีนายวรยุทธ์ เพื่อมาเปิดเผยต่อสังคมนั้น นายชวน กล่าวว่า ข้อมูลอะไรที่นำมาเปิดเผย ก็สามารถเปิดเผยได้ แต่ยังไม่เห็นรายละเอียดเรื่องที่ขอมา เบื้องตนทราบว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบอยู่ แต่ยืนยันว่ารายงานของกรรมาธิการกฏหมายสามารถนำมาเปิดเผยได้ เว้นแต่การประชุมลับ และมีมติไม่ให้เปิดเผย .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง