สำนักงานป.ป.ช. 3 ส.ค.-“ศรีสุวรรณ” ยื่นหนังสือขอป.ป.ช.สอบตำรวจ-อัยการกรณีไม่สั่งฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา” หลังพบพิรุธทั้งความเร็วรถ สารโคเคน
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยยื่นคำร้องให้ไต่สวนและสอบสวนกรณีอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดงทุกข้อกล่าวหา และพนักงานสอบสวนทำเรื่องขออนุมัติศาลเพิกถอนหมายจับในคดีขับรถชนตำรวจสน.ทองหล่อ โดยกรณีดังกล่าวแม้ฝ่ายอัยการจะพยายามชี้แจงว่าเป็นไปตามเกณฑ์ปกติของการพิจารณาสั่งคดีอาญาของพนักงานอัยการอยู่แล้ว
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า คำชี้แจงดังกล่าวเป็นการปัดภาระหน้าที่ความรับผิดชอบของอัยการไปให้ตำรวจรับผิดชอบทำสำนวนคดี ทั้ง ๆ ที่ตามอำนาจหน้าที่ระเบียบสํานักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของอัยการ 2547 อัยการมีอำนาจตรวจสอบสำนวนคดีและหากพบข้อพิรุธใด ๆ ในสำนวนคดีก็มีอำนาจจะย้อนสำนวนให้ฝ่ายตำรวจชี้แจงหรือสอบสวนหรือหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมได้
“โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นข้อขัดแย้งและข้อสงสัยของสังคม เช่น อัตราความเร็วของรถยนต์คันเกิดเหตุ 177 กม./ชม. แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ดังกล่าวให้การว่าตามที่คำนวณไว้เดิมเป็นการคำนวณผิด ส่วนที่ถูกต้องคืออัตราความเร็วของรถยนต์คันเกิดเหตุในขณะเกิดเหตุอยู่ที่ 79 กม./ชม. อัยการมองไม่เห็นความผิดปกติของสำนวนเลยหรืออย่างไร” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กรณีมหาวิทยาลัยมหิดลแจ้งพนักงานสอบสวนว่าตรวจพบสารเสพติดในร่างกายของผู้ต้องหา แต่กลับไม่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน ทั้งที่สื่อมวลชนเสนอประเด็นดังกล่าวตั้งแต่เกิดเหตุปี 2555 แล้ว แต่อัยการกลับอ้างว่าไม่ปรากฏเอกสารหลักฐานในสำนวนการสอบสวน และไม่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหาฐานเสพยาเสพติด ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความบกพร่องของอัยการผู้สั่งคดีโดยชัดแจ้งที่หมายถึงฝ่ายตำรวจซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนคดี
“ที่เลวร้ายไปกันใหญ่เมื่อตำรวจอ้างว่าได้รับการยืนยันจากหมอฟันว่าสารที่ตรวจพบในร่างกายนายวรยุทธเป็นยาที่ให้ผู้ต้องหารักษาฟันที่มีส่วนผสมของสารโคเคนอยู่ ทำให้ไม่สั่งฟ้องเรื่องสารเสพติด ซึ่งทำให้หมอฟันต้องออกมาชี้แจงว่าประเทศไทยไม่ได้ใช้โคเคนทางทันตกรรมมามากกว่า 100-150 ปีแล้ว แต่ตำรวจกลับไปนำเรื่องการทำฟันมาเฉไฉเพื่อกลบเกลื่อนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในตัวผู้ต้องหา สุดท้ายพอสังคมจับได้กลับอ้างว่าเป็นข้อมูลคลาดเคลื่อนอย่างน่าละอาย” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำคำร้องมายื่นต่อ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยว่าการที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนคดีในลักษณะมีพิรุธ และอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีกรณีนายวรยุทธขับขี่รถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ถือเป็นการกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม พรป.ป.ป.ช.2561 ประกอบพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2547 ม.78(9) และ พรบ.องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ 2553 ม.19 วรรคสอง ประกอบ ม.21 หรือไม่ด้วย.-สำนักข่าวไทย