“เชาว์” แนะนายกฯ โอนคดี “จารุชาติ” ให้ดีเอสไอ

กรุงเทพฯ 3 ส.ค.-“เชาว์” แนะนายกฯ สั่งโอนสำนวนคดี “จารุชาติ” พยานปากเอกคดี “บอส อยู่วิทยา” ให้ดีเอสไอ ทำแทนตำรวจ เหตุมีส่วนได้เสีย หวั่นความน่าเชื่อถือติดลบ


นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง คดีการตายของนายจารุชาติ มาดทอง ต้องโอนคดีให้ดีเอสไอดูแล มีเนื้อหาระบุว่า เรื่องนี้เต็มไปด้วยข้อสงสัยหลังนายจารุชาติ มาดทอง พยานคดีนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่สังคมเชื่อว่าน่าจะเป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าอาจมีการฆ่าตัดตอนในทางคดี เพราะเกรงว่าหากถูกเค้นหนัก พยานอาจเปลี่ยนแปลงคำให้การได้ ซึ่งในขณะนี้ นายกรัฐมนตรีมีการสั่งอายัดศพเพื่อให้มีการชันสูตรพลิกศพสืบหาการเสียชีวิตอย่างละเอียดรอบคอบ แต่ทำแค่นี้ ยังไม่พอ ควรมีการส่งต่อให้ดีเอสไอเป็นผู้รับผิดชอบแทนตำรวจ เนื่องจากขณะนี้ถือว่าตำรวจกลายเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพราะผู้เสียชีวิตเป็นพยานปากเอกที่ทำให้เกิดการพลิกคดีบอส อยู่วิทยา เปลี่ยนจากฟ้องเป็นไม่ฟ้อง ไม่ว่าผลสรุปของคดีจะทำอย่างเที่ยงตรงเพียงใด แต่ความน่าเชื่อถือที่ติดลบจะทำให้เกิดปัญหาคลางแคลงใจอย่างแน่นอน

“ทางที่ดีที่สุดควรโอนคดีนี้ไปให้ดีเอสไอสอบสวนต่อ เพราะถือว่าเป็นองค์กรที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับคดี แตกต่างจากตำรวจที่กำลังตกเป็นจำเลยของสังคมอยู่ในเวลานี้ การสอบสวนเพื่อค้นหาสาเหตุการตายของนายจารุชาติ อยู่ในสายตาของประชาชนที่ติดตามอย่างใกล้ชิด ต้องทำอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งจะเป็นอีกหนทางหนึ่งในการช่วยรักษาระบบยุติธรรมตั้งต้นให้ดำรงอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ผมจึงขอฝากถึงท่านนายกรัฐมนตรีว่าเมื่อท่านก็มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายจารุชาติ เอื้อมมือเข้ามาสั่งการให้มีการอายัดศพเพื่อชันสูตรกันใหม่แล้ว ขอให้ขยับไปอีกนิดด้วยการออกคำสั่งให้โอนสำนวนคดีไปให้ดีเอสไอรับผิดชอบเสียเลย ผมเชื่อว่าจะได้รับความน่าเชื่อถือจากสาธารณชนมากกว่าให้ตำรวจทำเอง” นายเชาว์ ระบุ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ