“เชาว์” บี้ “พล.อ.ประวิตร” แจงคดีทายาทกระทิงแดง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“เชาว์” จี้ “พล.อ.ประวิตร” แจงสังคมหลังพบน้องชายเป็นปธ.กมธ.กม.ยุคสนช. อาจมีเอี่ยวพลิกคดี “บอส อยู่วิทยา” เตือนถ้าไม่รีบกระชากหน้ากากไอ้โม่ง รัฐบาลมีสิทธิพัง แนะทายาทดาบตำรวจฟ้องคดีเอง


นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก Chao Meekhuad เรื่อง คดี “บอส กระทิงแดง” กฎหมายวิปริตหรืออิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์บาป คำถามที่กมธ.กฎหมายยุคสนช.-อัยการ-สตช.ต้องตอบ มีเนื้อหาระบุว่า คดีนาย “บอส” หรือ วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทตระกูลดัง เครื่องดื่ม “กระทิงแดง” ขับรถสปอร์ตเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ทำให้ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐเสียชีวิตบนถนนสุขุมวิท เมื่อคืนวันที่ 3 ก.ย. 2555 ที่จริงคดีอุบัติเหตุเหตุทำนองนี้มีอยู่ทุกวันและส่วนใหญ่ถ้าตกลงกันได้เรื่องค่าเสียหาย ศาลจะรอการลงโทษเกือบทุกราย แต่ที่กลายเป็นข่าวใหญ่อื้อฉาวระดับโลกเพราะผู้ต้องหาเป็นทายาทตระกูลดังระดับอภิมหาเศรษฐีของเมืองไทย ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมปกติ มีการใช้เทคนิคทางกฎหมายโดยการร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐประวิงยื้อคดีถึง 5 ปีจนทำให้คดีขาดอายุความไปหลายข้อหา คงเหลือเพียงข้อหาขับรถชนคนตายที่ยังไม่ขาดอายุความ เพื่อให้เกิดความเข้าใจเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ ผมขอไล่เรียงเหตุการณ์สำคัญเฉพาะข้อหาขับรถชนคนตาย ดังนี้

1. เม.ย.60 ศาลออกหมายจับบอส หลังเลื่อนนัด 7 ครั้งไม่พบอัยการตามหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา คดีนี้จะหมดอายุความ 3 ก.ย.70 2. มีการใช้กมธ.ยุติธรรมยุคสนช.เป็นเครื่องมือรื้อคดีนี้สอบใหม่ อ้างมีผู้ขอความเป็นธรรม ก่อนสรุปว่ามีพยานหลักฐานใหม่ ว่านายบอสไม่มีความผิด ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดทบทวนคำสั่งฟ้องนายบอส 3. อัยการสูงสุดมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบพยานบุคคลเพิ่มเติมจำนวน 2 ปากตามข้อเสนอความเห็นของกมธ.ยุติธรรมยุคสนช.ที่กล่าวอ้างขึ้นใหม่ ทั้งที่พยาน 2 ปากนี้ไม่เคยให้การกับพนักงานสอบสวนมาก่อน เพิ่งปรากฏตัว ปี 2562 ภายหลังวันเวลาเกิดเหตุนานถึง 7 ปี ซึ่งปกติพยานลักษณะนี้ ไม่มีน้ำหนักให้น่าเชื่อถือรับฟังได้ แต่อัยการกลับรับฟังคำพยานเช่นนี้ 4. มีคำสั่งกลับคำสั่งเดิมเปลี่ยนจากคำสั่งฟ้องมาเป็นสั่งไม่ฟ้องนายบอส โดยเชื่อพยานหลักฐานใหม่ที่ กมธ.กฎหมาย สนช.ส่งให้ สตช.ไม่แย้งทำให้คดีถึงที่สุด


นายเชาว์ ระบุว่า บทสรุปสุดท้ายที่ออกมาสั่นคลอนระบบยุติธรรมอย่างรุนแรง เพราะคนในสังคมเข้าใจมาโดยตลอดว่าคดีรับฟังเป็นยุติแล้วว่านายบอสผิดแหง ๆ เนื่องจากในชั้นพนักงานสอบสวนและอัยการสั่งฟ้องไปแล้ว เหลือเพียงการตามจับตัวมาฟ้อง ซึ่งผ่านมา 8 ปี ยังตามจับตัวไม่ได้ เช่นนี้แล้วมีคำสั่งกลับคำสั่งเดิมเป็นสั่งไม่ฟ้องและสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ออกรับลูกไม่แย้งยังกะเตี๊ยมกันมา

นายเชาว์ ระบุว่าเรื่องนี้แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือ คดียุติหรือยังและส่วนที่สองการตามหาตัวไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังการยุติความเป็นธรรมครั้งนี้ ในส่วนของคดีความนั้น คำสั่งไม่ฟ้องของอัยการไม่ได้ตัดสิทธิ ทายาทผู้เสียหายที่จะนำคดีไปฟ้องร้องต่อศาลโดยตรงได้อีกช่องทางหนึ่ง แต่คดีนี้ทราบว่ามีการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายให้กับทายาทผู้ตายจนเป็นที่พอใจและไม่ติดใจเอาความทั้งทางแพ่งและอาญาแล้ว ช่องทางที่จะทวงความยุติธรรมให้กับคนตายจึงแคบลง แต่ข้อตกลงดังกล่าวยังไม่ได้ทำให้สิทธิในการดำเนินคดีอาญาของผู้เสียหายระงับไป เพราะบันทึกตกลงเรื่องค่าเสียหายเป็นเรื่องของการเยียวยาในทางแพ่งที่นำมาประกอบดุลพินิจให้ศาลลดหย่อนผ่อนโทษเท่านั้น ดังนั้นหากทายาทติดใจที่จะดำเนินคดีอาญาก็สามารถฟ้องศาลด้วยตัวเองได้ เพราะคดีนียังไม่ขาดอายุความ

“ผมจึงขอเรียกร้องไปยังทายาทดาบตำรวจวิเชียรผู้ตายให้ออกมาใช้สิทธิทางศาลเพื่อพิสูจน์ความจริงกันให้กระจ่าง ไม่ต้องไปยึดติดกับบันทึกข้อตกลงเพราะคดีอาญาแผ่นดินจะบันทึกกันอย่างไรก็ยอมความกันไม่ได้ เนื่องจากเรื่องมันมาไกลถึงขั้นสังคมต้องแตกหักกับความเชื่อมั่นต่อสถาบันอัยการ เพราะฉะนั้นท่านต้องใช้สิทธิในความเป็นผู้เสียหายฟ้องคดีเองต่อศาลเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับดาบตำรวจวิเชียรอย่างถึงที่สุด และช่วยสร้างความกระจ่างให้กับสังคม ถ้าท่านไม่มีทนาย ผมอาสาว่าความให้” นายเชาว์ ระบุ


นายเชาว์ ระบุว่า ส่วนที่สอง การตามล่าหาไอ้โม่ง เสนอ 4 ข้อทางออกให้ดำเนินการดังนี้ 1. ให้อัยการสูงสุดเปิดเผยพยานหลักฐานทั้งหมดพร้อมทั้งแจงรายละเอียดถึงที่มาของพยานหลักฐาน ความเห็นของพนักงานสอบสวนและอัยการผู้รับผิดชอบสำนวนทั้งหมด 2.ให้สอบสวนพฤติการณ์การสั่งคดีของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดผู้สั่งคดีว่าการสั่งคดีโดยสุจริตตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้รองอัยการสูงสุดท่านนี้เคยสั่งไม่อุทธรณ์คดีนายโอ๊คพานทองแท้ กรณีทุจริตฟอกเงินปล่อยกู้แบงค์กรุงไทยมาแล้ว ทั้งที่ตนเองไม่มีอำนาจ เพราะอำนาจการสั่งคดีชีขาดความเห็นแย้งเป็นดุลพินิจเฉพาะตัวเฉพาะตำแหน่งของอัยการสูงสุด มอบอำนาจกันไม่ได้ตามคำวินิจฉัยของอัยการสูงสุดที่ 41/2533 ซึ่งผมเคยเรียกร้องให้อธิบดีดีเอสไอในฐานะพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง หรือทำคำร้องต่อศาลเพื่อเพิกถอนคำสั่งที่เป็นโมฆะดังดังกล่าว และในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ผมจะไปยื่นหนังสือต่ออธิบดีดีเอสไออย่างเป็นทางการที่สำนักงานดีเอสไอถนนแจ้งวัฒนะด้วย หลังจากที่ชี้ช่องให้แล้วแต่ท่านยังเพิกเฉยไม่ดำเนินการ “3. สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องตอบคำถามให้ได้ว่าทำไมไม่มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟัองทั้งที่เคยมีความเห็นควรสั่งฟ้องตาม พยานหลักฐานเดิม ซึ่งมีความน่าเชื่อถือให้รับฟังมากกว่า 4. รัฐบาล ซึ่งตอนนี้หนีไม่พ้นข้อครหา เพราะมีการใช้กรรมาธิการกฎหมายยุคสนช.ซึ่งมีชื่อน้องชายพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นกรรมาธิการรื้อคดีสอบเองจนกลายเป็นจุดเปลี่ยนของคดี ทำให้เกิดคำถามว่ามีบิ๊กคนไหนเข้าไปสร้างกระบวนการฟอกผิดเป็นถูกให้กับทายาทมหาเศรษฐีหรือไม่ เรื่องนี้ท่านจะนิ่งเฉยไม่ได้ เพราะหากไม่รีบหาตัวผู้ใช้อำนาจผิด บิดเบือนความจริงมาลงโทษ ผมเกรงว่านอกจากระบบยุติธรรมสั่นคลอนแล้ว รัฐบาลของพวกท่านจะพังครืนลงมาในไม่ช้านี้” นายเชาว์ ระบุ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า