รัฐสภา 16 ก.ค.-2 เยาวชนระยองโชว์แผลร้องกมธ.กฎหมาย ขอความเป็นธรรม ยันไม่มีเจตนาป่วนนายกฯ ลงพื้นที่ระยองวานนี้ “รังสิมันต์” เตรียมนำเข้าหารือในกรรมาธิการ เชิญผู้เกี่ยวข้องแจง ใช้อำนาจเกินขอบเขตหรือไม่
นายภาณุพงศ์ จาดนอกและนายณัฐชนน พยัฆพันธ์ 2 เยาวชนจากจังหวัดระยองที่ถูกตำรวจควบคุมตัวระหว่างชูป้ายก่อนที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะลงพื้นที่จังหวัดระยอง วานนี้ (15 ก.ค.)เข้ายื่นหนังสือต่อกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเพียงต้องการไปสอบถามนายกรัฐมนตรีว่าจะเยียวยาช่วยเหลือคนระยองอย่างไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่กลับถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหา แต่คนที่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีสามารถเข้าพื้นที่ได้ ขณะที่ตนถูกกีดกัน แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่รับฟังเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง หากนายกรัฐมนตรีไม่ฟังประชาชนก็ควรพิจารณาตนเอง
“ผมเป็นคนระยอง และในฐานะคนระยองก็ต้องการไปถามนายกรัฐมนตรีจะรับผิดชอบคนระยองอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนลงพื้นที่มีเจ้าหน้าที่โทรมาประสานก่อนแล้ว เพราะผมแจ้งความประสงค์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวไว้ และได้แจ้งความประสงค์ต่อเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่าจะไปพบนายกรัฐมนตรี เพียงแต่ไม่ได้ระบุข้อความที่เขียนไว้ในป้าย และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำตามที่ปรากฏเป็นข่าว จนได้รับบาดเจ็บตามร่างกายซึ่งได้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลระยอง และแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจฐานปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ขัดขวางอิสรภาพและกักขังหน่วงเหนี่ยว” นายภาณุพงศ์ กล่าว
นายภาณุพงศ์ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา(15 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยองได้โทรศัพท์มาแจ้งให้พวกตนไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้(16 ก.ค.) 3 ข้อกล่าวหาคือฝ่าฝืนพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหนีการจับกุม ซึ่งได้ปฏิเสธที่จะเข้าไปรับข้อกล่าวหา เพราะได้แจ้งความประสงค์ต่อเจ้าหน้าที่ก่อนที่ไปชูป้ายแล้ว วันนี้จึงมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อกรรมาธิการการกฎหมายฯ
ด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกรรมาธิการการกฎหมาย กล่าวว่า การแสดงออกเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ประชาชนสามารถตั้งคำถามได้ จึงจะเร่งนำเรื่องนี้เข้าหารือในกรรมาธิการ โดยจะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นการใช้อำนาจรัฐเกินขอบเขตหรือไม่ เพื่อให้เรื่องนี้เกิดความกระจ่าง.-สำนักข่าวไทย