มทภ.1 ยัน MOU43 เป็นเครื่องมือช่วยลดขัดแย้ง ย้ำไม่รื้อลวดหนาม

22 ส.ค.- แม่ทัพภาคที่ 1 ยัน MOU 43 เป็นเครื่องมือช่วยลดความขัดแย้ง ส่วนจะยกเลิกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับระดับสูงกว่า ย้ำ ไม่รื้อลวดหนาม ก่อนเก็บกู้ระเบิดตามข้อกล่าวอ้างกัมพูชา ขณะที่เสนาธิการทัพภาคที่ 1 เผยมติกัมพูชา รับกู้ระเบิด-ปราบสแกมเมอร์ จะส่งผลดีต่อการพูดคุยภาคที่ 2 ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ยันไม่มีใครมีเอกสิทธิ์ในพื้นที่บ้านหนองจาน


พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงกรณีบ้านหนองจาน ที่มีปัญหา 30-40 ปี เพราะติด MOU 43 มองว่าควรยกเลิกหรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 1 ระบุว่า เรื่องนี้ต้องไปหารือในระดับที่สูงกว่าตนเอง เพราะไม่ได้เกิดปัญหาที่ท้องถิ่น แต่ MOU 43 ทำขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือลดความตึงเครียดในพื้นที่ เปรียบเหมือนชีวิตคนเราเมื่อรั้วบ้านติดกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีข้อตกลงร่วมกัน เพื่อให้ดำเนินการอย่างถูกกฎหมาย ไม่เช่นนั้นในแต่ละที่จะเกิดการทะเลาะกัน และ MOU เป็นเรื่องที่นำมาพูดคุยและลดกระแสต่าง ๆ รวมถึงต้องปักปันเขตแดน

ส่วนพื้นที่บ้านหนองจาน มีโฉนดของคนไทย แต่กัมพูชามาอยู่ ชาวบ้านบางคนบอกเป็นที่ของเขาแต่ต้องจ่ายค่าเช่า แต่ชาวกัมพูชาป่วน เราจะแก้ปัญหาอย่างไรนั้น เรื่องนี้ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าฯ สระแก้ว ระบุว่า เฉพาะพื้นที่หนองจาน ตามสิทธิที่ดิน ตรวจสอบแล้วไม่มีเอกสารสิทธิ์ ไม่มี สค.1หรือ นส.3 สภาพพื้นที่เป็นป่า การอยู่อาศัยทางการไทยจึงออกบ้านเลขที่ให้ เพื่อดำเนินการใช้ไฟฟ้าได้ ไม่ได้ให้สัญชาติคนในพื้นที่ ยืนยันไทยมีแผนที่ให้ดูว่าตั้งแต่จุดเริ่มต้นพื้นที่นั้นเป็นแผนที่ใด ซึ่งสามารถเปรียบเทียบกับปัจจุบันได้ และฝ่ายปกครองขอยืนยันว่าไม่มีพื้นที่เอกสารสิทธิ์ใดๆ แม้กระทั่งคนไทย หากพื้นที่ใดมีเอกสาร จะมีภาพถ่ายทางอากาศและกรมที่ดินก็จะไประวาง ซึ่งกรมที่ดินใช้แผนที่ทั่วประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบกันแล้ว ย้ำว่าไม่มีเอกสารสิทธิ์


สำหรับโดรนสอดแนม แม่ทัพภาคที่ 1 ระบุว่า มีบ้างช่วงแรก แต่มีมาตรการป้องกันทุกมิติ มีระบบแอนตี้โดรน และใช้ภาคพื้นดิน และมีการควบคุมพื้นที่ในการขึ้นโดรนซึ่งจะสามารถตรวจสอบได้ โดยตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้ ซึ่งมีระบบตรวจสอบได้ ค้นหาพิกัด ล่าสุดตรวจพบว่าในพื้นที่จังหวัดสระแก้วไม่พบโดนสอดแนมแล้ว

หากรัฐบาลกัมพูชามีการเรียกร้องให้มีการรื้อลวดหนาม และจะยอมเก็บกู้ทุนระเบิดนั้น แม่ทัพภาคที่ 1 ยืนยันไม่รื้อ ไม่มีทางรื้อ ซึ่งทางฝ่ายกัมพูชาในวันนี้ก็ตอบเองว่าเขาต้องการที่จะเก็บกู้วัตถุระเบิด ซึ่งไม่เกี่ยวกับรั้วลวดหนาม

พร้อมกันนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ยอมรับว่า ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ตกค้างตั้งแต่สมัยเวียดนามกัมพูชา ดังนั้นพื้นที่ตรงนี้ถึงไม่เกิดเหตุ แต่พื้นที่ภาคที่ 2 เป็นพื้นที่การรบ ซึ่งสาเหตุทุกคนก็ทราบแล้วว่าเกิดจากอะไร แต่สิ่งที่กองทัพภาคที่ 1 ทำก็เพื่อเคลียร์วัตถุที่ตกค้าง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยรวมถึงประชาชนคนไทยให้ปลอดภัยด้วย


ด้าน พลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 ระบุว่า ขอยืนยันว่าผลสรุปในการประชุม อาร์บีซี สิ่งที่ไทยได้ ก็เชื่อว่าประชาชนจะยินดีกับข้อตกลงนี้ คือ กัมพูชาตอบรับการเก็บกู้ทุนระเบิด ปราบปรามสแกรมเมอร์ ซึ่งทั้ง 2 ข้อนี้แนวทางของจีบีซีกัมพูชาไม่ยอมรับ ดังนั้น จึงถือว่าครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ เป็นข้อตกลงเริ่มต้น ยืนยันยังมีระเบิดอยู่ ซึ่งก็มีหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ดำเนินการอยู่ ยืนยันว่าเก็บกู้ไม่หมดไม่สิ้น มีอีกจำนวนมาก แต่การดำเนินการที่ผ่านมา พื้นที่ที่มีปัญหาระหว่างการเสนอให้มีการตั้งคณะทำงานเฉพาะพื้นที่พูดคุยกัน เพื่อจะพูดคุยกันว่าจะเก็บกู้ระเบิดตรงจุดไหน ยืนยันว่าทัพภาคที่ 1 ยังมี และขอชวนให้กัมพูชามาร่วมเก็บกู้ระเบิด

ทั้งนี้ ทางกัมพูชามีการเสนอว่าการเก็บกู้ทุ่นระเบิด จะต้องหยุดยิงโดยสมบูรณ์ ตนเองจึงตอบว่าเมื่อไหร่จะสมบูรณ์ แล้วที่กัมพูชาบอกว่าจะต้องปักปันเขตแดนให้เสร็จ ซึ่งตนเองก็ตอบไปว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ จึงยืนยันกับกัมพูชาว่าการเก็บกู้ระเบิดต้องเกิดขึ้นทันที เพราะระเบิดไม่รู้จักใคร ถ้าจะรอ ก็จะมีรายที่ 6 รายที่ 7 ขาขาดทั้งไทยและกัมพูชา ดังนั้นตนเองจึงพยายามตีกรอบว่าต้องทำทันที แต่สุดท้ายก็ได้ข้อตกลงยินดีร่วมเก็บกู้ ยืนยันว่าเมื่อรับข้อเสนอที่ทัพภาคที่ 1 แล้ว อาจจะมีข้อแม้ไม่รับที่ทัพภาคที่ 2 ได้อย่างไร ก็เพราะเป็นทุ่นระเบิด ย้ำว่าสิ่งที่ได้จากกองทัพภาคที่ 1 จะเป็นมรรคเป็นผล ต่อไปที่ทัพภาคที่ 2 เช่นเดียวกับเรื่องสแกมเมอร์ ทัพภาคที่ 1 มีภาคที่ 2 ก็มีเช่นกัน -313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบ ผอ.กองช่าง เรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก

ปทุมธานี 11 ก.ย. – หลักฐานคาโต๊ะ! ป.ป.ช. สนธิกำลังตำรวจ บุกจับ ผอ.กองช่างเทศบาลหลักหก จ.ปทุมธานี คาห้องทำงาน พร้อมเงินสดของกลาง 1.9 แสนบาท หลังเรียกรับสินบน แลกใบอนุญาตถมดิน-สร้างหอพัก 8 ชั้น ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ อ้างผู้เสียหายนำมาให้เอง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ภาค 1 นำโดย น.ส.ชฎารัตน์ อนรรฆอร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 วางแผนร่วมกับชุดสืบสวนสำนักงาน ป.ป.ช. และตำรวจสืบสวนภูธรภาค นำหมายศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 เข้าตรวจค้น พร้อมจับกุมนายวีระเชษฐ์ อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลตำบลหลักหก จ.ปทุมธานี ภายในห้องทำงาน เทศบาลตำบลหลักหก หลังมีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ขออนุญาตถมดินและขออนุญาตก่อสร้างอาคาร พร้อมตรวจยึดเงินของกลาง ซุกซ่อนอยู่ที่พื้นใต้ลิ้นชักโต๊ะทำงาน 190,000 บาท เบื้องต้นจากการตรวจหมายเลขธนบัตร ตรงกับสำเนาธนบัตรที่ผู้เสียหายนำไปมอบให้กับนายวีระเชษฐ์ ก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายสำเนาและลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีไว้เป็นหลักฐาน […]

ปิดล้อมไล่ล่าผู้ก่อเหตุ หลังปะทะเดือดสะบ้าย้อย 2 ระลอก

สงขลา 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง วางกำลังปิดล้อมพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบ หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก พบผู้ก่อเหตุมีหมายจับคดีความมั่นคง หลังเหตุปะทะเดือด 2 ระลอก ระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มก่อความไม่สงบ ในพื้นที่บ้านห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ วางกำลังบนถนนเส้นทางเข้าออกพื้นที่ปะทะ ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเขตปะทะอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง ยังคงมีการปิดล้อมบริเวณเนินเขา เพื่อไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดและกระเป๋าเป้ถูกทิ้งไว้บนเนินเขา บริเวณจุดปะทะ คาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะได้รับบาดเจ็บด้วย สำหรับกลุ่มคนร้ายที่ปะทะกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นมีข้อมูลว่า เป็นกลุ่มของนายกอเซ็ง ลาเตะยามา อายุ 35 ปี ชาว อ.ยะหา จ.ยะลา ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ซึ่งมีหมายจับ 7 หมาย และนายฮุสนี ยีกะเส็ม อายุ 34 ปี ชาว อ.เทพา จ.สงขลา มีหมายจับ […]

กักสิงโตสวนสัตว์ดัง-ปรับพฤติกรรม

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สั่งกักสิงโตสวนสัตว์ดัง เพื่อปรับพฤติกรรม แยกเพศ-เฝ้าสังเกตใกล้ชิด เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่สวนสัตว์ดัง ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์เสียชีวิต โดยได้สั่งการให้กักสิงโตทั้งหมดในฝูงที่ก่อเหตุไว้ในกรงชั่วคราว แยกสิงโตเพศผู้และเพศเมีย เพื่อเฝ้าสังเกตพฤติกรรมในระยะใกล้ สำหรับสิงโตที่เข้าตะปบเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต เป็นตัวผู้ โดยสิงโตร่วมฝูงมี 7 ตัว แต่ที่เข้ารุมกัดเจ้าหน้าที่มี 5 ตัว ได้แก่ 1) ทรัมป์ (เพศผู้) ตัวตะปบ 2) ไบท์ (เพศผู้) ตัวตาม 3) อ้อน (เพศเมีย) ตัวตาม 4) อ้าย (เพศเมีย) ตัวตาม 5) ยาว (เพศเมีย) ตัวตาม ทั้งนี้ สิงโตทุกตัวอายุประมาณ 10 ปี พร้อมกันนี้ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กำลังตรวจสอบมาตรการความปลอดภัย และจะไม่อนุญาตให้เปิดส่วนจัดแสดงสัตว์ดุร้าย […]

เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้า

เชียงใหม่ 11 ก.ย. – เร่งฟื้นฟูความเสียหายเหตุกระบะชนเสาไฟฟ้าล้ม ถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ชาวบ้านกังวล หลังทราบว่าประกันรถกระบะคันต้นเหตุ คุ้มครองความเสียหายแค่ 600,000 บาท วอนการไฟฟ้า หรือ อบต.ช้างเผือก ยื่นมือช่วยเหลือ ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.ย.) เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังคงระดมกำลังฟื้นฟูระบบไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ โดยขุดหลุมติดตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงและแรงต่ำทดแทนต้นเดิมที่ล้มเสียหายจากอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางเป็นระยะทาง 595 เมตร พร้อมเก็บซากอุปกรณ์ตามร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาอีก 3 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ ขณะที่ระบบไฟฟ้าถูกแก้ไขจนสามารถจ่ายไฟได้ครบทุกหลังคาเรือนแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี ปรีชาพล ปาละโมงค์ หนึ่งในเจ้าของร้านที่ได้รับความเสียหาย บอกว่า ช่างมาประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหลังคาและโครงสร้าง ประมาณ 150,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการชดใช้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น ทำให้ยังเปิดร้านไม่ได้ ขาดรายได้ แถมยังมีค่าใช้จ่ายอีกมาก และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อแสดงความรับผิดชอบจากนายจ้างของกระบะส่งน้ำ ตอนนี้ทุกคนกังวลมาก เพราะทราบว่าประกันรถที่เกิดอุบัติเหตุคุ้มครองความเสียหายเพียง 600,000 บาท ไม่เพียงพอกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน จึงทยอยเข้าแจ้งความกันไว้แล้ว ขอเรียกร้องให้ทางการไฟฟ้า หรือ […]