พม.กางแผนที่เสี่ยงภัยช่วยกลุ่มเปราะบางเข้าศูนย์พักพิง

พม. 23 ก.ค.- “วราวุธ” เผย ศบปภ. พม. น่าน-เชียงราย-แพร่ กางแผนที่เสี่ยงภัย (Risk Map) เข้าช่วยกลุ่มเปราะบาง ที่รับผลกระทบจากพายุ “วิภา” เข้าศูนย์พักพิง


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) กระทรวง พม. กรณีการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในพื้นที่จังหวัดซึ่งได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุวิภา ส่งผลให้เกิดฝนตกต่อเนื่องและอุทกภัยในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ

โดย ศบปภ. พม.จังหวัดน่าน รายงานว่าได้คัดกรองข้อมูลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ตามแผนที่เสี่ยงภัย (Risk Map) ในระบบสมุดพกครอบครัวอิเล็กทรอนิกส์ (MSO-Logbook) จากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวง พม. และจัดส่งให้ทางจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ความช่วยเหลือและอพยพกลุ่มเปราะบาง เข้าพักที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด


ศบปภ. พม.จังหวัดน่าน พบว่า มีกลุ่มเปราะบางได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น จำนวน 120,244 คน ในพื้นที่ถูกน้ำท่วม จำนวน 7 อำเภอ ดังนี้ 1) อำเภอทุ่งช้าง ผู้สูงอายุ จำนวน 3,646 คน เด็ก จำนวน 1,348 คน คนพิการ จำนวน 869 คน รวม 5,863 คน 2) อำเภอเชียงกลาง ผู้สูงอายุ จำนวน 7,294 คน เด็ก จำนวน 1,099 คน คนพิการ จำนวน 1,765 คน รวม 10,158 คน 3) อำเภอท่าวังผา ผู้สูงอายุ จำนวน 12,468 คน เด็ก จำนวน 3,408 คน คนพิการ จำนวน 2,191 คน รวม 18,067 คน 4) อำเภอปัว ผู้สูงอายุ จำนวน 14,851 คน เด็ก จำนวน 4,200 คน คนพิการ จำนวน 3,784 คน รวม 22,835 คน 5) อำเภอเมืองน่าน ผู้สูงอายุ จำนวน 17,622 คน เด็ก จำนวน 4,604 คน คนพิการ จำนวน 3,008 คน รวม 25,234 คน 6) อำเภอภูเพียง ผู้สูงอายุ จำนวน 9,082 คน เด็ก จำนวน 1,793 คน คนพิการ จำนวน 1,722 คน รวม 12,597 คน และ 7) อำเภอเวียงสา ผู้สูงอายุ จำนวน 16,490 คน เด็ก จำนวน 4,506 คน คนพิการ จำนวน 4,494 คน รวม 25,490 คน

โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จ.น่าน ได้อพยพกลุ่มเปราะบางไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนเมืองแงง อำเภอปัว มีผู้เข้าพักแล้ว จำนวน 91 คน 2) ศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแงง อำเภอปัว มีผู้ป่วยติดเตียงเข้าพักแล้ว จำนวน 9 คน มีญาติติดตามดูแล จำนวน 7 คน รวม 16 คน 3) ศูนย์พักพิงชั่วคราวองค์การบริหารส่วนตำบลตาลชุม อำเภอท่าวังผา มีผู้เข้าพักแล้ว จำนวน 50 คน 4) ศูนย์พักพิงชั่วคราววัดห้วยแขม ตำบลตาลชุม อำเภอท่าวังผา มีผู้เข้าพักแล้ว จำนวน 7 คน 5) ศูนย์พักพิงชั่วคราววัดสวนตาล ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน มีผู้เข้าพักแล้ว จำนวน 60 คน และ 6) ศูนย์พักพิงชั่วคราวเทศบาลเมืองน่าน มีผู้เข้าพักแล้ว จำนวน 20 คน

อย่างไรก็ตาม ทีม พม.จังหวัดน่าน ได้รับมอบหมายจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มจังหวัดน่าน ด้านการจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยได้ดำเนินการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์บริการคนพิการทั่วไปตำบลเปือ อำเภอเชียงกลาง รองรับได้ 30 คน 2) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดน่าน ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน รองรับได้ 30 คน และ3) ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดน่าน ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน รองรับได้ 40 คน และได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจกลุ่มเปราะบางที่เข้าพักที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่อำเภอเมืองน่าน จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์พักพิงชั่วคราววัดสวนตาล อำเภอเมืองน่าน และ 2) ศูนย์พักพิงชั่วคราวเทศบาลเมืองน่าน อำเภอเมืองน่าน


ส่วน ศบปภ. พม.จังหวัดเชียงราย รายงานว่ามีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 8 อำเภอ 23 ตำบล 114 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 400 ครัวเรือน ยังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งศบปภ.พม.จังหวัดเชียงราย ได้จัดส่งข้อมูลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่อำเภอเทิง และอำเภอขุนตาล ให้กับทหารหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 35 (นพค.35) เพื่อเป็นข้อมูลในการช่วยเหลือและอพยพช่วยกลุ่มเปราะบาง พร้อมจัดข้อมูลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ประสบภัยเพื่อประกอบการให้ความช่วยเหลือ , เข้าร่วมประชุมการติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มจังหวัดเชียงราย ในเวลา 08.00 น. ของทุกวัน , เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่ม จากอิทธิพลพายุโซนร้อน “วิภา” กับกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ , แจ้งเตือนการเฝ้าระวังสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ ด้วยการเตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน (Emergency Bag) , ชี้เป้ากลุ่มเปราะบาง หากเกิดสถานการณ์รุนแรงที่ต้องมีการอพยพ ผ่านอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และเครือข่ายกระทรวง พม.ในพื้นที่ , เตรียมการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว กระทรวง พม. จำนวน 6 แห่ง สามารถรองรับผู้ประสบภัย จำนวน 210 คน , เตรียมการจัดตั้งศูนย์พักพิงจังหวัด หากมีสถานการณ์รุนแรง , เตรียมบุคลากร ยานพาหนะ สนับสนุนการดูแลกลุ่มเปราะบางในศูนย์พักพิงชั่วคราว กระทรวง พม. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หรืออำเภอ และร่วมกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและดินถล่ม

สำหรับ ศบปภ. พม.จังหวัดแพร่ ถึงแม้ขณะนี้ ยังไม่มีพื้นที่ประสบภัย แต่ พม. จังหวัดแพร่ ได้จัดข้อมูลกลุ่มเปราะบางในแผนที่เสี่ยงภัย (Risk Map) ให้กับ อปท. เพื่อเป็นข้อมูลในการชี้เป้าพิกัดที่อยู่ของกลุ่มเปราะบาง ในสถานการณ์ที่ต้องอพยพ โดยมีเครือข่ายอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่ ช่วยเหลือ และเตรียมข้อมูลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ประสบภัยเพื่อประกอบการให้ความช่วยเหลือ , แจ้งเตือนการเฝ้าระวังสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ ด้วยการเตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน (Emergency Bag) , ประชุมสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่ เพื่อมอบหมายหน้าที่ ซักซ้อมการปฏิบัติ กรณีเกิดสถานการณ์รุนแรง , จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว สังกัดกระทรวง พม. จำนวน 2 แห่ง คือ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแพร่ และศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดแพร่ สามารรองรับผู้ประสบภัยได้ จำนวน 60 คน , เตรียมจัดตั้งศูนย์พักพิงจังหวัด ณ โรงยิม 1,000 ที่นั่ง อบจ.แพร่ หากมีสถานการณ์รุนแรง และเตรียมบุคลากร ยานพาหนะ สนับสนุนการดูแลกลุ่มเปราะบางในศูนย์พักพิงชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม หากพี่น้องประชาชนประสบปัญหาความเดือดร้อนจากผลกระทบของพายุ “วิภา” กระทรวง พม. พร้อมให้ความช่วยเหลือ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังประสบภัย โดยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วน พม. โทร. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย