พม.กางแผนที่เสี่ยงภัยช่วยกลุ่มเปราะบางเข้าศูนย์พักพิง

พม. 23 ก.ค.- “วราวุธ” เผย ศบปภ. พม. น่าน-เชียงราย-แพร่ กางแผนที่เสี่ยงภัย (Risk Map) เข้าช่วยกลุ่มเปราะบาง ที่รับผลกระทบจากพายุ “วิภา” เข้าศูนย์พักพิง


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) กระทรวง พม. กรณีการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในพื้นที่จังหวัดซึ่งได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุวิภา ส่งผลให้เกิดฝนตกต่อเนื่องและอุทกภัยในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ

โดย ศบปภ. พม.จังหวัดน่าน รายงานว่าได้คัดกรองข้อมูลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ตามแผนที่เสี่ยงภัย (Risk Map) ในระบบสมุดพกครอบครัวอิเล็กทรอนิกส์ (MSO-Logbook) จากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวง พม. และจัดส่งให้ทางจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ความช่วยเหลือและอพยพกลุ่มเปราะบาง เข้าพักที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด


ศบปภ. พม.จังหวัดน่าน พบว่า มีกลุ่มเปราะบางได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น จำนวน 120,244 คน ในพื้นที่ถูกน้ำท่วม จำนวน 7 อำเภอ ดังนี้ 1) อำเภอทุ่งช้าง ผู้สูงอายุ จำนวน 3,646 คน เด็ก จำนวน 1,348 คน คนพิการ จำนวน 869 คน รวม 5,863 คน 2) อำเภอเชียงกลาง ผู้สูงอายุ จำนวน 7,294 คน เด็ก จำนวน 1,099 คน คนพิการ จำนวน 1,765 คน รวม 10,158 คน 3) อำเภอท่าวังผา ผู้สูงอายุ จำนวน 12,468 คน เด็ก จำนวน 3,408 คน คนพิการ จำนวน 2,191 คน รวม 18,067 คน 4) อำเภอปัว ผู้สูงอายุ จำนวน 14,851 คน เด็ก จำนวน 4,200 คน คนพิการ จำนวน 3,784 คน รวม 22,835 คน 5) อำเภอเมืองน่าน ผู้สูงอายุ จำนวน 17,622 คน เด็ก จำนวน 4,604 คน คนพิการ จำนวน 3,008 คน รวม 25,234 คน 6) อำเภอภูเพียง ผู้สูงอายุ จำนวน 9,082 คน เด็ก จำนวน 1,793 คน คนพิการ จำนวน 1,722 คน รวม 12,597 คน และ 7) อำเภอเวียงสา ผู้สูงอายุ จำนวน 16,490 คน เด็ก จำนวน 4,506 คน คนพิการ จำนวน 4,494 คน รวม 25,490 คน

โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จ.น่าน ได้อพยพกลุ่มเปราะบางไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนเมืองแงง อำเภอปัว มีผู้เข้าพักแล้ว จำนวน 91 คน 2) ศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแงง อำเภอปัว มีผู้ป่วยติดเตียงเข้าพักแล้ว จำนวน 9 คน มีญาติติดตามดูแล จำนวน 7 คน รวม 16 คน 3) ศูนย์พักพิงชั่วคราวองค์การบริหารส่วนตำบลตาลชุม อำเภอท่าวังผา มีผู้เข้าพักแล้ว จำนวน 50 คน 4) ศูนย์พักพิงชั่วคราววัดห้วยแขม ตำบลตาลชุม อำเภอท่าวังผา มีผู้เข้าพักแล้ว จำนวน 7 คน 5) ศูนย์พักพิงชั่วคราววัดสวนตาล ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน มีผู้เข้าพักแล้ว จำนวน 60 คน และ 6) ศูนย์พักพิงชั่วคราวเทศบาลเมืองน่าน มีผู้เข้าพักแล้ว จำนวน 20 คน

อย่างไรก็ตาม ทีม พม.จังหวัดน่าน ได้รับมอบหมายจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มจังหวัดน่าน ด้านการจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยได้ดำเนินการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์บริการคนพิการทั่วไปตำบลเปือ อำเภอเชียงกลาง รองรับได้ 30 คน 2) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดน่าน ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน รองรับได้ 30 คน และ3) ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดน่าน ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน รองรับได้ 40 คน และได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจกลุ่มเปราะบางที่เข้าพักที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่อำเภอเมืองน่าน จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์พักพิงชั่วคราววัดสวนตาล อำเภอเมืองน่าน และ 2) ศูนย์พักพิงชั่วคราวเทศบาลเมืองน่าน อำเภอเมืองน่าน


ส่วน ศบปภ. พม.จังหวัดเชียงราย รายงานว่ามีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 8 อำเภอ 23 ตำบล 114 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 400 ครัวเรือน ยังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งศบปภ.พม.จังหวัดเชียงราย ได้จัดส่งข้อมูลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่อำเภอเทิง และอำเภอขุนตาล ให้กับทหารหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 35 (นพค.35) เพื่อเป็นข้อมูลในการช่วยเหลือและอพยพช่วยกลุ่มเปราะบาง พร้อมจัดข้อมูลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ประสบภัยเพื่อประกอบการให้ความช่วยเหลือ , เข้าร่วมประชุมการติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มจังหวัดเชียงราย ในเวลา 08.00 น. ของทุกวัน , เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่ม จากอิทธิพลพายุโซนร้อน “วิภา” กับกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ , แจ้งเตือนการเฝ้าระวังสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ ด้วยการเตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน (Emergency Bag) , ชี้เป้ากลุ่มเปราะบาง หากเกิดสถานการณ์รุนแรงที่ต้องมีการอพยพ ผ่านอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และเครือข่ายกระทรวง พม.ในพื้นที่ , เตรียมการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว กระทรวง พม. จำนวน 6 แห่ง สามารถรองรับผู้ประสบภัย จำนวน 210 คน , เตรียมการจัดตั้งศูนย์พักพิงจังหวัด หากมีสถานการณ์รุนแรง , เตรียมบุคลากร ยานพาหนะ สนับสนุนการดูแลกลุ่มเปราะบางในศูนย์พักพิงชั่วคราว กระทรวง พม. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หรืออำเภอ และร่วมกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและดินถล่ม

สำหรับ ศบปภ. พม.จังหวัดแพร่ ถึงแม้ขณะนี้ ยังไม่มีพื้นที่ประสบภัย แต่ พม. จังหวัดแพร่ ได้จัดข้อมูลกลุ่มเปราะบางในแผนที่เสี่ยงภัย (Risk Map) ให้กับ อปท. เพื่อเป็นข้อมูลในการชี้เป้าพิกัดที่อยู่ของกลุ่มเปราะบาง ในสถานการณ์ที่ต้องอพยพ โดยมีเครือข่ายอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่ ช่วยเหลือ และเตรียมข้อมูลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ประสบภัยเพื่อประกอบการให้ความช่วยเหลือ , แจ้งเตือนการเฝ้าระวังสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ ด้วยการเตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน (Emergency Bag) , ประชุมสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่ เพื่อมอบหมายหน้าที่ ซักซ้อมการปฏิบัติ กรณีเกิดสถานการณ์รุนแรง , จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว สังกัดกระทรวง พม. จำนวน 2 แห่ง คือ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแพร่ และศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดแพร่ สามารรองรับผู้ประสบภัยได้ จำนวน 60 คน , เตรียมจัดตั้งศูนย์พักพิงจังหวัด ณ โรงยิม 1,000 ที่นั่ง อบจ.แพร่ หากมีสถานการณ์รุนแรง และเตรียมบุคลากร ยานพาหนะ สนับสนุนการดูแลกลุ่มเปราะบางในศูนย์พักพิงชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม หากพี่น้องประชาชนประสบปัญหาความเดือดร้อนจากผลกระทบของพายุ “วิภา” กระทรวง พม. พร้อมให้ความช่วยเหลือ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังประสบภัย โดยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วน พม. โทร. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]