พม.กางแผนที่เสี่ยงภัยช่วยกลุ่มเปราะบางเข้าศูนย์พักพิง

พม. 23 ก.ค.- “วราวุธ” เผย ศบปภ. พม. น่าน-เชียงราย-แพร่ กางแผนที่เสี่ยงภัย (Risk Map) เข้าช่วยกลุ่มเปราะบาง ที่รับผลกระทบจากพายุ “วิภา” เข้าศูนย์พักพิง


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) กระทรวง พม. กรณีการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในพื้นที่จังหวัดซึ่งได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุวิภา ส่งผลให้เกิดฝนตกต่อเนื่องและอุทกภัยในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ

โดย ศบปภ. พม.จังหวัดน่าน รายงานว่าได้คัดกรองข้อมูลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ตามแผนที่เสี่ยงภัย (Risk Map) ในระบบสมุดพกครอบครัวอิเล็กทรอนิกส์ (MSO-Logbook) จากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวง พม. และจัดส่งให้ทางจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ความช่วยเหลือและอพยพกลุ่มเปราะบาง เข้าพักที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด


ศบปภ. พม.จังหวัดน่าน พบว่า มีกลุ่มเปราะบางได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น จำนวน 120,244 คน ในพื้นที่ถูกน้ำท่วม จำนวน 7 อำเภอ ดังนี้ 1) อำเภอทุ่งช้าง ผู้สูงอายุ จำนวน 3,646 คน เด็ก จำนวน 1,348 คน คนพิการ จำนวน 869 คน รวม 5,863 คน 2) อำเภอเชียงกลาง ผู้สูงอายุ จำนวน 7,294 คน เด็ก จำนวน 1,099 คน คนพิการ จำนวน 1,765 คน รวม 10,158 คน 3) อำเภอท่าวังผา ผู้สูงอายุ จำนวน 12,468 คน เด็ก จำนวน 3,408 คน คนพิการ จำนวน 2,191 คน รวม 18,067 คน 4) อำเภอปัว ผู้สูงอายุ จำนวน 14,851 คน เด็ก จำนวน 4,200 คน คนพิการ จำนวน 3,784 คน รวม 22,835 คน 5) อำเภอเมืองน่าน ผู้สูงอายุ จำนวน 17,622 คน เด็ก จำนวน 4,604 คน คนพิการ จำนวน 3,008 คน รวม 25,234 คน 6) อำเภอภูเพียง ผู้สูงอายุ จำนวน 9,082 คน เด็ก จำนวน 1,793 คน คนพิการ จำนวน 1,722 คน รวม 12,597 คน และ 7) อำเภอเวียงสา ผู้สูงอายุ จำนวน 16,490 คน เด็ก จำนวน 4,506 คน คนพิการ จำนวน 4,494 คน รวม 25,490 คน

โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จ.น่าน ได้อพยพกลุ่มเปราะบางไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงเรียนเมืองแงง อำเภอปัว มีผู้เข้าพักแล้ว จำนวน 91 คน 2) ศูนย์พักพิงชั่วคราวโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแงง อำเภอปัว มีผู้ป่วยติดเตียงเข้าพักแล้ว จำนวน 9 คน มีญาติติดตามดูแล จำนวน 7 คน รวม 16 คน 3) ศูนย์พักพิงชั่วคราวองค์การบริหารส่วนตำบลตาลชุม อำเภอท่าวังผา มีผู้เข้าพักแล้ว จำนวน 50 คน 4) ศูนย์พักพิงชั่วคราววัดห้วยแขม ตำบลตาลชุม อำเภอท่าวังผา มีผู้เข้าพักแล้ว จำนวน 7 คน 5) ศูนย์พักพิงชั่วคราววัดสวนตาล ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน มีผู้เข้าพักแล้ว จำนวน 60 คน และ 6) ศูนย์พักพิงชั่วคราวเทศบาลเมืองน่าน มีผู้เข้าพักแล้ว จำนวน 20 คน

อย่างไรก็ตาม ทีม พม.จังหวัดน่าน ได้รับมอบหมายจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มจังหวัดน่าน ด้านการจัดการศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยได้ดำเนินการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์บริการคนพิการทั่วไปตำบลเปือ อำเภอเชียงกลาง รองรับได้ 30 คน 2) บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดน่าน ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน รองรับได้ 30 คน และ3) ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดน่าน ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน รองรับได้ 40 คน และได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจกลุ่มเปราะบางที่เข้าพักที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่อำเภอเมืองน่าน จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ 1) ศูนย์พักพิงชั่วคราววัดสวนตาล อำเภอเมืองน่าน และ 2) ศูนย์พักพิงชั่วคราวเทศบาลเมืองน่าน อำเภอเมืองน่าน


ส่วน ศบปภ. พม.จังหวัดเชียงราย รายงานว่ามีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 8 อำเภอ 23 ตำบล 114 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 400 ครัวเรือน ยังไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งศบปภ.พม.จังหวัดเชียงราย ได้จัดส่งข้อมูลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่อำเภอเทิง และอำเภอขุนตาล ให้กับทหารหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 35 (นพค.35) เพื่อเป็นข้อมูลในการช่วยเหลือและอพยพช่วยกลุ่มเปราะบาง พร้อมจัดข้อมูลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ประสบภัยเพื่อประกอบการให้ความช่วยเหลือ , เข้าร่วมประชุมการติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มจังหวัดเชียงราย ในเวลา 08.00 น. ของทุกวัน , เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่ม จากอิทธิพลพายุโซนร้อน “วิภา” กับกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ , แจ้งเตือนการเฝ้าระวังสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ ด้วยการเตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน (Emergency Bag) , ชี้เป้ากลุ่มเปราะบาง หากเกิดสถานการณ์รุนแรงที่ต้องมีการอพยพ ผ่านอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และเครือข่ายกระทรวง พม.ในพื้นที่ , เตรียมการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว กระทรวง พม. จำนวน 6 แห่ง สามารถรองรับผู้ประสบภัย จำนวน 210 คน , เตรียมการจัดตั้งศูนย์พักพิงจังหวัด หากมีสถานการณ์รุนแรง , เตรียมบุคลากร ยานพาหนะ สนับสนุนการดูแลกลุ่มเปราะบางในศูนย์พักพิงชั่วคราว กระทรวง พม. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หรืออำเภอ และร่วมกับกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและดินถล่ม

สำหรับ ศบปภ. พม.จังหวัดแพร่ ถึงแม้ขณะนี้ ยังไม่มีพื้นที่ประสบภัย แต่ พม. จังหวัดแพร่ ได้จัดข้อมูลกลุ่มเปราะบางในแผนที่เสี่ยงภัย (Risk Map) ให้กับ อปท. เพื่อเป็นข้อมูลในการชี้เป้าพิกัดที่อยู่ของกลุ่มเปราะบาง ในสถานการณ์ที่ต้องอพยพ โดยมีเครือข่ายอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่ ช่วยเหลือ และเตรียมข้อมูลกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ประสบภัยเพื่อประกอบการให้ความช่วยเหลือ , แจ้งเตือนการเฝ้าระวังสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ ด้วยการเตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน (Emergency Bag) , ประชุมสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่ เพื่อมอบหมายหน้าที่ ซักซ้อมการปฏิบัติ กรณีเกิดสถานการณ์รุนแรง , จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว สังกัดกระทรวง พม. จำนวน 2 แห่ง คือ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดแพร่ และศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดแพร่ สามารรองรับผู้ประสบภัยได้ จำนวน 60 คน , เตรียมจัดตั้งศูนย์พักพิงจังหวัด ณ โรงยิม 1,000 ที่นั่ง อบจ.แพร่ หากมีสถานการณ์รุนแรง และเตรียมบุคลากร ยานพาหนะ สนับสนุนการดูแลกลุ่มเปราะบางในศูนย์พักพิงชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม หากพี่น้องประชาชนประสบปัญหาความเดือดร้อนจากผลกระทบของพายุ “วิภา” กระทรวง พม. พร้อมให้ความช่วยเหลือ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังประสบภัย โดยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สายด่วน พม. โทร. 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ชนกัน 10 คันรวด ทางลอดอุโมงค์แยกดาราสมุทร จ.ภูเก็ต

ภูเก็ต 23 ก.ย.-รถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกเสาเข็ม เบรกแตก พุ่งชนระเนระนาดในอุโมงค์ดาราสมุทร จ.ภูเก็ต รถเสียหาย 10 คัน บาดเจ็บ 4 คน เป็นคนไทย 3 คน และชาวมาเลเซีย 1 คน เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 กันยายน 2568 ศูนย์วิทยุพิทักษ์วิชิตได้รับแจ้งเหตุรถชนกันหลายคันภายในอุโมงค์ทางลอดแยกดาราสมุทร ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต มีรถได้รับความเสียหายจำนวนมากและมีผู้บาดเจ็บ พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.วิชิต พร้อมด้วย พ.ต.ท.วุฒิวัฒน์ เลี้ยงบุญจินดา รอง ผกก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบการจราจรติดขัดอย่างหนัก รถไม่สามารถผ่านอุโมงค์ได้ทั้ง 2 เลน เบื้องต้นตรวจสอบพบรถชนกันเสียหายรวม 10 คัน มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย อาการแน่นหน้าอก […]

ผลตรวจยืนยัน “น้องข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง โครงสร้างผิดปกติตั้งแต่เกิด

สุพรรณบุรี 23 ก.ย. – ทีมสัตวแพทย์สรุปผลตรวจ “น้องข้าวต้ม” ลูกช้างป่าเพศเมียแรกเกิดที่พลัดหลงจากแม่ในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พบความผิดปกติทางโครงสร้างร่างกายตั้งแต่เกิด เร่งวางแผนการดูแลรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากทีมสัตวแพทย์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าซึ่งร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ตรวจสุขภาพ “น้องข้าวต้ม” อย่างละเอียด โดยผลมีดังนี้ สัตวแพทย์สรุปว่า “น้องข้าวต้ม” มีภาวะโครงสร้างร่างกายผิดปกติตั้งแต่กำเนิดในลูกสัตว์ นอกจากนี้จากภาวะร่างกายที่อ่อนแอ จำเป็นต้องเอาตัวรอด รวมถึงความพยายามช่วยประคับประคองโดยฝูงทำให้เกิดการบาดเจ็บมากขึ้น เบื้องต้นทีมสัตวแพทย์ได้ฉีดยาลดปวดและลดอักเสบให้แล้ว พร้อมวางแผนรักษาตามอาการระยะยาว โดยเน้นการให้อาหารและเสริมโภชนาการควบคู่กับการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ลูกช้างป่าสามารถยืนและเคลื่อนไหวได้ในอนาคต หากอาการไม่ฟื้นตัวดีเท่าที่คาด จะตรวจ X-ray และ Ultrasound ซ้ำอีกครั้ง ลำดับเหตุการณ์การช่วยเหลือลูกช้างป่าตัวนี้ • 21 ก.ย. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงูได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบลูกช้างเพศเมียนอนอยู่เพียงลำพังในสภาพอ่อนแรงและบาดเจ็บที่ขาหลัง จึงรีบประสานทีมสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เข้าช่วยเหลือและเคลื่อนย้ายมาดูแลที่ทำการอุทยานฯ โดยเบื้องต้นได้ป้อนน้ำข้าวต้มเพื่อให้พลังงาน […]

ทหารเขมรเข้าใกล้รั้วภูผี ฝ่ายไทยเตือน แต่เขมรยิงปืนขึ้นฟ้า

ศรีสะเกษ 23 ก.ย.-แม่ทัพภาค 2 เผยได้รับรายงานเหตุทหารเขมรเข้าใกล้เขตรั้วลวดหนามพื้นที่ภูผีแล้ว ฝ่ายไทยเตือน แต่เขมรยิงปืนขึ้นฟ้า ก่อนถูกตอบโต้จนต้องล่าถอยออกไป ยันติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด จากกรณีมีการเผยแพร่ข่าวเหตุยิงปะทะในพื้นที่ภูผี ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ตนได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยได้ตรวจพบทหารกัมพูชามีลักษณะท่าทางจะเข้ามาในอธิปไตยไทยใกล้กับเขตรั้วลวดหนาม เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยจึงได้แจ้งเตือน ทำให้ทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กประจำกายยิงขึ้นฟ้า เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยจึงยิงตอบโต้ไป กระทั่งทหารกัมพูชา ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจำนวน 2-3 นาย ได้ล่าถอยกลับไป ขณะนี้ยืนยันว่า เหตุการณ์ปกติ และกองทัพภาคที่ 2 มีการตรวจเฝ้าระวังทหารกัมพูชาที่รุกล้ำและลักลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิด ซึ่งเรามีมาตรการในการดูแลตรงนี้อยู่แล้วอย่างใกล้ชิด.-313.-สำนักข่าวไทย

ตร.จราจร นำส่งอวัยวะ ถูกรถพุ่งชน

23 ก.ย. – รถแท็กซี่พุ่งชนตำรวจจราจรขณะขี่จยย.นำส่งอวัยวะ บริเวณแยกสวนมิสกวัน กรุงเทพฯ ตำรวจบาดเจ็บที่ขาขวาและข้อมือ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา เปิดเผยว่าช่วงเที่ยงวานนี้เกิดเหตุผู้ขับรถแท็กซี่ ไม่ชะลอความเร็วเพื่อหยุดรถเมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีแดง ประกอบกับมีขบวนรถของตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริที่เปิดไฟสัญญาณฉุกเฉินขณะปฏิบัติภารกิจนำส่ง “ปอด” จากจังหวัดชลบุรี ไปยังโรงพยาบาลศิริราช ทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนบริเวณแยกสวนมิสกวัน กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บที่ขาขวาและข้อมือ โชคดีรถแท็กซี่ไม่เฉี่ยวชนกับรถพยาบาลที่บรรทุกอวัยวะ จึงสามารถนำส่ง “ปอด” ให้ถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา จึงขอเน้นย้ำไปยังผู้ขับขี่ว่า “เมื่อเห็นสัญญาณไฟและเสียงไซเรน โปรดให้ทาง” ไม่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร เพื่อรักษากฎหมายและช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์.-สำนักข่าวไทย