“โรม” จ่อเรียก “แพทองธาร-ภูมิธรรม-มาริษ” แจงแก้ข้อพิพาทชายแดน

รัฐสภา 22 ก.ค.-“โรม” เตรียมขอมติ กมธ.มั่นคง ใช้อำนาจเรียก “แพทองธาร-ภูมิธรรม-มาริษ” แจง ซัดแก้ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าช้า ปล่อยข้าราชการทำกันเอง เหตุคลิปเสียงพ่นพิษ บอก “อิ๊งค์-ทักษิณ” ถ้าไม่ไหว ต้องรู้จักพอ แนะทางแก้ คืนอำนาจให้เลือกตั้งใหม่

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา ที่มีการวางทุ่นระเบิดฝั่งชายแดนไทยและมีทหารได้รับบาดเจ็บว่า ในวันพฤหัสที่ 24 ก.ค. จะพูดคุยในภาพรวมทั้งหมด และจะขอมติที่ประชุมคณะกรรมการธิการฯเพื่อใช้อำนาจ เรียกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีรวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ซึ่งไม่ได้สนใจ แต่ตนทำหน้าที่ของตน เพราะสิ่งที่ตนทำไปทั้งหมดหลักคิดง่ายนิดเดียวเพร่ะเรื่องคลิปเสียง การสนทนาระหว่างนางสาวแฟทองธาร และ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็ก และพยายามปลดให้จบไม่ต้องไม่ต้องมีการทำอะไรต่อ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แต่ตนรับไม่ได้ ดังนั้นตนเป็นประธานกรรมาธิการความมั่นคงฯ จึงจำเป็นต้องทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะเรื่องนี้เป็น จุดเปลี่ยนที่สำคัญในหลายเรื่องของรัฐบาล ที่ไม่สามารถเดินต่อได้ ในการทลายความขัดแย้งที่เป็นอยู่กับกัมพูชา
นายรังสิมันต์กล่าวว่า การที่เราเห็นปราสาทตาเมือนธม ที่มีคนขึ้นไปแล้วแทบจะเป็นเวทีมวยตลอดเวลา ตนไม่คิดว่าเป็นบรรยากาศที่ดี ขอถามว่าหากความขัดแย้งขยายใหญ่โตจากปัญหาของ 2 ตระกูลที่เกิดขึ้น ใครจะรับผิดชอบ สุดท้ายคนทั้ง 2 ประเทศจะต้องเข่นฆ่ากัน ซึ่งถือเป็นความไม่รับผิดชอบของนางสาวแพทองธาร และนายทักษิณ และทำให้สุดท้ายประเทศไทยเสี่ยงกับการ เจอวิกฤตทางการเมืองที่เราเป็นอยู่ จึงคิดว่าปัญหาตามแนวชายแดนควรจะมีแนวทางที่จะต้องหาทางออกได้แล้ว ไม่ควรปล่อยแบบนี้ต่อไป โดยที่เรื่องต่าง ๆ ที่รัฐบาลหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการเจรจากับชาติอื่น รวมถึงแก๊งคอร์เซ็นเตอร์ก็มีความคืบหน้าค่อนข้างน้อยมาก ในขณะที่ล่าสุดที่มีการวางกับดักระเบิดก็ชัดเจนว่าผิดอนุสัญญาออตตวา จะรอเดือนธันวาคมที่มีที่การประชุม ก็เป็นไปไม่ได้ และท่าทีของกระทรวงการต่างประเทศถือว่าล่าช้าไปมาก เมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่ผันแปรไป ดังนั้นความล่าช้าต่างๆ ก็เติมไฟให้ความรู้สึกของประชาชน และหากสถานการณ์ บานปลายถึงขั้นลบกันก็ไม่มีใครได้ ทุกคนเสียหมด


เมื่อถามว่าล่าสุดกัมพูชาตอบโต้ว่าใครไม่มีหลักฐาน ว่าเป็นทุนระเบิดของกัมพู ชานั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หลักฐานก็คือระเบิด ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องรวบรวม หากเป็นระเบิดที่วางกับดับโดยกัมพูชาจริง ตนถือเป็นเรื่องใหญ่ แม้ตามอนุสัญญาในแง่ของบทลงโทษที่ชัดเจน ไม่ได้ขนาดนั้น แต่ต้องยอมรับว่าใครก็ตามที่ละเมิดอนุสัญญา ก็เสียหาย การยอมรับในเวทีนานาชาติ ก็ต้องเรียกได้ว่าน่าจะได้รับความเสียหายมาก ตนจึงคิดว่าเรื่องนี้ประเทศไทยอยู่เฉยไม่ได้ และต้องทำงาน โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศและฝ่ายความมั่นคงจะต้องทำงานอย่างเป็นเอกภาพ เพราะการทำงานในวันนี้มีปัญหามาก และถามว่าเรื่องนี้รัฐบาลจะแก้ไขหรือไม่ ก็เห็นว่าไม่คิดจะแก้ ซึ่งสถานการณ์พัฒนาไปค่อนข้างเร็วขณะที่กระทรวงวกระทรวงการต่างประเทศจะมีการประณามก็ออกมาช้า แม้กระทั่งส่งหนังสือประท้วงก็ยังไม่ได้ทำ ควรเชิญมาตำหนิก็ยังไม่ได้ทำ ดังนั้นคิดว่ากระบวนการหลายอย่าง ค่อนข้างล่าช้าอยู่มาก จึงคิดว่ารัฐบาลอาจจะมีปัญหา จะไปรอให้หน่วยปฏิบัติ ทำเองทุกอย่าง ก็ไม่ได้ ถ้าอย่างนี้ก็ไม่ต้องมีรัฐบาลก็ได้ แล้วให้การบริหารงานไปโดยข้าราชการ หลังจากมีคลิปเสียง รัฐบาลก็พูดอะไรมากไม่ได้ หากยุ่งมากก็จะมีปัญหาเรื่องความชอบธรรม จึงทำให้รัฐบาลไปยุ่งหรือไปกำกับอย่างที่ควรจะเป็ ปล่อยให้ฝ่ายประจำทำและสุดท้ายก็และช้าไปหมด ขณะนี้เราเหมือนจะอยู่ในสถานการณ์ที่เพลี้ยงพล้ำ นี่ยังไม่นับว่า พี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนได้รับความเดือดร้อน จริงๆ เราเห็นภาพที่บริเวณปราสาทตาเมือนทม เป็นความขัดแย้งชิงไหวชิงพริบกัน แต่พี่น้องตามแนวชายแดน กังวลว่าจะมีสงครามหรือไม่ กังวลว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ในขณะที่ ฝั่งอรัญประเทศก็กังวลเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ดังนั้นหากปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังแบบนี้ เดินต่อลำบากจริงๆ ดังนั้นรัฐบาลต้องกำกับ ให้ทุกหน่วยงานทำงานอย่างเป็นเอกภาพ ฝ่ายความมั่นคงก็ทำงาน การสื่อสารของฝ่ายความมั่นคง รัฐบาลก็ต้องทำงาน ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องไม่ช้า ซึ่งเห็นว่าตอนนี้นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทำงานช้ามาก

เมื่อถามว่าจะมีอะไรฝากถึง นางสาวแพทองธารหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าไปต่อไม่ได้ก็มี วิถีทางการเมืองอยู่ คือวันนี้ท่านต้องรู้จักพอ ท่านต้องพอได้แล้ว และคืนอำนาจให้กับประชาชน เมื่อไหร่ ที่นางสาวแพทองธารและนายทักษิณไม่รู้จักคำว่าพอ และไม่รู้จักเข้าใจว่าสถานการณ์นี้ไปต่อไม่ได้จริงๆ ประเทศจะเดินต่อไม่ได้ จึงอยากให้อย่างน้อยที่สุดมองเห็น ภาพรวมของประเทศชาติ และคิดเสียถือว่าหากสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้ ที่ไปต่อไม่ได้ บางทีการหันไปสู่การเลือกตั้ง อาจจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดก็ได้ตนคิดว่าเมื่อมีการเลือกตั้ง ทุกอย่างจะคลี่คลายกว่านี้.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลทหารชั้นฎีกา พิพากษารอลงอาญา 2 ปี จำเลยคดี “น้องเมย”

22 ก.ค. – 8 ปีที่รอคอย “คดีน้องเมย” นักเรียนเตรียมทหารปี 1 เสียชีวิต ศาลทหารชั้นฎีกา พิพากษาจำคุก 4 เดือน 16 วัน รอลงอาญา 2 ปี จำเลยไม่เคยได้รับโทษ ลงโทษไปไม่เป็นประโยชน์ ให้ปรับปรุงตัวรับราชการรับใช้ชาติต่อไปจะเป็นประโยชน์มากกว่า คดี “น้องเมย” นักเรียนเตรียมทหาร เสียชีวิตปริศนาเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2560 ขณะศึกษาอยู่ในโรงเรียนเตรียมทหาร ใบมรณบัตรระบุเพียงว่าเกิดจาก “ภาวะหัวใจล้มแล้วเฉียบพลัน” ขณะที่คนในครอบครัวตัญกาญจน์ ยืนยันว่าเป็นการเสียชีวิตที่ผิดปกติ จนนำมาสู่การส่งร่างผ่าพิสูจน์รอบ 2 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม หลังผลการผ่าพิสูจน์ในรอบแรกของสถาบันพยาธิวิทยา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า สร้างความคลางแคลงใจให้เป็นอย่างมาก กระทั่งผลการผ่าพิสูจน์รอบ 2 พบว่าสมอง ปอด และอวัยวะสำคัญหลายส่วนหายไป นอกจากนี้ยังพบรอยช้ำตามร่างกายหลายแห่ง ซึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่ทางครอบครัวยังคงเดินหน้าฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องในหลายคดี ด้วยหวังที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับน้องเมย ด้านการดำเนินคดีอาญานั้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในช่วงแรก คือวันที่ 23 […]

“แพทองธาร” เปิดเวทีดินเนอร์พรรคร่วม เชื่อมีโอกาสกลับมารับใช้ ปชช.-สถาบัน

พญาไท 22 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดเวทีดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ขอบคุณตลอด 1 ปี หนุนในฐานะนายกฯ มั่นใจเอกภาพรัฐบาลผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ บอกแม้ไม่ได้อยู่ในฐานะนายกฯ แต่ไม่เคยวางภาระสักวัน ยืนยันเจตนาบริสุทธิ์ เชื่อมีโอกาสกลับมารับใช้ประชาชน – สถาบัน พรรคร่วมรัฐบาลนัดรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน โดยมีพรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าภาพจัดงานภายใต้ชื่อ “สามัคคีประเทศไทย ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน” ซึ่งมีทั้งรัฐมนตรี แกนนำพรรค สส.และข้าราชการการเมืองพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาบรรยายพิเศษด้วย สำหรับบรรยากาศภายในห้องจัดเลี้ยง ได้มีการจัดโต๊ะอาหาร โดยแบ่งเป็นโต๊ะยาว หรือ Long Tableขนาดใหญ่สำหรับรัฐมนตรี นั่งร่วมกับบรรดาหัวหน้าและแกนนำระดับสูงพรรคร่วมรัฐบาล จำนวน 2 โต๊ะ ส่วนที่เหลือเป็นโต๊ะกลมสำหรับ สส.พรรคร่วมรัฐบาล โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั่งร่วมโต๊ะกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ,นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี […]

จ.น่าน เมืองหน้าด่าน พร้อมรับ “พายุวิภา”

น่าน 22 ก.ค. – พายุวิภาเริ่มอ่อนกำลังลง แต่เคลื่อนเข้าใกล้ไทยมากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มทำให้หลายพื้นที่ภาคเหนือมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะ จ.น่าน เป็นเหมือนด่านหน้ารับพายุวิภา ชาวบ้านเตรียมพร้อมรับมือ กลางเมืองน่าน ซึ่งฝนยังคงตกต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงบ่ายจากฤทธิ์ของพายุวิภาที่เคลื่อนตัวมาใกล้เรื่อยๆ หลังขึ้นฝั่งเวียดนามและเคลื่อนตัวเข้าลาว ซึ่ง จ.น่าน อยู่ห่างจากเวียงจันทน์ ไม่ถึง 400 กิโลเมตร และรัศมีของพายุจะทำให้ฝนตกต่อเนื่องไปอีก 1-2 วัน ทำให้ชาวน่านต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ขั้นสูงสุด ตอนนี้ตามบ้านเรือน อาคารร้านค้าในตัวเมืองน่าน เต็มไปด้วยแนวกระสอบทรายถูกวางไว้เพื่อกันน้ำท่วม ซึ่งหลายคนกังวลว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่จากฝนที่ตกต่อเนื่อง ขณะที่ระดับน้ำน่านที่ไหลผ่านตัวเมืองน่าน ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 4 เมตรกว่า ห่างจากจุดวิกฤติที่ 7 เมตร แต่ถ้ารวมพนังกั้นน้ำจะกันน้ำได้สูงสุด 8 เมตร 50 เซนติเมตร นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ลงพื้นที่ตรวจจุดเสี่ยงที่น้ำจะทะลักเข้ามา พร้อมบอกว่าตอนนี้ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ เนื่องจากพายุวิภาทำให้ฝนตกครอบคลุมทั้ง 15 อำเภอ โดยเฉพาะ อ.ท่าวังผา ที่คาดว่าจะเป็นศูนย์กลาง คาดว่าฝนจะตกต่อเนื่อง โดยจุดพีคน่าจะอยู่ช่วงคืนวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ […]

ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเริ่มแล้ว “ทักษิณ” จ่อบรรยายพิเศษ

พญาไท 22 ก.ค.- เริ่มแล้ว ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล “ทักษิณ” ร่วมวง เตรียมบรรยายพิเศษ เผยมาคุยเรื่องการเมือง ขณะแกนนำพรรคร่วมมางานพร้อมเพรียง พรรคร่วมรัฐบาลจัดงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท เพื่อกระชับความสัมพันธ์ หลังปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ภายหลังพรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพบปัญหาเรื่ององค์ประชุม โดยถือว่าเป็นครั้งเเรกที่ได้เชิญสส.ของแต่ละพรรคร่วมฯ เข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยในรัฐบาลของ นางสาวเเพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้จัดไปแล้วหนึ่งครั้ง ในสมัยของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โดยงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน ภายใต้ชื่อ “สามัคคีประเทศไทย ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน” ได้เชิญ บรรดารัฐมนตรี หัวหน้าพรรค แกนนำ และสส. ของพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่ไฮไลท์วันนี้ มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาร่วมบรรยายพิเศษ ด้วย ขณะที่ในเวลาประมาณ 17.00 น. บรรดาแกนนำเพื่อไทย และสส.เดินทางเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง […]