“โรม” จ่อเรียก “แพทองธาร-ภูมิธรรม-มาริษ” แจงแก้ข้อพิพาทชายแดน

รัฐสภา 22 ก.ค.-“โรม” เตรียมขอมติ กมธ.มั่นคง ใช้อำนาจเรียก “แพทองธาร-ภูมิธรรม-มาริษ” แจง ซัดแก้ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าช้า ปล่อยข้าราชการทำกันเอง เหตุคลิปเสียงพ่นพิษ บอก “อิ๊งค์-ทักษิณ” ถ้าไม่ไหว ต้องรู้จักพอ แนะทางแก้ คืนอำนาจให้เลือกตั้งใหม่

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา ที่มีการวางทุ่นระเบิดฝั่งชายแดนไทยและมีทหารได้รับบาดเจ็บว่า ในวันพฤหัสที่ 24 ก.ค. จะพูดคุยในภาพรวมทั้งหมด และจะขอมติที่ประชุมคณะกรรมการธิการฯเพื่อใช้อำนาจ เรียกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีรวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ซึ่งไม่ได้สนใจ แต่ตนทำหน้าที่ของตน เพราะสิ่งที่ตนทำไปทั้งหมดหลักคิดง่ายนิดเดียวเพร่ะเรื่องคลิปเสียง การสนทนาระหว่างนางสาวแฟทองธาร และ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็ก และพยายามปลดให้จบไม่ต้องไม่ต้องมีการทำอะไรต่อ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แต่ตนรับไม่ได้ ดังนั้นตนเป็นประธานกรรมาธิการความมั่นคงฯ จึงจำเป็นต้องทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะเรื่องนี้เป็น จุดเปลี่ยนที่สำคัญในหลายเรื่องของรัฐบาล ที่ไม่สามารถเดินต่อได้ ในการทลายความขัดแย้งที่เป็นอยู่กับกัมพูชา
นายรังสิมันต์กล่าวว่า การที่เราเห็นปราสาทตาเมือนธม ที่มีคนขึ้นไปแล้วแทบจะเป็นเวทีมวยตลอดเวลา ตนไม่คิดว่าเป็นบรรยากาศที่ดี ขอถามว่าหากความขัดแย้งขยายใหญ่โตจากปัญหาของ 2 ตระกูลที่เกิดขึ้น ใครจะรับผิดชอบ สุดท้ายคนทั้ง 2 ประเทศจะต้องเข่นฆ่ากัน ซึ่งถือเป็นความไม่รับผิดชอบของนางสาวแพทองธาร และนายทักษิณ และทำให้สุดท้ายประเทศไทยเสี่ยงกับการ เจอวิกฤตทางการเมืองที่เราเป็นอยู่ จึงคิดว่าปัญหาตามแนวชายแดนควรจะมีแนวทางที่จะต้องหาทางออกได้แล้ว ไม่ควรปล่อยแบบนี้ต่อไป โดยที่เรื่องต่าง ๆ ที่รัฐบาลหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการเจรจากับชาติอื่น รวมถึงแก๊งคอร์เซ็นเตอร์ก็มีความคืบหน้าค่อนข้างน้อยมาก ในขณะที่ล่าสุดที่มีการวางกับดักระเบิดก็ชัดเจนว่าผิดอนุสัญญาออตตวา จะรอเดือนธันวาคมที่มีที่การประชุม ก็เป็นไปไม่ได้ และท่าทีของกระทรวงการต่างประเทศถือว่าล่าช้าไปมาก เมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่ผันแปรไป ดังนั้นความล่าช้าต่างๆ ก็เติมไฟให้ความรู้สึกของประชาชน และหากสถานการณ์ บานปลายถึงขั้นลบกันก็ไม่มีใครได้ ทุกคนเสียหมด


เมื่อถามว่าล่าสุดกัมพูชาตอบโต้ว่าใครไม่มีหลักฐาน ว่าเป็นทุนระเบิดของกัมพู ชานั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หลักฐานก็คือระเบิด ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องรวบรวม หากเป็นระเบิดที่วางกับดับโดยกัมพูชาจริง ตนถือเป็นเรื่องใหญ่ แม้ตามอนุสัญญาในแง่ของบทลงโทษที่ชัดเจน ไม่ได้ขนาดนั้น แต่ต้องยอมรับว่าใครก็ตามที่ละเมิดอนุสัญญา ก็เสียหาย การยอมรับในเวทีนานาชาติ ก็ต้องเรียกได้ว่าน่าจะได้รับความเสียหายมาก ตนจึงคิดว่าเรื่องนี้ประเทศไทยอยู่เฉยไม่ได้ และต้องทำงาน โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศและฝ่ายความมั่นคงจะต้องทำงานอย่างเป็นเอกภาพ เพราะการทำงานในวันนี้มีปัญหามาก และถามว่าเรื่องนี้รัฐบาลจะแก้ไขหรือไม่ ก็เห็นว่าไม่คิดจะแก้ ซึ่งสถานการณ์พัฒนาไปค่อนข้างเร็วขณะที่กระทรวงวกระทรวงการต่างประเทศจะมีการประณามก็ออกมาช้า แม้กระทั่งส่งหนังสือประท้วงก็ยังไม่ได้ทำ ควรเชิญมาตำหนิก็ยังไม่ได้ทำ ดังนั้นคิดว่ากระบวนการหลายอย่าง ค่อนข้างล่าช้าอยู่มาก จึงคิดว่ารัฐบาลอาจจะมีปัญหา จะไปรอให้หน่วยปฏิบัติ ทำเองทุกอย่าง ก็ไม่ได้ ถ้าอย่างนี้ก็ไม่ต้องมีรัฐบาลก็ได้ แล้วให้การบริหารงานไปโดยข้าราชการ หลังจากมีคลิปเสียง รัฐบาลก็พูดอะไรมากไม่ได้ หากยุ่งมากก็จะมีปัญหาเรื่องความชอบธรรม จึงทำให้รัฐบาลไปยุ่งหรือไปกำกับอย่างที่ควรจะเป็ ปล่อยให้ฝ่ายประจำทำและสุดท้ายก็และช้าไปหมด ขณะนี้เราเหมือนจะอยู่ในสถานการณ์ที่เพลี้ยงพล้ำ นี่ยังไม่นับว่า พี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนได้รับความเดือดร้อน จริงๆ เราเห็นภาพที่บริเวณปราสาทตาเมือนทม เป็นความขัดแย้งชิงไหวชิงพริบกัน แต่พี่น้องตามแนวชายแดน กังวลว่าจะมีสงครามหรือไม่ กังวลว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ในขณะที่ ฝั่งอรัญประเทศก็กังวลเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ดังนั้นหากปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังแบบนี้ เดินต่อลำบากจริงๆ ดังนั้นรัฐบาลต้องกำกับ ให้ทุกหน่วยงานทำงานอย่างเป็นเอกภาพ ฝ่ายความมั่นคงก็ทำงาน การสื่อสารของฝ่ายความมั่นคง รัฐบาลก็ต้องทำงาน ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องไม่ช้า ซึ่งเห็นว่าตอนนี้นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทำงานช้ามาก

เมื่อถามว่าจะมีอะไรฝากถึง นางสาวแพทองธารหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าไปต่อไม่ได้ก็มี วิถีทางการเมืองอยู่ คือวันนี้ท่านต้องรู้จักพอ ท่านต้องพอได้แล้ว และคืนอำนาจให้กับประชาชน เมื่อไหร่ ที่นางสาวแพทองธารและนายทักษิณไม่รู้จักคำว่าพอ และไม่รู้จักเข้าใจว่าสถานการณ์นี้ไปต่อไม่ได้จริงๆ ประเทศจะเดินต่อไม่ได้ จึงอยากให้อย่างน้อยที่สุดมองเห็น ภาพรวมของประเทศชาติ และคิดเสียถือว่าหากสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้ ที่ไปต่อไม่ได้ บางทีการหันไปสู่การเลือกตั้ง อาจจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดก็ได้ตนคิดว่าเมื่อมีการเลือกตั้ง ทุกอย่างจะคลี่คลายกว่านี้.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพบกประณามกัมพูชา โจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตไทย

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวด BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไปโดยเร็วที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย

น่าน จมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว

น่าน 24 ก.ค.-น้ำท่วมตัวเมืองน่านวิกฤติหนัก หลังน้ำยังเพิ่มสูงบางจุดท่วมมิดชั้น 2 แล้ว และขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กม. รวมทั้ง รพ.น่าน ที่ต้องย้ายผู้ป่วยไปที่สนามบิน น้ำท่วมตัวเมืองน่านเรียกว่าสาหัสสากรรจ์จริงๆ ตอนนี้เมืองน่านจมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว จากที่ประเมินเท่ากับน้ำท่วมใหญ่ปี 49 ซึ่งเป็นน้ำท่วมใหญ่รอบร้อยปี แต่ตอนนี้น่าจะหนักเกินแล้ว น้ำท่วมถึงชุมชนสวนตาล ซึ่งอยู่ห่างจากริมน้ำน่าน 4 กิโลเมตร แม้จะเห็นว่าระดับไม่สูง แต่ด้านในสูงถึงคอแล้ว การเข้าออกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว และน้ำยังเพิ่มขึ้น ชาวบ้านยังเร่งอพยพข้าวของออกมา เขตเศรษฐกิจเมืองน่านไม่ต้องพูดถึงจมน้ำสูงกว่า 1 เมตร วัดวาอารามหลายแห่งถูกน้ำท่วม และยิ่งชุมชนใกล้น้ำน่านบ้านเรือนหลายพันหลังถูกน้ำท่วมสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 ของบ้าน อย่างเจ้าของบ้านรายนี้ถ่ายภาพจากชั้น 2 ของบ้านย่านชุมชนบ้านพระเกิด ไม่ไกลจากโรงพยาบาลน่าน ส่งมาให้ทีมข่าว จะเห็นว่าน้ำท่วมสูงเกินรั้วบ้านและกำลังจะขึ้นชั้นสอง และมีชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านกลางน้ำท่วมสูงอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปช่วยแต่เรือมีจำกัดและน้ำยังไหลเชี่ยว ทำให้บางจุดยังไม่สามารถเข้าไปได้ ชาวบ้านบางส่วนต้องเดินฝ่าน้ำท่วมสูงถึงคอออกมาด้านนอก เพื่อหาอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งโรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อคืน เจ้าหน้าที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบอกว่า ตอนนี้น้ำท่วมสูงมาก ตึกอาคารเก่าน้ำท่วมถึงหน้าอก แต่ผู้ป่วยในราว 3 ร้อยคนอยู่บนตึกใหม่ตั้งแต่ชั้น 2 ปลอดภัยดี […]

เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคาม

กทม. 24 ก.ค.-เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคามฝ่ายตรงข้าม โฆษก ทบ. ชี้ชัดเจนแล้ว กัมพูชา เป็นฝ่ายที่บีบบังคับเรา ซัดเราคงไม่ปล่อยให้ใครเอาเปรียบ หรือลอบทำร้าย จากนี้จำเป็นต้องทำในสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ลั่นขณะนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้! ขอให้พี่น้องคนไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพไทย พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ที่เราเปิดปฏิบัติการ ว่าคือ แผนป้องกันประเทศ ที่กำหนดหน้าที่ของแต่ละหน่วย และกำลังทางทหาร และให้เตรียมความพร้อม เมื่อมีคำสั่ง เป็นแผนที่ได้ถูกกลั่นกรอง โดยประเมินจากสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมในกิจการป้องกันประเทศ ในกรอบของกองทัพบก ที่ผ่านมา ในศึกเขาพระวิหาร ที่ใช้แผนนี้ ปัจจุบันขีดความสามารถกำลังรบเราเป็นอย่างไร โฆษก ทบ. ระบุพัฒนามาตามลำดับ และพิจารณาให้เหมาะสมกับภัยคุกคาม และขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ป้องกันภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม ส่วนแผนหลักๆ เป็นการป้องกัน หรือรุกคืบ โฆษก ทบ. ระบุ อาจจะพูดไม่ได้ แต่โดยปกติ อันดับแรกต้องครอบคลุมอธิปไตยของเราก่อน ส่วนเป็นการซีลชายแดนหรือไม่ โฆษก ทบ. ระบุพูดง่ายๆ แผนนี้ […]

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย