รัฐสภา 22 ก.ค.-“สว.ยุคล” หารือปม ทหารไทยเหยียบกับระเบิด ถามหาความรับผิดชอบจากรัฐบาล กลัวอะไร หากห่วงประเทศจริง ทำไมไม่ยกเลิก MOU 43, 44 ขณะ “สว.กรพด” เตือนประชาชนข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติเพิ่มความระมัดระวัง
การประชุมวุฒิสภา ที่มีพลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ในช่วงการหารือของสมาชิก วุฒิสภา นายยุคล ชนะวัดปัญญา สมาชิกวุฒิสภา ถึงเขตแดนไทยกัมพูชาที่มีผลกระทบต่อคนไทยทั้งชาติ โดยเปิดภาพแผนที่แผ่นดินไทยที่กัมพูชาอ้างว่าเป็น พื้นที่ทับซ้อนกัน เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมามีทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องตัดขาซ้าย 1 นายและอีก 2 นายได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิด บริเวณเนิน 481 ใกล้ช่องบก อำเภอน้ำยืนจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนติดกับกัมพูชา
นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์พื้นที่ภูมะเขืออำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ใกล้กับปราสาทเขาพระวิหาร กัมพูชาได้สร้างกระเช้าลอยฟ้าอย่างถาวร เชื่อมเชิงเขาไปยังยอดเขา และยังสร้างป้อมทหารแบบถาวรด้วย นี่คือความเปลี่ยนแปลง ของสภาพพื้นที่ที่ละเมิด MOU 2543 เช่นเดียวกับที่บริเวณเกาะกูด
ดังนั้นจึงขอถามไปยังรักษาการนายกรัฐมนตรีนายภูมิธรรมเวชยชัยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เหตุการณ์เหล่านี้คือการละเมิดข้อตกลง ซึ่งห้ามมีการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ในขณะรอการปักปันเขตแดนใช่หรือไม่
พร้อมขอเรียกร้องตั้งคำถามกับรัฐบาล 1.กรณีเหตุการณ์ทหารเหยียบกับระเบิด รัฐบาลจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไรและประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณพื้นที่ชายแดนรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไรมีแผนการจัดการทุ่นระเบิดที่มาตั้งใหม่ๆอยู่ในขณะนี้ มีการวางใหม่ในขณะนี้และละเมิดสนธิสัญญาสากลเพื่อปกป้องอธิปไตยของไทยและความปลอดภัยของประชาชนอย่างไร
2.ทำไมรัฐบาลไม่รีบยื่นทำหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการไปยังรัฐบาลกัมพูชากรณีเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ภูมะเขือและพื้นที่เกาะกูด 3.ให้รัฐบาลที่อ้างว่าห่วงแผ่นดินไทยห่วงความมั่นคงป้องกันชาติ ศาสน์กษัตริย์ให้ออกมาตอบโต้กัมพูชาอย่างรุนแรงมากกว่านี้ ขอประณามพฤติกรรมยั่วยุการกระทำละเมิดอธิปไตยไทยในขณะนี้ทำได้หรือไม่ 4. ทำไมรัฐบาลไม่ยกเลิก MOU 2543 ,MOU 2544 เพราะอะไรกลัวอะไร
“ทำไมไม่ยกเลิกฝ่ายกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทยอยู่ตลอดเวลาต้องยกเลิก มันไม่ให้เกียรติประเทศไทย มองคนไทยไร้ค่าไม่มีความหมายในสายตากัมพูชาเลย รัฐบาลไทยต้องจริงใจเห็นแก่ประโยชน์ของชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตนต้องยกเลิก MOU 44, 43 และมาตราส่วน 1:2 แสนด้วย ตนขอยืนยันว่าไทยไม่เป็นเมืองขึ้นของใครและไทยไม่เป็น พื้นที่ทับซ้อนกับใครระวังถ้าใครทำให้พื้นที่ทับซ้อนเกิดข้อพิพาทระวังประเทศจะลุกเป็นไฟ”นายยุคล กล่าว

นอกจากนี้ยังมี ว่าที่ พ.ต.กรพด รุ่งหิรัญ สมาชิกวุฒิสภา ที่มีการขอหารือถึงประเด็น ลักษณะเดียวกัน โดยได้ขอประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนที่อยู่บริเวณชายแดน ว่าให้ระมัดระวัง เกี่ยวกับกับระเบิด โดยเฉพาะผู้ที่ชอบใช้เส้นทางธรรมชาติข้ามไปเล่นการพนันที่ประเทศกัมพูชา เนื่องจากเหตุการณ์ที่มีทหารเหยียบกับระเบิดและได้รับบาดเจ็บ
ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ได้มีการส่งกำลังหน่วยทหารช่าง EOD ลงพื้นที่เก็บกู้ระเบิดเจอทุ่นระเบิด PMN 2 จำนวน 7-8 ลูกเชื่อว่าเป็นระเบิดใหม่ไม่ใช่ระเบิดสงคราม และจากหลักฐาน จากการขุดใหม่ พบว่าเป็นทุ่นใหม่และอาจจะมีทุ่นระเบิดประมาณ 100 ลูกอยู่บริเวณนั้น จากนั้นกองทัพบกได้ส่งทหารช่างเข้าปรับพื้นที่ป้องกันและเก็บหลักฐานเพื่อยื่นประท้วงต่อกัมพูชาผ่าน UN โดยใช้ข้อมูลว่าทุ่นระเบิดใหม่ผิดพันธะกรณีอนุสัญญาออตตาวา
โดยหลังจากส่งหนังสือประท้วงไปกัมพูชาได้ปฏิเสธ ว่าทหารไทยนั้นได้เดินเข้าไปในพื้นที่ ระเบิดเก่า เมื่อวันจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชาโดยเฉพาะชาวบ้านที่ใช้วิถีชีวิตข้ามไปข้ามมาในช่องทางธรรมชาติรวมถึงผู้ที่ชอบลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมายและเข้าไปเล่นการพนันในพื้นที่กัมพูชาอาจจะต้องคิดหนัก เพราะอาจจะมีการสร้างสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณนั้นเพิ่มความระมัดระวังและเจ้าหน้าที่ทหารเพิ่มความเข้มข้นในการตักเตือนผู้ข้ามแดนช่องทางธรรมชาติ.-319.-สำนักข่าวไทย