ปภ. เตรียมพร้อมรับพายุ “วิภา” ติดตามใกล้ชิด

กทม. 21 ก.ค.- ปภ. เตรียมรับผลกระทบพายุ “วิภา” กำชับจังหวัดดำเนินการตามข้อสั่งการ มท.1 – ทีม ปภ.ส่วนหน้าลงพื้นที่เชียงใหม่เย็นนี้ ติดตามสถานการณ์ ประสานการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานจากการติดตามข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า อิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา” จะส่งผลให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทยในช่วงวันที่ 21 – 24 ก.ค. 68 ปภ. ได้เน้นย้ำทุกภาคส่วนให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถออกปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่ทีม ปภ.ส่วนหน้า เตรียมลงพื้นที่ภาคเหนือร่วมติดตามสถานการณ์กับจังหวัดอย่างใกล้ชิดเย็นวันนี้

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามการเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อน “วิภา” อย่างใกล้ชิด พบว่าพายุโซนร้อนกำลังแรง “วิภา” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณชายฝั่งเมืองเจียงเหมิน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน กำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนตัวตามแนวชายฝั่งประเทศจีน เข้าสู่อ่าวตังเกี๋ยและจะเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 22 ก.ค. 68 โดยคาดว่าหลังจากวันที่ 22 ก.ค. 68 พายุโซนร้อน “วิภา” จะเริ่มอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ ซึ่งอิทธิพลของพายุลูกนี้จะส่งผลให้ประเทศไทยเกิดฝนตกหนักสลับกับเบาในช่วงวันที่ 21 – 24 ก.ค. 68 โดยช่วงวันที่ 21 ก.ค. 68 กลุ่มฝนจะเริ่มเคลื่อนเข้าสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเกิดฝนตกต่อเนื่อง และช่วงวันที่ 22 – 24 ก.ค. 68 ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มได้


“เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้กำชับให้ทุกภาคส่วนดำเนินการตามข้อสั่งการของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอย่างเคร่งครัดและครอบคลุมในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นของการแจ้งเตือนภัยอย่างทันท่วงทีและการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมออกปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์เพื่อแจ้งเตือนภัยให้แก่ประชาชนผ่านช่องทางต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเมื่อวานนี้ (20 ก.ค. 68) ปภ.ได้ส่งข้อความแจ้งเตือนภัยผ่านสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Cell Broadcast) ไปยังประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 22 จังหวัดที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “วิภา” และในช่วงเช้าวันนี้ (21 ก.ค. 68) ได้ส่งข้อความแจ้งเตือนภัยด้วย Cell Broadcast ไปยังประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย จ.น่าน จ.กาญจนบุรี จ.แพร่ จ.ตาก จ.แม่ฮ่องสอน จ.พะเยา จ.เชียงราย จ.อุดรธานี จ.หนองบัวลำภู และ จ.ชัยภูมิ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์ดินโคลนถล่มอันเนื่องมาจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องและฝนสะสมในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยกระจายกำลังเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงล่วงหน้าเพื่อที่จะได้เริ่มปฏิบัติการลดผลกระทบและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างทันท่วงที รวมถึงสั่งการให้ศูนย์ ปภ. เขต 2 สุพรรณบุรี และศูนย์ ปภ. เขต 16 ชัยนาท สนับสนุนเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยมาประจำ ณ ศูนย์ ปภ. เขต 9 พิษณุโลก ซึ่งเป็นจุดกระดมทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัย (Staging Area) ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อให้การปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายภาสกร กล่าว

นายภาสกร บุญญลักษม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้เน้นย้ำให้จังหวัดติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ให้ข้อมูลและแจ้งเตือนภัยทั้งในส่วนของสถานการณ์ภัยที่เกิดขึ้น พื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีข้อมูลที่เพียงพอและปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องในช่วงเวลาที่เกิดสถานการณ์ภัยขึ้น อีกทั้งให้จังหวัดเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติการความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย โดยหากเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอในการปฏิบัติงานหรือต้องการเครื่องจักรกลสาธารณภัยเพิ่มเติม ให้จังหวัดประสานมาที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทันที เพื่อจะได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ เสริมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

“เพื่อให้การเตรียมพร้อมรับมือและการให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว การประสานการปฏิบัติงานในทุกระดับเป็นไปอย่างราบรื่น ผมและทีม ปภ.ส่วนหน้า จะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเย็นวันนี้ (21 ก.ค. 68) เพื่อติดตามการปฏิบัติงานและประสานการปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคเหนืออย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัย และได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและทั่วถึงที่สุด ในส่วนของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมรับมืออย่างถูกต้องและปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยตามคำแนะนำของหน่วยงานราชการ กรณีสถานการณ์รุนแรงจำเป็นต้องอพยพออกจากพื้นที่ ขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ X @DDPMNews” นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าวปิดท้าย -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

ทหารกล้าเล่านาทีระทึก รอดตายจากระเบิดชายแดน

11 ส.ค.- ทหารกล้า เล่าเหตุการณ์ ลูกระเบิดจากฝั่งกัมพูชา ร่วงใส่จุดที่กำลังพลอยู่พอดี จนได้รับบาดเจ็บ ทีมข่าวลงพื้นที่อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี บ้านของ สิบโทปรีชา เสือบัว อายุ 24 ปี หัวหน้าชุดหมู่ปืนเล็กหมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4 ค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ เล่านาทีรอดชีวิตจากเหตุระเบิดที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขณะประจำการอยู่ในบังเกอร์ ได้ยินเสียงปืนครกจากฝั่งกัมพูชา จึงรีบถอยตัวออกครึ่งหนึ่งเพื่อให้ลูกน้องหลบเข้าไปด้านในบังเกอร์  แต่จังหวะนั้นกระสุนระเบิดตกใส่ทันทีจนร่างกระเด็นและหมดสติ เหตุระเบิดทำให้สิบโทปรีชา ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาซ้าย ขณะปฏิบัติหน้าที่พร้อมเพื่อนทหารอีก 3 นาย สิบโทปรีชา ยังบอกอีกว่า “หากต้องบาดเจ็บอวัยวะส่วนไหน ก็ยอม แต่จะไม่ยอมเสียชาติ” พร้อมเผยว่าได้ติดต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อขอกลับไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ แม้ได้รับคำสั่งให้พักรักษาตัวก่อน แต่หากมีความจำเป็น เขาพร้อมกลับไปสู้เพื่อประเทศชาติทันที ทั้งนี้ ตัว สิบโทปรีชา และครอบครัวเชื่อว่า เป็นบารมี หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อยูร และหนังเสือ วัดพนมเศษเหนือ จังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงหลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่ […]

กต.เดินหน้าร้องเรียนกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหาร

11 ส.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ รายงานผลการร้องเรียนกัมพูชาต่อองค์กรระหว่างประเทศ กรณีวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศ ออกรายงาน “การดำเนินการของไทยต่อกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรือ อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) สาระสำคัญ คือ ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 23 กรกฎาคม และ 9 สิงหาคม 2568 ทหารไทยรวม 11 นาย บาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางใหม่โดยกองกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตามลำดับ นั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญา ออตตาวา เพื่อตอบโต้กัมพูชาโดย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 จำนวน 3 ฉบับ เปิดเผยพฤติกรรมการวางทุ่นระเบิด PMN-2 […]

อุตุฯ เตือนไทยมีฝนเพิ่ม-ตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 11 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผย “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” ฝนตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จับตาพายุไต้ฝุ่น “โพดุล” คาดเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน ก่อนขึ้นฝั่งจีนช่วง 13-14 ส.ค.นี้ ยันไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน […]

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย