“วิสุทธิ์” ยัน “ทักษิณ” ร่วมวงกินข้าว สส. ไม่ถือว่าครอบงำ

รัฐสภา 21 ก.ค.- “วิสุทธิ์” ยัน “ทักษิณ” ร่วมวงกินข้าว สส.รัฐบาล ไม่ถือว่าครอบงำ เพราะไม่ได้สั่งการ แค่แชร์ประสบการณ์ และคุยเพื่อความแน่นแฟ้น ยอมรับหนักใจ สส.ปริ่มน้ำ ทำงานยาก วอนประธานแฉสส.หนีประชุม


นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาลและประธานพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณไปร่วมวงรับประทานอาหารกับ สส.พรรคร่วมรัฐบาล อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่เป็นรัฐบาลมา 2 ปี สส.พรรคร่วมรัฐบาล เคยรับประทานอาหารร่วมกันเพียงแค่ครั้งเดียว เพราะแต่ละคนไม่ได้มีเวลาพบปะกัน แต่ครั้งนี้มีการปรับบางพรรคการเมืองออก ที่เหลือจึงไปปรึกษาหารือและทำความเข้าใจกับแต่ละพรรคการเมืองเพื่อให้เกิดความแน่นแฟ้น สามัคคี โดยเฉพาะความสามัคคีในการประชุมสภาถือเป็นเรื่องสำคัญ

ส่วนจะถูกมองว่าไปครอบงำพรรคการเมืองและรัฐบาลหรือไม่ นายวิสุทธิ์ ย้อนถามว่าถ้าไปกินข้าว พูดคุยกัน ไม่ถือเป็นการครอบงำ การตีความคำว่าครอบงำคือการสั่งการ ให้พรรคนั้นทำอย่างนี้ สั่งให้สส.พรรคเพื่อไทยทำอย่างนั้น หรือให้คนในรัฐบาลทำอย่างนั้น แต่ถ้าไปให้ประสบการณ์การทำงาน ซึ่งต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่า ตอนที่นายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ประชาชนมีความสุขมาก ปราบยาเสพติดกันหมด หากนำประสบการณ์มาแนะนำหรือบอกกล่าวก็ถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นประโยชน์ ขออย่าไปจ้องว่าเป็นการครอบงำ วันนี้คนไทยติด ในเรื่องการจับผิด ไม่รู้ว่าใครจะมาบอกดีบอกร้ายก็จับฟ้องเอาไว้ก่อน ซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติร้องรายวันไป แล้วจะทำให้องค์กรอิสระเหนื่อย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะตรวจสอบอะไรกันนักหนา ตอนนี้มีนักร้องเยอะไปหมด ไม่รู้ว่าวงไหนบ้าง มีหลายวง


ดังนั้นจึงไม่กลัวว่าครั้งนี้จะเป็นการครอบงำ เพราะการครอบงำคือเป็นการไปสั่งการว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่การพูดถึงประสบการณ์การทำงาน ตนคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อการที่เป็นนักการเมืองและฝ่ายบริหารได้ฟังก็เอาไปคิด อะไรที่เป็นประโยชน์ก็เอาไปทำ สส. ที่เข้ามารุ่นหลังๆ ก็ไม่ได้มีโอกาสได้พบกับนายทักษิณ ก็จะได้ไปฟังและได้ประโยชน์กันทั้งนั้น ซึ่งประชาชนที่ได้ฟังการพูดของนายทักษิณที่ผ่านมา ถ้าฟังด้วยใจเป็นธรรมก็จะเห็นว่าเป็นสาระและเป็นประโยชน์ จะได้เห็นว่าเศรษฐกิจจะเดินเป็นอย่างไร บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเรื่องดีๆ ทั้งนั้นไม่ถือเป็นการครอบงำอะไร

สำหรับปัญหาองค์ประชุม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องมีการปิดประชุมก่อนหลายครั้งนั้น นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ทันได้นับองค์ประชุม แต่ประธานปิดประชุมไปก่อน แต่สัปดาห์ต่อไปเราจะพยายามอย่างเต็มที่ ซึ่งถือเป็นธรรมดาที่ในวันพฤหัสบดี เป็นเรื่องรับทราบเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งดูแล้วไม่ใช่กฎหมายสำคัญ รัฐมนตรีหลายคนออกไปปฏิบัติภารกิจทางวิปก็ทราบดี ในความเป็นจริงก็อยากให้อยู่ที่สภา แต่รัฐมนตรีบางคนก็มาบอกว่าติดภารกิจจริงๆ เมื่อออกไปก็เป็นโอกาสให้ฝ่ายค้านเสนอนับองค์ประชุม ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้และถือเป็นเรื่องปกติ ก็ไม่เป็นไร แต่ยอมรับว่าในฐานะวิปยอมรับเป็นความหนักใจ อยากให้มี สส. รัฐบาลเยอะๆ จะได้ทำงานง่าย หายไป 20-30 คนก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อห่างเพียง 10 กว่าคน อาจจะมีคนป่วยบ้าง โดยเฉพาะช่วงนี้หวัดระบาด อาจเป็นปัญหา แต่ต่อไปก็จะพยายามทำต่อไป และพยายามจะให้ครบองค์ประชุมซึ่งได้ปรึกษาผู้ใหญ่ในพรรคหลายคนก็ได้รับคำแนะนำว่า ถ้าสภาล่ม ก็เปิดเผยเลยว่าใครขาดประชุมบ้าง ใครหนีประชุมบ้าง ก็เปิดเผยให้สื่อรู้จะได้ทราบว่า สส.ที่เลือกมาใครหนีประชุมบ้าง ต้องให้ประชาชนทั้งประเทศได้ตรวจสอบ ขอให้ประธานเปิดชื่อให้หมด ประชาชนที่เลือกมาจะได้เสียใจว่าเลือกสส.มาแล้วไม่ทำงาน ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่แค่ สัปดาห์ละ 2 วัน เดือนละ 8 วัน จะได้ไม่ต้องเลือกเข้ามา ถ้าลำบากก็ขอให้ อยู่ที่บ้านเถอะ

เมื่อถามย้ำว่าแก้เกมอย่างไรนั้น นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ไม่ต้องแก้เกม เพียงแต่ขอให้ชัดเจนว่าใครไม่อยู่ในห้องประชุมก็ให้เปิดเผยรายชื่อ ตนก็เชื่อว่าทั้งสื่อและประชาชนทั่วประเทศ อยากรู้ว่า สส.ที่เลือกไปอยู่ในห้องประชุมหรือไม่ ไม่ว่าพรรคไหนฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ขอให้เปิดเผยให้หมด หากอยู่ก็ต้องแสดงตน


ส่วนสัปดาห์นี้จะมีเหตุการณ์องค์ประชุมร่มเกิดขึ้นอีกหรือไม่นั้น นายวิสุทธิ์กล่าวว่าจะมีหรือไม่ก็ตาม ไม่ได้กังวล เชื่อว่าเราพร้อม ในสัปดาห์นี้

นายวิสุทธิ์ยังกล่าวถึงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สองที่ยังว่างอยู่โดยยืนยันเป็นโควตาของพรรคเพื่อไทยไม่ได้ยกให้ใคร และในพรรคดูกันแล้วว่า สส. ภาคอีสาน มีมากที่สุดก็จะเป็นของภาคอีสาน ซึ่งจะเลือกในสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใครเพราะยังไม่ทราบ ก็ต้องรอมติจากที่ประชุมพรรคในเย็นวันพรุ่งนี้ (22ก.ค.) ก่อน เพราะไม่มีใครชี้ได้ว่าให้คนนั้นคนนี้เป็น ดังนั้นขอยืนยันว่าใครก็ครอบงำไม่ได้ต้องเป็นมติของที่ประชุมสส.พรรค ส่วนพรรคอื่น ก็ต้องโอเค เพราะเท่าที่คุยกันมาไม่มีใครขัดข้อง

เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องประเด็นที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง โยกงบประมาณของสภานั่น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่อง แต่ยังไม่ทราบว่าจะวินิจฉัยอย่างไร เราก็ได้แต่ให้กำลังใจ ในฐานะที่เป็นสส.พรรคเดียวกัน ซึ่งไม่ทราบว่านายพิเชษฐ์ ดำเนินการอย่างไร ต้องขึ้นอยู่กับคำสั่งศาลในที่สุด.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย