“สมศักดิ์” ยกทัพใหญ่เพื่อไทย ช่วย “ภูริกา” ศึกเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 20 ก.ค. – “สมศักดิ์” ยกทัพใหญ่เพื่อไทย ปราศรัย 4 เวทีรวด ช่วย “ภูริกา” ศึกเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ ซัดอดีตพรรคร่วมฯ ทำนโยบายไม่คืบ-ไม่แก้ปัญหายาเสพติด-ปล่อยกัญชาเสรี ย้ำเลือกเราเป็นรัฐบาล เลือกเขาเป็นฝ่ายค้าน


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ สส.บัญชีรายชื่อ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ นายธเนศ เครือรัตน์ สส.ศรีสะเกษ เขต 1 นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ สส.ศรีสะเกษ เขต 2 นายภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ เขต 4 นายวีระพล จิตสัมฤทธิ์ สส.ศรีสะเกษ เขต 6 น.ส.วิลดา อินฉัตร สส.ศรีสะเกษ เขต 7 น.ส.ประภาพร ทองปากน้ำ สส.สุโขทัย นายจเด็ศ จันทรา สส.พิษณุโลก นายเชิงชาย ชาลีรินทร์ สส.ชัยภูมิ นายพรเทพ พูนศรีธนากูล สส.สุรินทร์ นายกิตติกร โล่ห์สุนทร กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และ น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง ขึ้นเวทีปราศรัยช่วย น.ส.ภูริกา สมหมาย ผู้สมัคร สส.ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 5 พรรคเพื่อไทย เบอร์ 1 หาเสียง โดยมีพี่น้องประชาชนกว่า 7,000 คน ร่วมฟังการปราศรัยอย่างคึกคัก

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้พบปะกับ น.ส.ภูริกา ผู้สมัคร สส.ศรีสะเกษ เขต 5 พรรคเพื่อไทย แล้ว 2 ครั้ง จึงขอบอกว่า คนนี้เหมาะสมที่จะเป็น สส. เพราะจะได้นำเสนอความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ซึ่งถ้าเราเป็นรัฐบาล ก็จะสามารถนำเอาปัญหาของประชาชนไปเสนอต่อรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาได้ โดยที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย มองเห็นว่า การเป็นรัฐบาลผสมกับบางพรรค ทำให้ไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายบางอย่างได้ เช่น ปัญหายาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมา พรรคร่วมรัฐบาลเป็นผู้ดูแลกระทรวงมหาดไทย แต่ไม่มีการขับเคลื่อนแก้ปัญหายาเสพติดเลย พอพรรคร่วมออก และพรรคเพื่อไทยเข้ามาดูแล ก็ประกาศเป็นศัตรูกับยาเสพติดทันที ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เรียกทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปร่วมกันขับเคลื่อน โดยจะเห็นได้ว่า พรรคเพื่อไทยมาดูแลกระทรวงมหาดไทยเพียง 17 วัน แต่สามารถดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรมได้


“ขอให้ชาวศรีสะเกษ สนับสนุน น.ส.ภูริกา ให้เป็น สส. เพื่อช่วยเป็นปากเสียงให้กับคนในพื้นที่ ซึ่งเมื่อเลือก น.ส.ภูริกา ก็จะสามารถทำงานได้ทันที เพราะเป็นรัฐบาล แต่ถ้าเลือกอีกคนก็จะได้ฝ่ายค้าน โดยการเลือกฝ่ายรัฐบาล จะสามารถขับเคลื่อนงานได้อย่างต่อเนื่องทันที อย่างผมก็เดินหน้าสร้างความมั่นคงให้กับ อสม.อย่างเต็มที่ ด้วยการผลักดัน พ.ร.บ.อสม. ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว คาดว่า การประชุมสภาฯ สัปดาห์หน้า จะได้รับการพิจารณา โดยในร่างกฎหมายก็จะช่วยยกระดับ อสม.จำนวนมาก รวมถึงมีเงินนอกงบประมาณ ที่หาก อสม.ช่วยรณรงค์ลดการเจ็บป่วย จนประหยัดงบประมาณได้ ก็จะแบ่งบางส่วนมาใส่ตรงนี้ให้ อสม.ด้วย” นายสมศักดิ์ กล่าว

จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมด้วย น.ส.ภูริกา ผู้สมัคร สส.ศรีสะเกษ เขต 5 พรรคเพื่อไทย เบอร์ 1 ได้ลงพื้นที่ปราศรัยต่อที่วัดระเบาะ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีพี่น้องประชาชนมาร่วมรับฟังกว่า 1,000 คน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย มีนโยบายครองใจประชาชนมาโดยตลอด เพราะมี สส. เข้ารับฟังปัญหากับพี่น้องประชาชน เพื่อให้รัฐมนตรีช่วยขับเคลื่อนแก้ปัญหาให้ แต่ที่ผ่านมา การเป็นรัฐบาลผสมกับบางพรรค ต้องยอมรับว่า ทำให้นโยบายไม่เดินหน้า ซึ่งดูได้จากงานที่อดีต รมต.ของพรรคที่กลายเป็นฝ่ายค้าน เคยเห็นผลงานออกมาหรือไม่ โดยตนได้รับเสียงสะท้อนตลอดว่า ยาเสพติดเต็มเลย จึงไม่มีประโยชน์ที่จะเลือกฝ่ายค้านในการเลือกตั้งครั้งนี้ ขณะที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเข้ามาดูเรื่องยาเสพติดโดยตรง เพียง 17 วัน ก็เห็นผลแตกต่างจากพรรคเดิมที่ดูแลกระทรวงมหาดไทย มากกว่า 2 ปี รวมถึงก่อนหน้านี้ก็เป็น รมว.สาธารณสุข ได้ทำให้กัญชาเสรี ทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความไม่สบายใจ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็เดินหน้าแก้ปัญหาทันที ตนได้ออกประกาศเรียบร้อยแล้ว ต้องได้รับการอนุญาตจากแพทย์ถึงใช้กัญชาทางการแพทย์ได้ ดังนั้น ขอฝากชาวศรีสะเกษ เลือกเราเป็นรัฐบาล เลือกเขาเป็นฝ่ายค้าน


จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่ปราศรัยอีก 2 เวที คือ ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอภูสิงห์ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ มีประชาชนร่วมฟังการปราศรัยกว่า 1,000 คน และที่วิทยาลัยเทคโนโลยีหลวงปู่สรวงฯ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ มีประชาชนมาร่วมฟังการปราศรัยกว่า 500 คน

ภายหลังการลงพื้นที่ นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า การลงพื้นที่พบว่า น.ส.ภูริกา มีความเหมาะสมเป็น สส. อย่างมาก เนื่องจากพูดจาทำความเข้าใจได้เป็นอย่างดี รวมถึงครอบครัวก็มีประสบการณ์เป็น สส. ทำให้สามารถทำงานต่อได้ทันที ขณะเดียวกัน ตนมีโอกาสพบ อสม.ก่อนหน้านี้ ก็ได้เน้นย้ำให้เข้าใจว่า มีความจำเป็นต้องเลือกฝ่ายรัฐบาลไปทำงานต่อ ซึ่งดูได้จากกระทรวงมหาดไทย หลังพรรคเพื่อไทยเข้ามาดูแล 17 วัน ก็เห็นผลการปราบปรามยาเสพติดอย่างชัดเจน เช่น ที่จังหวัดนครราชสีมา

เมื่อถามว่า ปัญหาชายแดนในจังหวัดศรีสะเกษ จะส่งผลหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คิดว่าคนในพื้นที่เข้าใจกว่าคนในส่วนกลาง โดยตนคิดว่า คนที่รู้ก็จะไม่วิตกกังวล แต่ขอยืนยัน รัฐบาลจะพยายามทำให้ดีที่สุด.-316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

EOD เก็บกู้ทำลายระเบิด M33 กลางบ้าน

ตรัง 20 ส.ค.- คนร้ายลอบขว้างระเบิด M33 ใส่บ้านในพื้นที่ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ระเบิดทำงาน 1 ลูก อีก 1 ลูกไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ทำลายเสียงดังสนั่น เร่งสืบสวนหาตัวคนร้าย-สอบปมเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD จังหวัดตรัง ได้ทำการเก็บกู้และทำลายระเบิด M33 ที่ยังไม่ทำงาน ระหว่างทำลายเกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ ยางรถยนต์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ป้องกันแรงระเบิดปลิวลอยขึ้นฟ้า ควันฟุ้งกระจายไปทั่ว สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง  โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านยูงงาม ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบขว้างระเบิดเข้าใส่บ้านหลังหนึ่ง ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ เจ้าของบ้านเล่าว่าช่วงเกิดเหตุคนในบ้านกำลังนอนหลับ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง แต่ไม่กล้าออกมาดู กระทั่งเช้าพบหลุมระเบิดขนาดกว้างราว 2 ฟุต ลึก 1 ฟุต อยู่ข้างบ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ทราบว่าบ้านหลังนี้เคยถูกลอบยิงมาแล้วหลายครั้ง จนเจ้าของบ้านต้องสร้างกำแพงสูงเพื่อป้องกัน แต่ล่าสุดกลับถูกลอบขว้างระเบิดแบบลูกเกลี้ยง […]

ทำแผนโจรชิงทอง 123 บาท สารภาพเป็นหนี้นอกระบบ

สมุทรปราการ 20 ส.ค.- โจรชิงทองกลางห้างดังสมุทรปราการ 123 บาท ทำแผนรับสารภาพกู้เงินมาลงทุนร้านซ่อมรถ เสียดอกรายวันแต่หมุนเงินไม่ทัน จึงก่อเหตุ  กรณีนายวีรวัฒน์ อายุ 31 ปี บุกเดี่ยวควงปืนก่อเหตุชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ที่ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ  ก่อนจะอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีเส้นทางที่ไร้กล้องวงจรปิด โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ต่อมา ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พบว่าผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีไปทิ้งบ่อปลาแห่งหนึ่งในซอยวัดคอลาด แล้วหลบหนีต่อไป จึงไล่เรียงเบาะแสจนพบหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก เมื่อวาน (19 ส.ค.) จึงนำหมายค้นบ้านนายวีรวัฒน์ พร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมกับของกลางทองรูปพรรณซุกซ่อนไว้ในตู้ลำโพงหน้าบ้าน และใส่ในถุงพลาสติกฝังดินใต้ต้นไม้ข้างบ้าน รวมตรวจยึดทองคืนได้ประมาณ 90 บาท ยังเหลือทองคำอีก 33 บาท อยู่ระหว่างสอบขยายผล  ผู้ต้องหาสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบจากการกู้ยืมมาลงทุนร้านซ่อมรถและต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท จึงหมุนเงินไม่ทัน จากนั้นคิดวางแผนในการก่อเหตุ ประมาณ 1 […]

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบฯ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน

ทำเนียบฯ 20 ส.ค.-บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงงบค้างท่อ 2.6 หมื่นล้าน กลับงบกลางฉุกเฉิน เน้นเศรษฐกิจชายแดน รองรับผลกระทบภาษี “ทรัมป์” และเหตุจำเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) หลังจากรัฐบาลจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรก 1.15 แสนล้านบาท รอบสอง 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรเงินให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10,000 ล้านบาท และกองทุนเงินให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา (กยศ.) 8,488 ล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดสรรให้กับหน่วยงานต่างๆ ในรอบแรกพบว่า มีหน่วยงานจัดซื้อจัดจ้างไม่ทัน จึงดึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือค้างท่อ 2.6 หมื่นล้านบาท กลับเข้ามาอยู่ในงบกลางสำรองฉุกเฉิน เพื่อนำมาพิจารณาใช้ในเรื่องจำเป็น เช่น การฟื้นเศรษฐกิจแดนไทย-กัมพูชา การใช้งบรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐร้อยละ 19 ในบางรายการ หากส่วนราชการใดต้องการใช้งบดังกล่าว ต้องจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จภายใน 30 ก.ย.นี้ โดยสำนักงบประมาณจะพิจารณาในการจัดสรรงบให้ สำหรับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐ ยอมรับว่า รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ […]