“ทักษิณ” ชี้ภาษีทรัมป์ทำเศรษฐกิจไทยสะดุด

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 17 ก.ค. – “ทักษิณ”ชี้ภาษีทรัมป์ทำเศรษฐกิจไทยสะดุด บอกเหตุทั่วโลกมอง GDP ไทยต่ำ เพราะการบริหารผิดพลาดในอดีตขาดกลยุทธ์แข่งขัน เตรียมดัน AMC แก้หนี้ครัวเรือน


นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ตอนหนึ่งว่า เรื่องที่เราสะดุด คือเรื่องภาษีทรัมป์ ที่เรากำลังเจรจาอยู่ ทีมไทยแลนด์กำลังเจรจาอยู่ โดยได้ยื่นข้อเสนอใหม่ๆ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็นั่งกำกับ ไม่ให้เราเสียเปรียบ ไม่ให้เราถูกเบียดเบียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินค้าเกษตร อย่างที่ตนเคยบอกว่ามี3 ก้อน ก้อนหนึ่งคือเราเอาของเข้ามาจากจีน แล้วประกอบและส่งไป เป็นผลิตในประเทศไทย อีกสองคือส่งไปในอเมริกา โดยเทคโนโลยีและบริษัทอเมริกัน มาตั้งในประเทศไทย สองตัวนี้จะไม่กระทบอะไรกับเรามาก แต่ที่กระทบมากคือตัวที่เกี่ยวข้อง กับสินค้าที่เราส่งไป เช่นสินค้าเกษตร สินค้าSMEs หรือพวกอัญมณี ซึ่งเรากำลังแก้ไข และให้แนวทางกันว่า ถ้าเราจะนำเข้าสินค้าจากอเมริกา แล้วมาแข่งขัน กับสินค้าที่เรานำเข้าจากประเทศอื่น ก็เป็นเรื่องที่ดี เรายอมรับให้เข้ามาแข่งกันเอง เช่นเนื้อ ที่จะมีการแข่งขันกับออสเตรเลีย หรือมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ก็ไม่เป็นอะไร หลายอย่างที่เราเปิดได้เราก็เปิด สิ่งที่เราเปิดวันนี้เราก็คุยกัน น่าจะเป็นข้อเสนอ ที่นำไปสู่การตกลงใจกันได้ แต่ให้จำไว้ว่า คำว่าดีลไม่มีจบ ถ้ายังไม่พอใจก็ดีลกันต่อ นี่เป็นลักษณะการเจรจาธุรกิจ คำว่าประเทศ เขาใช้คำว่า Economic ก็คล้ายๆ ธุรกิจ ที่ต้องเจรจากันต่อเนื่องตลอดไป เพราะฉะนั้นเราหยุดตรงนี้ไม่ได้

นายทักษิณ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นปัญหาของประเทศเราอีกอัน จากการวิเคราะห์ทั่วโลก GDP ของประเทศไทย โตน้อยเกินศักยภาพ ไประหว่าง 22-75 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เราอยู่อันดับที่ 24 ของโลก GDP ที่โตช้า มาจากหลายสาเหตุ ซึ่งการบริหารจัดการที่ผิดพลาดเป็นเรื่องใหญ่ คือเราบริหารโดยไม่บริหารมานาน ไม่มีกลยุทธ์ ว่าจะแข่งขันกับเขาอย่างไร ทำให้เราช้า อีกเรื่องคือธนาคารแห่งประเทศไทย พยายามจะรักษาสถานะ ของธนาคารพาณิชย์ เพราะกลัวธนาคารพาณิชย์จะพลาด เหมือนยุคต้มยำกุ้ง ทำให้ดึงฐานเงินออกจากระบบ เป็นจำนวนมาก จนทำให้ธนาคารพาณิชย์มีความเสี่ยงน้อย ธุรกิจก็เหนื่อย ไม่รู้จะไปหาแหล่งทุนที่ไหน ประกอบกับการที่เราไม่ป้องกันตัวเอง พอจีนส่งสินค้าเข้ามา มีคอรัปชั่นตามชายแดน ศุลกากรต่างๆ ก็ทำให้SMEsของเราตาย ซึ่งเราสู้เขาไม่ได้ ในเชิงของ Economies of Scale อยู่แล้ว และเทคโนโลยีเราก็ไม่ค่อยทันสมัย มาเจอสินค้าที่เข้ามาทุ่มตลาด ราคาถูกโดยไม่ผ่าน มอก. และไม่มีอย. พอตนต่อว่าไป เขาบอกว่าอย.ขอยากมาก นี่เป็นสิ่งที่เราต้องไปแก้กติกาของเรา นี่เป็น3ข้อที่ทำให้เศรษฐกิจไทย ชะงักเงินในช่วงนี้


นายทักษิณ กล่าวว่า ตนพยายามอย่างยิ่ง ที่จะจัดตั้งAMC ( Asset Management Company) หรือ บริษัทจัดการสินทรัพย์ ของภาคประชาชน เพราะหนี้ครัวเรือนสูงเหลือเกิน แต่คลังยังไม่รับลูกเท่าไหร่ แต่ตนเชื่อว่าเที่ยวนี้มันจำเป็น วันนี้หนี้ครัวเรือนสูง อาจจะต่อเนื่องมาตั้งแต่โควิด-19 และคนไทยก็ไปเสียเงิน จากการเล่นหวยเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งวันนี้หนี้สินอยู่ที่ 92% ของGDP วันนี้ถ้าเราซื้อหนี้ภาคประชาชน ออกมาจัดตั้งAMC ซึ่งเป็นคนละสายพันธุ์ กับ AMC ที่มีอยู่ แต่สามารถทำในสาขาแยกออกมาได้ ถ้าใช้พันธุ์เดียวกันจะมีปัญหา ใช้กฎหมายเดียวกันได้ แต่ต้องแยกมนุษย์คนละพันธ์ุมาบริหาร เพราะเป็นลูกค้าคนละกลุ่ม พร้อมย้ำว่า AMC จำเป็นอย่างยิ่ง ต้องเอาจริงจัง ถ้าไม่ทำคนไทยหายใจไม่ได้ กำลังซื้อจะไม่กลับมา และไม่มีทางที่จะดิ้นรนทำมาหากิน ในเรื่องใหม่ๆได้

นายทักษิณกล่าวอีกว่า การลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ อย่างเรื่องไฟฟ้า วันนี้ตนอยากจะพูดยาวหน่อย วันนี้ถ้าเราใช้รถไฟฟ้า แต่ถ้าเป็นของจีนทั้งหมด เราเจ๊งก่อน แล้วจะทำอย่างไร ถึงจะสร้างอุตสาหกรรม ที่มีอีโคซิสเต็มส์ (Ecosystem) ของเรา ที่แข็งแรงแล้ว โดยใช้โรงงานผลิตในประเทศไทย ใช้อุตสาหกรรมต่อเนื่องทางรถยนต์ ที่เรามีระบบที่ดีอยู่แล้วให้ได้ แล้วส่งเสริมไฟฟ้าอย่างจริงจัง มันเป็นเรื่องที่ควรต้องทำ เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ภาคประชาชน

นายทักษิณ กล่าวว่า สำหรับเรื่อง 20 บาทตลอดสาย สิ่งที่เราคิดวันนี้ต้องลดค่าจราจร ซึ่งตนเป็นคนเสนอสร้างรถไฟฟ้า 10 สาย ซึ่งปรากฏว่าคนยังใช้ไม่มาก เพราะไม่มีฟีดเดอร์ และวันนี้หากลดค่าบริการลงเหลือ 20 บาทตลอดสาย ทำให้ประชาชนสามารถใช้บริการได้ และนำรถเมล์เปลี่ยนเป็นฟีดเดอร์ เราจึงจะประสบความสำเร็จที่สุด เพื่อให้ประชาชนใช้ระบบสาธารณะ และรถราต่างๆจะลดน้อยลง ขณะเดียวกันถนนใหญ่ๆต้องทำถนนชาร์จไฟแบบไร้สาย ซึ่งต่างประเทศเขาทำกัน เพื่อนำเงินส่วนนี้มาเป็นเงินอุดหนุนให้กับคนทั่วไปที่ใช้รถสาธารณะ ซึ่งจะเร่งให้เสร็จภายใน 2-3 เดือนนี้


นอกจากนี้ประสิทธิภาพของภาครัฐเป็นปัญหามาก เพราะส่วนราชการใหญ่ขึ้นจำนวนข้าราชการมีมากขึ้น และการบริการแย่ลง เมื่อก่อนตอนที่ตนอยู่เราพยายามให้ข้าราชการให้บริการ รวมถึงช่วงวันเสาร์อาทิตย์ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งวันนี้ต้องมาแก้ไขระบบราชการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และถ้าจะปรับโครงสร้างระบบราชการทุกกระทรวงไม่ว่าจะเป็นองค์กร ระเบียบกฎหมาย และงบประมาณ ซึ่งอาจจะขอให้มหาวิทยาลัยรับไปดูแลในแต่ละกระทรวงเพื่อทำแผน และนำเสนอให้กับรัฐบาลเพื่อเห็นแนวทางในการปรับปรุงการบริหารของระบบราชการ และต้องพยายามประหยัดค่าใช้จ่ายภาครัฐลง เพราะวันนี้ค่าใช้จ่ายภาครัฐสูงมาก สูงจนไม่มีเงินจะบริหาร จึงต้องดูว่าจะปรับปรุงข้าราชการอย่างไร

นายทักษิณ กล่าวว่า เช่นที่ดูไบไม่มีภาษี แต่เขามีคำว่า Fee คือการเก็บค่าธรรมเนียมบริการใช้บริการของภาครัฐ และนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นสวัสดิการของข้าราชการ ซึ่งจะทำให้การบริการดีขึ้น และไม่มีใต้โต๊ะ และคำนวณได้ว่าค่าใช้จ่ายจะเป็นเท่าไหร่ ในการเดินงานแต่ละเรื่อง ทั้งอย่างรวดเร็วทันใจ และเป็นระบบดิจิทัลไลท์หมด ดังนั้นวันนี้ต้องแก้ไขระบบราชการให้ทันสมัย และประหยัด รวมถึงพยายามเก็บเป็น Fee มากกว่าใต้โต๊ะ เช่น ที่ข้างบ้านเล็กๆ 60 ตารางวา ขอรังวัดที่ดินมีค่าธรรมเนียมถูกต้องตามกฏหมาย และมีค่าวัดขั้นตอนเพื่อให้รวดเร็วขึ้น ซึ่งแพงกว่าค่าธรรมเนียม เราก็ต้องจ่ายไม่เช่นนั้นก็ไม่ได้รังวัดสักที นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย ดังนั้นสู้เก็บบนโต๊ะ และเก็บมากหน่อยเพื่อนำไปแบ่งกับข้าราชการ เป็นค่า Fee จะดีจะดีกว่าหรือไม่ซึ่งตนมองว่าเป็นสิ่งที่ต้องรีบ ส่วนงบประมาณของรัฐต้องประหยัด เช่น วันนี้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั่งอยู่สำหรับเรื่อง 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งมีการกลบงบประมาณเพิ่มขึ้นทุกปี แต่กลับไม่ได้ไปรีวิวว่าเทคโนโลยีเปลี่ยนไป การบริการค่าใช้จ่ายผิดไปแล้ว ต้องเริ่มที่การจัดทำงบประมาณโดยความจำเป็น (Zero Based) ได้หรือไม่ ซึ่งต้องคำนวณว่าเป็นเท่าไหร่ต่อหัว อาจจะทำให้เราประหยัดได้มาก ไม่ใช่กลบไปเรื่อยๆไม่เช่นนั้นสวัสดิการบ้านเราจะรับไม่ไหว

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงเรื่องงบประมาณทหาร ซึ่งสูงขึ้นมากระหว่างที่ตนไม่อยู่ น่าจะถึงเวลาที่ต้องหาทางลดและปรับ เพราะต่อไปจะเป็นสงครามไซเบอร์ ต้องปรับเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ ไม่เช่นนั้นเราจะล้าหลังและล้าสมัย รวมถึงสิ้นเปลือง ซึ่งหลายอย่างเราเก็บซากไว้เพื่อเบิกค่าน้ำมัน เราต้องแก้ไขในจุดนี้ ดังนั้นระบบสวัสดิการของข้าราชการจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าใช้มหาวิทยาลัยเข้าไปดูแต่ละกระทรวงว่าจะปรับอะไรได้บ้าง ดีกว่าเอานักการเมืองเข้าไปดู เขาจะหาว่านักการเมืองไปกลั่นแกล้ง พร้อมย้ำว่า ต้องลดค่าใช้จ่ายภาคประชาชน และภาครัฐ.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

กต.อัปเดตสถานการณ์-ผลประชุม GBC กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]

ไร้คู่แข่ง “ไชยา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

รัฐสภา 7ส.ค. – “ไชยา พรหมา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แบบไร้คู่แข่ง ประกาศพร้อมจับมือทุกฝ่ายทำให้สภาฯ เป็นที่พึ่งของประชาชน การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อนายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เพียงชื่อเดียว จากนั้นนายไชยา ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ขอบคุณประธานฯ และสมาชิก ที่ให้ความไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขอยืนยันว่าจะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงานทางการเมืองตลอดชีวิตการทำงานเพื่อสภาฯ แห่งนี้ อย่างน้อยสถาบันนิติบัญญัติเป็นกลไกที่มีความสำคัญไม่แพ้อำนาจฝ่ายบริหาร ประธานฯ และตัวไชยาเอง อยู่สภาฯ นี้มานาน ได้ผ่านกงล้อประวัติศาสตร์ทางการเมือง สถานการณ์การเมืองที่แตกต่างกันแต่ละยุคสมัย อยากเห็นองค์กรนิติบัญญัติแห่งนี้เป็นที่พึ่งของที่น้องประชาชนต่อไป และสิ่งหนึ่งที่อยากจะเห็นในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คือ อยากเห็นความร่วมมือร่วมใจ ไม่ว่าจะฝ่ายค้าน […]

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]