“ภูมิธรรม”​ ประกาศกวาดล้างยาเสพติด กำชับเห็นผลใน 3 เดือน

สโมสรทหารบก 17 ก.ค.- “ภูมิธรรม”​ ประกาศเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealers” กำชับเห็นผลภายใน 3 เดือน ขู่ย้ายผู้ว่าฯ-ผู้การจังหวัดทันที หากแก้ไม่ได้-มีเอี่ยว ลั่นมีทั้งกำปั้นเหล็ก-ถุงมือกำมะหยี่ ตอบแทนคนทำดีและจัดการคนผิด


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด “No​Drugs No Dealers” ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด​ โดยมีรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม พร้อม วิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ จากสโมสรทหารบก ไปยังผู้อำนวยการเขต ผู้กำกับการ หัวหน้าสถานีตำรวจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และนายอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศ

นายภูมิธรรม​ กล่าวว่า ปัจจุบันเราเผชิญกับอาชญากรรมจากภายนอกประเทศ ที่เล็ดรอดเข้าสู่ประเทศไทยตามแนวชายแดน ไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์​ ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ การค้าสิ่งของผิดกฎหมาย​ และที่สำคัญคือการลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศ ยาเสพติดถือเป็นภัยร้ายแรงที่บ่อนทำลายประเทศมาอย่างยาวนาน แม้ว่าไทยจะไม่ได้เป็นต้นกำเนิดของยาเสพติด แต่เราก็ได้รับผลกระทบจากการลักลอบนำเข้ายาเสพติด จากประเทศเพื่อนบ้านบริเวณชายแดนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเส้นทางของยาเสพติดเหล่านี้​ มีทั้งถูกนำเข้าเผยแพร่ระบาดในพื้นที่หมู่บ้านและชุมชนหรือถูกส่งต่อไปยังปลายทางประเทศที่ 3 แต่ไม่ว่า ปลายทางของยาเสพติดจะไปสิ้นสุดที่ใดก็ตาม ยาเสพติดสร้างปัญหาทำลายชีวิตของคนในหมู่บ้านและชุมชน​ ทำลายความสงบสุขและความปลอดภัยของชุมชน​ อีกทั้งทำลายโอกาสดีๆของคนรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไปไม่รู้จบ


นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัญหายาเสพติด ถือเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องขจัดออกไปบนผืนแผ่นดินไทยและรัฐบาลทำงานอย่างเข้มข้นจริงจังและต่อเนื่องโดยมาตรการและปฏิบัติการต่างๆ ทั้งการกำหนดแผนปฏิบัติการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดปีงบประมาณพ.ศ 2568 ซึ่งจะมีการกำกับติดตามและประเมินผลตรวจชี้วัดอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ปฏิบัติการ Seal Stop Safe ผลึกกำลังในพื้นที่ 14 จังหวัด 51 อำเภอชายแดน เริ่มภารกิจตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ทำให้ได้เห็นถึงความสำเร็จในการปฏิบัติงานอยู่เสมอ ซึ่งตนขอชื่นชมและขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน นอกจากนี้ยังมีการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ต้นแบบ ธวัชบุรีโมเดล​ และท่าวังผาโมเดล จนรัฐบาลได้ขยายผลไปสู่พื้นที่ 10 จังหวัดนำร่อง นอกจากนี้ยังมีการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ต้นแบบ​ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานครและในภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัด 878 อำเภอโดยจะต้องอาศัยความร่วมมือของข้าราชการทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการเข้าถึงประชาชนเราจึงจะสามารถขจัดปัญหายาเสพติดไปได้อย่างแท้จริง

และเมื่อ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนได้มอบนโยบายและได้เน้นย้ำถึงเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด​ แก่ผู้บริหารผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย​ ซึ่งเป็นฟันเฟืองหลักในการนำนโยบายของพรรค ของรัฐบาล​ ไปปฏิบัติให้ประชาชนได้รับรู้เข้าใจ และสัมผัสได้ถึงความตั้งใจในการดำเนินงานของรัฐบาล​ ผ่านกลไกในระดับจังหวัดอำเภอ​ ตำบล​ หมู่บ้าน​ ทั่วประเทศ


โดยมีเป้าหมายและตัวชี้วัดว่า ภายใน 3 เดือนนี้หมู่บ้านและชุมชนที่มีปัญหาเรื่องยาเสพติดจะต้องเริ่มแก้ไขปัญหาวางกลไกของชุมชนและประกาศตนเป็นหมู่บ้านชุมชนปลอดยาเสพติด​ ที่จะต้องไม่มีทั้งผู้ค้าและผู้​เสพ​ การดำเนินงานดังกล่าวที่กล่าวมานี้​ จำเป็นต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของจังหวัด และฝ่ายปกครอง นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ​ นำโดยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนำโดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ครบถ้วนในทุกมิติ นับตั้งแต่การป้องกันไม่ให้มียาเสพติดเข้าสู่ประเทศการปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชนตลอดจนการฟื้นฟูคนดีกลับสู่สังคม ตนจึงขอเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนเร่งรัดดำเนินการ

”อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้การตำรวจภูธรจังหวัด จับมือกันร่วมการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน หรือจะต้องบูรณาการร่วมกันกับทุกหน่วยงานโดยเฉพาะในด้านการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลการวางกำลังร่วมและการจัดกำลังเพื่อสนับสนุนภารกิจ​ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องเป็นผู้ว่า CEO ที่เป็นเจ้าภาพในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหายาเสพติด​ บนข้อมูลจากสถานการณ์จริง และแน่นอนว่าแต่ละจังหวัดก็มีบริบทของพื้นที่ที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ผู้ว่าจะต้องรู้สภาพปัญหาและเงื่อนไขความท้าทายที่เกิดขึ้นในจังหวัดของตน พร้อมทั้งนำปัญหามาเป็นแนวทางแก้ไขที่ตอบโจทย์พื้นที่“ นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยากให้มีการทบทวนเป้าหมายการดำเนินการที่เกิดขึ้นในทุกระยะ เพื่อให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การทำงานเป็นเอกภาพ​ และมีประสิทธิภาพสูงสุด การดำเนินงานจะต้องใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทยที่มีความเข้าใจและเข้าถึงประชาชนมาดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่ระดับจังหวัดอำเภอ​ ตำบล และหมู่บ้าน ซึ่งจะต้องมีการมอบหมายภารกิจให้ในอำเภอกำนันผู้ใหญ่บ้าน​ เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานเรื่องยาเสพติด โดยการดำเนินงานจะมีทั้งการสกัดกั้น​ เฝ้าระวัง​ ตรวจตรา​ และเอกซเรย์ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่สถานบันเทิงหากพบผู้เสพยาเสพติดขอให้นำเข้าสู่การบำบัดรักษา นอกจากนี้ ยังต้องมีการนำกลไกปกครอง มาใช้ในการหาข่าวในพื้นที่อีกด้วยเพื่อขยายผลไปสู่การจับกุมผู้ค้ายาเสพติด และตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ตลอดจนต่อยอดไปสู่การทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทั้งระบบต่อไป​ โดยเฉพาะผู้ค้ารายใหญ่

สำหรับการบำบัดรักษาฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด ขอให้ยึดหลัก ผู้เสพคือผู้ป่วย ที่ต้องได้รับการรักษาซึ่งมีหลายรูปแบบ และจำแนกตามกลุ่มของผู้ป่วย​ พร้อมกันนี้ขอให้ทางจังหวัดให้ความสำคัญกับการดำเนินงานของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม เพื่อให้ผู้ป่วยที่ผ่านการบำบัดได้มาฟื้นฟูสมรรถนะและศักยภาพให้สมบูรณ์มากก่อนที่จะกลับเข้ามาใช้ชีวิตในสังคมโดยไม่กลับมาใช้ยาเสพติดซ้ำอีก โดยสามารถนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ใกล้ชิดกับประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมและสนับสนุนการดำเนินงานในจุดนี้

ขณะเดียวกันอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญส่งผลให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเกิดผลสัมฤทธิ์ คือพลังของประชาชน ซึ่งภาครัฐจะต้องเข้าไปมีส่วนสนับสนุนให้ประชาชน​ รวมพลังกันเพื่อต่อต้านยาเสพติด ตนขอให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านทุกคนรับเป็นผู้นำ​ โดยอาจมีการกำหนดกติการ่วมหรือ​ ธรรมนูญ​หมู่บ้าน​ เรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ทุกคนรับทราบและปฏิบัติตาม ในการเดินทางไปหมู่บ้านหลายครั้งตนพบกับประชาชนซึ่งประสบความทุกข์เรื่องยาเสพติด​ แต่สิ่งหนึ่งที่เขากังวลใจคือ ตกลงรัฐบาลเอาจริงหรือไม่ ถ้ารัฐบาลเอาจริงเขาก็พร้อมที่จะร่วม ซึ่งปัญหาที่ผ่านมานอกจากปัญหาของอาชญากรที่สร้างอาชญากรรมเข้ามาแล้ว มีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในหลายส่วนหลายระดับ ทำให้ปัญหายาเสพติดไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปกครอง​ หรือแม้แต่กำนันผู้ใหญ่บ้านบางส่วน ซึ่งการที่จะเป็นผู้ดำเนินการจัดการกลับเป็นผู้มีส่วนร่วมสนับสนุนหรือแม้กระทั่งทำเองโดยตรง ในศูนย์กลางการทำงานของพวกเราขณะนี้มีรายชื่อของระดับเจ้าหน้าที่ต่างๆตั้งแต่หมู่บ้านขึ้นมา เพราะฉะนั้นวันนี้เราได้เห็นแล้วว่าปัญหายาเสพติดกระทบกับเรารุนแรงมากแค่ไหนและทุกข์ของประชาชนที่เห็น วันนี้รุนแรงมากจนกลายเป็นสิ่งที่กล่าวถึงกันไปทั่วทุกประเทศ อยากให้คิดว่า หากในครอบครัวมีลูกหลานติดยาเสพติด กลายเป็นอาชญากร เราได้เห็นภาพที่พ่อยิงลูกยิงแม่ สิ่งเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นในสังคมไทย ปัญหาเกิดขึ้นเพียงว่าอยากได้เงินนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพ ลุกลามเข้าไปหมด ปัญหายาเสพติดถือเป็นปัญหาพื้นฐาน แต่เวลาพูดสิ่งที่เขารู้สึกมากและสะเทือนใจคือลูกหลานเขาติดยาเสพติด และเขารู้หมดว่าในหมู่บ้านใครค้าใครๆใครสนับสนุน

นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้ที่เรียกมาทั้งหมดที่มาพูดคุยกันคืออยากขอความร่วมมือให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง​ ตนไม่เชื่อว่าพลังของส่วนราชการทั้งหมด หรือคนไทยทั้งหมดจะแก้ไขปัญหายาเสพติดไม่ได้ปัญหามีอยู่อย่างเดียวคือเราเอาจริงหรือเปล่า​ แต่เรากล้าที่จะทำแล้วหรือยัง ปัญหาเราเยอะแยะมากสิ่งที่เราได้พูดถึง อยากให้กำลังใจคนที่ทำงาน แต่หลายส่วนกล้าหาญมาก กล้ากระทำสิ่งต่างๆโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายใช้อำนาจหน้าที่ในการทำงาน เพราะฉะนั้นเราต้องควบคุมพวกเรากันเองและร่วมมือกับชาวบ้านรวมพลังกันตนคิดว่าปัญหายาเสพติด​ แก้ได้เพราะฉะนั้นในการทำเหล่านี้เรามีทั้งคุณทั้งโทษ ถ้าพบว่าใครเมินเฉยนิ่งเฉย ทั้งระดับจังหวัดผู้การผู้ว่าระดับอำเภอในอำเภอ ถ้าเราไม่รักพื้นที่ชุมชนที่เราอยู่แล้วเราจะไปรักใครได้เราไม่รักประเทศชาติแล้วเราจะอยู่กันอย่างไร

“เพราะฉะนั้น ถ้ามีปัญหา อย่างน้อยในช่วง 3 เดือนนี้​ จะแสดงให้เห็นและจะทำต่อไป ติดขัดที่ตรงไหน ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงเรามีมาตรการ จับดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้ว่าฯ​ นายอำเภอ​ ผู้กำกับ ผู้การจังหวัด ถ้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาและไม่มีส่วนร่วมในการดำเนินการ ขั้นแรกจะย้ายออกจากพื้นที่​ทันทีและดำเนินคดีตามสภาพความผิดที่เกิดขึ้น ไม่ต้องรอให้กระบวนการต่างๆ ในตัวชี้วัดที่มีอยู่ และการข่าวที่เรามีทั้งหมด ถ้าดำเนินการไปแล้วสามารถที่จะยืนยันได้ เราย้ายทันที ตรงนี้ผมไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องการมาข่มขู่กัน แต่ถ้าเราไม่ใช้ กำปั้นเหล็กในการจัดการปัญหา เราทำทั้งถุงมือกำมะหยี่และกำปั้นเหล็ก เรามีทั้งคนที่ทำดี เราให้คุณ เราตอบแทน ให้สามารถทำหน้าที่ได้ดีขึ้น ใครที่มีส่วนร่วมได้รับผลประโยชน์และมีปัญหา เราจะจัดการทันที โดยการย้ายออกจากพื้นที่ อยากฝากให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรับรู้รับทราบว่ามาตรการเหล่านี้เป็นมาตรการที่ทำให้เห็นและจะใช้ความเข้มข้นนี้ต่อเนื่องต่อไป และจะมีมาตรการไปถึงส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ที่เป็น อาชญากร และก่อชญากรรมข้ามประเทศ ทั้งนี้ มากกว่า Seal Stop Safe 14 จังหวัดนั่นคือ ดำเนินการทั่วประเทศ​ เพราะเราพบยาเสพติดจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ดูชายแดนอย่างเดียว ชายแดนเป็นเรื่องเราไปสกัดกั้นไม่ให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้น” นายภูมิธรรม กล่าว

นาย​ภูมิธรรม​ ยังกล่าวอีกว่า​ ถ้าผู้ว่าฯหรือผู้การฯใกล้เกษียณ ไม่มาทำงาน​ หรือไม่ใกล้เกษียณ แต่มีส่วนร่วมในการรักษาผลประโยชน์ ถือเป็นอุปสรรค เราพบอยู่หลายจุดหลายจังหวัดนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง​ สำหรับตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตนได้ข้อมูลการข่าวจากเรื่องยาเสพติดมีมาก ถ้าพบว่ามีแหล่งต่างๆที่สร้างปัญหาก็จะย้ายเลย ไม่ว่าจะเป็นในระดับจังหวัด และจังหวัดอำเภอ หรือผู้ที่มีอิทธิพลเกี่ยวข้องทั้งหมดนี่คือนโยบายที่เคร่งครัดที่จะดำเนินการ ใน 3 เดือนนี้ให้ได้ผลอย่างชัดเจน

นาย​ภูมิธรรม​ ยังกล่าวอีกว่า​ กำนัน​ ผู้ใหญ่บ้านสามารถสนธิกำลังกับชรบ. ที่มีอยู่ถึง 6-7 แสนคน ซึ่งล้วนเป็นแบบผู้ที่อยู่ในหมู่บ้าน​ ตนเชื่อว่าเขารู้หมด​ เพราะฉะนั้นกำนันผู้ใหญ่บ้านและชุดชรบ.ถือเป็น​กำลังสำคัญและเป็นหัวใจในการแก้ไขปัญหา ถ้าท่านรวมตัวกันสร้างพลังมวลชนขึ้นมาให้เป็นตาสับปะรด​ในทุกพื้นที่ ตนเชื่อว่าจะได้ค้นพบแหล่งต่างๆได้มากก็ฝากความหวังไว้ที่พลังของชุมชนให้มีส่วนร่วมจึงจะสามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตได้เองส่วนราชการจะสนับสนุนส่งเสริมให้เต็มที่ เข้มงวดเข้มข้นกับผู้บังคับบัญชาในระดับต่างๆ

นายภูมิธรรม​ กล่าวว่า ปฏิญญายับยั้งยาเสพติด ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ได้แสดงพลังร่วมกันวันนี้ จะเป็นคำมั่นสัญญา ที่ทั้งสองคนจะร่วมกัน แก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ของตนเอง ให้ประสบความสำเร็จ เพราะสุดท้ายผลลัพธ์คือความสำเร็จของประชาชน .-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

“พล.อ.ณัฐพล” เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” รมช.กลาโหม เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]