“ภูมิธรรม” เรียกประชุมผู้ว่า-ผกก.ทั่วประเทศ พรุ่งนี้

ศรีสะเกษ 16 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เรียกประชุมผู้ว่า-ผกก.ทั่วประเทศ พรุ่งนี้ ลั่นใครไม่มาเด้งย้ายทันที เตรียมสร้างเครือข่ายตาสับปะรด-ชรบ. แก้ปัญหายาเสพติด ซัดนักการเมือง-นักธุรกิจ หาผลประโยชน์ทำปวดหัว แย้ม ตร.จ่อออกหมายจับทิด-สีกา ผิดกฎหมายการเงิน ลั่นพระไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่มีส่วนร่วม

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่ห้องประชุม 1 โครงการชลประทานศรีสะเกษ


โดยนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวรายงานในช่วงแรกว่า การทำงานในจังหวัดศรีสะเกษ ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ตามกฎหมายระเบียบข้อสั่งการที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เราทำงานกันเป็นทีม บูรณาการหน่วยงานร่วมกัน ไม่แยกส่วนแยกฝ่าย โดยมีผลสำเร็จเป็นเป้าหมายร่วมกัน

ด้านนายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อมอบนโยบาย ตนมาภารกิจครั้งแรกภายใต้กระทรวงมหาดไทย เพราะตนเพิ่งได้รับตำแหน่ง และได้ร่วมงานกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ทราบว่าได้มีการจัดเรียบร้อยแล้ว ตนเลยคิดว่ามาได้เลยดีเหมือนกัน ไม่ต้องจัดอะไร และรัฐมนตรีท่านเก่าจัดให้เรียบร้อย ถือว่าวันนี้เปิดเข้าร่วมรับฟังนโยบายที่อยากให้แพร่หลายให้พี่น้องประชาชนรับทราบ เพราะตนคิดว่าเรื่องของยาเสพติด ตนเคยพูดในที่ประชุมให้นโยบายมาแล้วว่า ปัญหานี้มันหนักหน่วงและรุนแรงจริงๆ ขณะนี้ไปที่ไหนก็มีแต่พูดถึงเรื่องนี้ จนกลายเป็นปัญหาที่สำคัญไม่แพ้กับเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นชีวิตของประชาชน เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องทั้งประเทศตนไม่คิดจะทำที่ไหนที่เดียว


นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะที่รับตำแหน่งรมว.มหาดไทย เรื่องนี้สำคัญไม่น้อยไปกว่า การสร้างเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งถือว่าเป็นรูปธรรมมากที่สุด และย้ำว่า วันนี้จะบอกว่าล้มเหลวก็ได้ แต่อาจจะทำได้ไม่ดีและเป็นปัญหา และสิ่งที่สำคัญหากเราทำได้สำเร็จตามที่เปอร์เซ็นต์ต่างๆก็คงไม่เป็นปัญหา แต่ที่พูดกันปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาทอล์กออฟเดอะทาวน์ คนพูดกันทุกหมู่บ้าน ชาวบ้านไม่พอใจ สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่านั้นคือตนให้ความสำคัญกับความรู้สึกของชาวบ้านในพื้นที่ หากนำแต่ตัวเลขการจับกุมมา แต่ประชาชนในพื้นที่ไม่ยอมรับ ก็ถือว่าท่านทำงานไม่ประสบความสำเร็จ ถือว่าล้มเหลว ตนมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงดูทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ซึ่งในปัจจุบัน เรื่องความมั่นคงมีรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่แค่เรื่องการต่อสู้ป้องกันประเทศ แต่พูดถึงภัยด้านความมั่นคงในหลายมิติ อย่างเรื่องศาสนา ที่เพิ่งเกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องความมั่นคง ซึ่งปกติเราไม่เคยทำอะไรที่มากไปกว่าการจับสึก แต่ต้องพูดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมวงการคณะสงฆ์ เราได้คุยกันแล้วเดิมแค่จับสึก วันนี้จะเริ่มเห็นจับพระลาสิขาบทมารับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งหากติดตามข่าววันที่ 17 ก.ค.เป็นต้นไปจะพบว่ามีกระบวนการจับกุมสีกาทั้งหลายที่มีส่วนในการทำให้เกิดปัญหา ก่อนย้ำว่าพระไม่ใช่ผู้เสียหาย แต่คือผู้มีส่วนร่วมทำให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันของชาติ และถือว่ามีความผิดที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่เราต้องการยกตัวอย่างให้เห็นว่าเมื่อก่อนเราไม่ถือว่าเป็นปัญหาอาชญากรรม แต่ไม่ใช่ เพราะอาชญากรรมแปลงร่างมาในหลายรูปแบบ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ตนเข้ามา 3 เดือนที่ผ่านมาอยากให้ประชาชนรู้สึกเปลี่ยนแปลง นั่นคือปัจจัยหลักปัญหาเรื่องยาเสพติดอยู่ในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพราะท่านคือผู้บังคับบัญชาสูงสุดในจังหวัด การจะทำให้หมดไปคือมหาดไทย ผู้ว่าราชการฯ นายอำเภอ รวมไปถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องร่วมมือกัน วันนี้ตนมาเจอตัวเลข ชรบ. 6-7 แสนคน ถือเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ หากใช้ให้ถูกต้องถูกระบบก็จะเป็นส่วนสำคัญในการทำหน้าที่ป้องกันรักษาชาติ วันนี้ภัยคุกคามประเทศไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะพื้นที่ชายแดน ชายแดนเป็นเพียงพื้นที่เส้นลำเลียงยาเสพติด เพราะฉะนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุด

ทั้งนี้ในวันที่ 17 ก.ค. จะนัดประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งประเทศ และผู้บังคับบัญชา ผู้การจังหวัด ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะต้องเข้าร่วมประชุมทุกจังหวัด ไม่เข้าไม่ได้เว้นแต่เรื่องเข้าเฝ้าเจ้านาย หรือป่วยหนักจริงๆ หากไม่เข้าร่วมถือว่าไม่สนองต่อนโยบาย ตนจะย้ายทันที ทำแบบนี้ไม่ได้ พร้อมย้ำว่า สิ่งที่ตนทำไม่ได้เกลียดชังอะไรทั้งนั้น แต่หากไม่ทำประเทศก็จะไม่มีความสงบตนเอาจริงตลอด ตนดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย ขณะเดียวกันจากที่ตนได้ลงพื้นที่ ผู้การไม่ทำงานก็มี หรือจะเกษียณในปีนี้ก็เฉยชาไม่มา ร้ายกว่านั้นเป็นผู้อำนวยความสะดวกหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการยาเสพติด


ตนอยากเห็นการแก้ไขปัญหานี้ อยากให้ทำควบคู่กันไปเลย คือ ผู้มีอิทธิพลทั้งหมดแหล่งมั่วสุม รวมไปถึงเรื่องนี้ด้วยเป็นปัญหาของพี่น้องประชาชน และรัฐบาลจัดเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะผู้มีอิทธิพลหากินในเรื่องนี้หรืออยู่ข้างหลัง เช่น การทวงหนี้โหด และผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ จึงบอกว่าให้จัดการให้หมด เรื่องยาเสพติด สถานบันเทิงที่ผิดกฎหมาย เพราะเข้าไปตรวจเจอยาบ้าเกลื่อนกลาด หากเราเข้มงวดจริงๆ เราเชื่อว่าเราสามารถจัดการได้ เพราะมีบางส่วนบางกลุ่มบางคนเข้าไปมีส่วนร่วม หรือหาผลประโยชน์จากสิ่งต่างๆ

นายภูมิธรรม​ กล่าวอีกว่า​ ขอให้ทุกฝ่ายทำอย่างจริงจัง​ เพราะจะเป็นบุญผลกับชาวบ้านเพราะในวันนี้มันเข้าไปทำลายครอบครัว​ ทำลายชีวิต​ ทำลายอนาคตและโอกาสของประชาชนและเยาวชน พร้อมย้ำว่า​ ไม่ทำไม่ได้ ถ้าบอกว่าไม่ทำต้องไม่สบายใจแน่​ แต่ต้องมีการดำเนินการตามสมควร​ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ตนได้พูดมาทั้งหมดจะให้เห็นว่ายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ และเป็นสิ่งที่กระทรวงมหาดไทยที่เป็นต้นเรื่อง ต้องประสานกับทางกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องการฟื้นฟู ตนบอกแล้วว่า 3 เดือนต้องเห็นผล ไม่ปล่อยหลุดโดยง่าย​ เพราะเป็นเรื่องที่ใหญ่ซับซ้อน​ และจะต้องทำจริงจัง ต้องทำจนกว่าจะไม่ใช่ภัยคุกคาม ตนยืนยันว่า กระทรวงมหาดไทยถือว่าให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง​ ฉะนั้นต้องรีบจัดการ ทั้งในระดับจังหวัด​ อำเภอ​ ตำบลและหมู่บ้าน และสิ่งที่อยากให้ทำก่อนคือ เอกซเรย์ในทุกพื้นที่ทุกหมู่บ้าน อย่างที่เคยบอก​ ชาวบ้านรู้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่รู้ เพราะฉะนั้นถ้าประชาชนรู้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่รู้​ ก็ถือว่ามีความผิด ต้องดูตามความเป็นจริง หากไม่สามารถดำเนินการได้เลย​ หรือไม่ทำอะไรเลย ก็ต้องรับผิดชอบ​ แต่ต้องไม่ให้มีผู้ค้า​ โดยเฉพาะผู้ค้ารายย่อยในหมู่บ้าน​ และจากที่ตนได้เดินทางไปในหลายจังหวัด​ ได้เป็นชื่อ เป็นตำแหน่ง ว่าใครอยู่ข้างหลัง ฉะนั้นต้องจัดการให้ชัดเจนที่สุด

นายภูมิธรรม ยังเล่าถึงสมัยที่​ เป็นรัฐมนตรีว่าการปี 2547 ตอนที่เราเป็นรัฐบาลในช่วงนั้นสามารถจัดการเรื่องยาเสพติดได้หมดไป จริงๆตนสั่งมาแล้วเรื่อง Seal Stop Safe แต่ตนก็ยังคิดว่าหลังจากนี้จะต้องมีทั้ง​ให้รางวัลและให้โทษ​ ทำดีต้องได้ดีโดยไม่ลืม จะขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์ทำงานที่รับผิดชอบในเรื่องต่างๆให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งตนถือว่าผู้ติดยาเสพติดคือผู้ป่วย ลูกค้าเมื่อสมัยนั้นเขาเรียกว่าอาชญากร แต่ก็ต้องจำแนก​ เพราะกฎหมายมีอยู่แล้ว​ และเรากำลังขับเคลื่อนเรื่องการยกเลิกกัญชา​ และพืชกระท่อม​ เรากำลังดำเนินการทั้งหมด เพราะชาวบ้านเขาไม่รับและเวลานี้ประเทศไทยเสียชื่อมาก เวลาส่งไปและเขาจับได้​ ว่ามาจากเรา อย่างโกดังที่สนามบินสุวรรณภูมิ​ ทั้งกระท่อม​ กัญชา​ เต็มโกดัง และมีการทำกันอย่างเปิดเผย ขณะเดียวกันที่ผ่านมารัฐบาลได้พูดว่า​ กัญชาใช้ได้เฉพาะเรื่องสาธารณสุข แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ อาจมีทั้งนักการเมือง​ นักธุรกิจเข้าไปหาผลประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ และทำให้เป็นเรื่องปวดหัวของทุกส่วน พร้อมกล่าวว่า​ เจ้านายทรงเป็นห่วงในเรื่องนี้

โดยนายภูมิ​ธรรม​ ยังอยากให้ทางกระทรวงมหาดไทย​ สร้างเครือข่าย​ตาสับปะรด​ ออกเป็นคำเสนอแนะ​ หรือคำสั่งการให้เห็นว่า​ ให้ดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม​ แก้ไขปัญหายาเสพติด​ รวมไปถึงมีมาตรการการป้องกันอยากให้จัดระเบียบสังคมในเรื่องของการป้องกัน ยับยั้งโอกาสในการกระทำความผิด ทุกจังหวัดต้องดำเนินการค้นหาผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พายุคาจิกิกระทบหลายจังหวัดเหนือ-อีสาน

27 ส.ค. – ผลกระทบจากพายุ “คาจิกิ” ส่งผลหลายจังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน ฝนตกหนัก อย่าง จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ส่วน จ.เลย แม่น้ำเหืองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.นาแก้ว อ.นาแห้ว ชาวบ้านต้องเร่งยกสิ่งของขึ้นที่สูง พายุคาจิกิเคลื่อนตัวสู่ จ.น่าน ทำให้ 6 อำเภอทางตอนเหนือของเมืองน่าน มีฝนตกหนักและเริ่มมีน้ำป่าหลากดินสไลด์ใน ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น ชาวบ้านตามชุมชนและร้านค้าต่างๆ เร่งเก็บข้าวของไว้บนที่สูง อย่างชุมชนสวนตาลล่าง ซึ่งยังไม่ทันฟื้นฟูความเสียหายจากพายุวิภาเมื่อเดือนที่แล้ว ต้องเตรียมพร้อมกันอีกรอบ อย่างร้านจำหน่ายแอร์และกล้องวงจรปิดร้านนี้ ซึ่งครั้งที่แล้วเสียหายไปกว่า 6 ล้านบาท ต้องขนสินค้าออกจากร้านและยกขึ้นชั้น 2 หวั่นเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะเดียวกันเริ่มอพยพผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในจุดเสี่ยงน้ำท่วมออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงแล้วกว่า 20 ราย รวมทั้งเร่งเสริมคันดินและกระสอบทรายตามจุดเสี่ยงรอบเมือง โดยเฉพาะโรงพยาบาลน่าน ที่เคยถูกน้ำท่วมเสียหายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งขนอุปกรณ์การแพทย์ขนาดใหญ่ไปไว้ในที่ปลอดภัย และเสริมแนวกระสอบทรายป้องกันไว้แล้ว พร้อมยกระดับยกระดับการป้องกันและรับมือกับพายุคาจิกิขั้นสูงสุด ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีผู้ใช้โซเชียลโพสต์คลิปสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงช่วงบ่ายวานนี้ (26 ส.ค.) ในพื้นที่บ้านแม่โกปี๋ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม […]

ทบ.ย้ำชัดกัมพูชาบิดเบือน-ให้ร้าย ตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000

27 ส.ค.- โฆษก ทบ.โต้กัมพูชา กล่าวหาบิดเบือนพยายามให้ร้ายฝ่ายไทย ย้ำชัดวางลวดหนาม “บ้านหนองจาน” อยู่ในเขตอธิปไตยไทย ชี้เขมรตั้งชุมชนรุกล้ำผิด MOU 2000 จากกรณีที่สำนักข่าว Fresh News รายงานว่า นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 16.00 น. โดยระบุว่า ฝ่ายไทยได้ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ด้วยการวางลวดหนามรุกล้ำพื้นที่บ้านเรือนและที่ดินของประชาชนในหมู่บ้านโจกเจย ตำบลโอเบยเจือน อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ซึ่งสะท้อนถึงฝ่ายไทยได้ขยายพื้นที่ความขัดแย้งเข้ามาสู่เขตชุมชนพลเรือน และจากการประชุม GBC เมื่อ 7 สิงหาคม 2568 มีบันทึกความเข้าใจ 13 ข้อ ระบุว่าจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการยั่วยุ และจะหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2000 ห้ามการดำเนินการใด ๆ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]