“สุชาติ” ขีดเส้น 3 เดือน สำนักพุทธฯ กู้วิกฤติศรัทธาวงการสงฆ์

พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ สั่งทำทันที “จัดระเบียบเงิน-ทรัพย์สินวัด” ดูแลตั้งไวยาวัจกร ขันนอต ผอ. จังหวัดต้องเด้งรับหากมีคนร้องพระทำผิดวินัย ยอมรับที่ผ่านมาหย่อนยาน ให้เวลา 3 เดือน ก่อนประเมินอีกครั้ง


นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวกับสื่อมวลชนภายหลังการมอบนโยบายให้กับสำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติว่าวันนี้ตนได้มาเยี่ยมสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อมารับฟังการบรรยายสรุปภารกิจ งาน ตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเพราะวันนี้เป็นวิกฤติของพระพุทธศาสนา และเป็นที่ทราบกันดีตามที่มีข่าวออกมา และสำนักพุทธศาสนาก็ต้องไปเร่งดำเนินการแก้ไขวิกฤติศรัทธา เพื่อเรียกศรัทธาของสำนักพระพุทธศาสนาคืนจากประชาชน

นายสุชาติ กล่าวอีกว่า ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นกับวัดและเจ้าอาวาส ที่เรายังไม่มีมาตรการควบคุม คือเรื่องของทรัพย์สินและเรื่องสีกา เพราะเมื่อมีทรัพย์สินเงินทองแล้ว ก็จะมีเรื่องของสีกาเข้ามา และเกิดขบวนการหลอกเงินวัด ที่มาในรูปแบบของสีกา หรือหลอกให้ทำสิ่งต่างๆ วันนี้ตนได้กำชับ โดยเฉพาะผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดทั่วประเทศ ต้องทำงานเชิงรุก เพราะตอนนี้ประชาชนได้ถามมาว่ามีบางวัดเจ้าอาวาสประพฤติมิชอบ ชาวบ้านรู้แต่ทำไมสำนักพุทธฯ ถึงไม่รู้ ได้คาดโทษไว้ว่าในจังหวัดใดมีเหตุการณ์ ที่ไม่สามารถควบคุมความประพฤติของพระภิกษุสงฆ์ให้อยู่ใน พระธรรมวินัย ประพฤติปฏิบัติชอบที่ดีได้และ มีความประพฤติฉาวโฉ่จนถึงขั้นปาราชิก คงจะต้องมีการกล่าวโทษหรือให้คะแนนกันว่ามีความสามารถหรือหย่อนประสิทธิภาพ ละเว้นหรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่


นายสุชาติกล่าวว่านอกจากนี้ตนยังได้มอบนโยบายเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินของวัด ขอให้มีความโปร่งใส โดยนำระบบ Big data เข้ามาควบคุมทรัพย์สินของวัดและเจ้าอาวาส ทำบัญชี ของพระภิกษุสงฆ์ทุกรูปแล้วเปิดเผยให้กับสาธารณชนได้รับรู้ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร มีทรัพย์สินเท่าไหร่ รวมถึงการจัดการทรัพย์สินของวัดต้องเป็นในรูปแบบของคณะกรรมการ โดยเฉพาะสาธารณสมบัติกลาง ให้ประชาชนรับรู้ด้วยต้องให้ประชาชนรับรู้ด้วย อย่างเช่นพื้นที่ประตูน้ำเฉลิมโลก เอเชียทีค เพราะประชาชนอยากจะรู้ว่ามีการหาผลประโยชน์ลับหลังหรือไม่ จะได้ช่วยกันตรวจสอบ แล้วจะต้องปฏิบัติตามกฎของกระทรวงคือวัดจะต้องมีเงินสดไม่เกิน 100,000 บาท โดยให้รายงานบัญชีมายังสำนักพุทธฯ ทุกปี ซึ่งตนเห็นว่าควรจะมีการรายงานทุกเดือนด้วยซ้ำไป จึงจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับมหาเถรสมาคม

พร้อมย้ำว่าขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาทำงานเชิงรุก ประสานงานไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีต่อไปเนื่องจากเราไม่มีอำนาจจับกุม แต่เรามีอำนาจหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองส่งเสริมพระพุทธศาสนา

ส่วนการตั้งเป้าเรื่อง การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของวัดจะต้องแล้วเสร็จเมื่อไหร่ นั้น นายสุชาติ กล่าวว่า มีประกาศออกมาแล้ว เรื่องบัญชีเงินฝาก ตอนนี้กำลังทำให้ทุกวัดเริ่มปฏิบัติตาม โดยห้ามถือเงินสดเกิน 100,000 บาท โดยจะให้ทางสำนักพุทธฯ เข้าไปตรวจสอบ 1 ตุลาคมนี้ ยังไม่เข้าไปดำเนินการ ก็จะถือว่าผิดพระธรรมวินัย ต้องมีการลงโทษตามวินัยสงฆ์


ส่วนจะมีมาตรการอื่นหรือไม่ ที่จะมาดูแลและกู้วิกฤติศรัทธาคืนจากประชาชน นายสุชาติกล่าวว่า ทุกวันนี้พระทำผิด เสพเมถุน สีกาทำผิด ไม่มีบทลงโทษ ตนจึงให้นโยบายไปว่า ให้แก้ไขกฎหมายพ.ร.บ.สงฆ์ ปี พ.ศ. 2505 เพิ่มบทลงโทษ กับผู้ที่กระทำผิด เช่นการแต่งกายเลียนแบบพระ การอวดอุตริมนุสธรรม การอ้างเป็นเทพหรือติดต่อเทพต่างๆ ได้ โดยเฉพาะพวกที่เสพเมถุน จะต้องมีการลงโทษทั้งสีกาและพระ โดยจะต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อนำเข้าสู่การทำประชาพิจารณ์ เสนอคณะกรรมการกฤษฎีกาและนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้เห็นชอบหลักการ ซึ่งโทษของการเสพเมถุนจะมีทั้งการจำคุกและโทษปรับ อาจจะต้องจำคุก 1-7 ปี ปรับตั้งแต่หลายหมื่นบาทถึงหลักแสน และนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และหากสส.เห็นว่าโทษอย่างน้อยเกินไป ก็อาจจะมีการปรับปรุงแก้ไขอีกได้

ส่วนกรณีที่มีบางหน่วยงานออกมาระบุว่าการทำงานร่วมกับสำนักพระพุทธฯ เหมือนจะเละเทะไปเรื่อยๆ จะสามารถจี้ให้สำนักพุทธฯทำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิมได้หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า อย่าเพิ่งกล่าวโทษสำนักพุทธว่าเละเทะ แค่ตอนนี้อาจจะหย่อนยานไปหน่อยวันนี้ตนก็ได้มาให้นโยบายแล้ว ต่อไปต้องทำงานเชิงรุก ให้เวลา 2-3 เดือนแล้วค่อยมาวัด มาดูผลงานและ KPI กันใหม่ แต่หากมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ไม่ปฏิบัติมีความหย่อนก็แสดงว่าไม่ปฏิบัติตามนโยบายและมีความหย่อนยาน

เมื่อถามว่าสำนักพุทธฯ มีการขอให้ ช่วยเหลืออะไรเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะการดำเนินการกับพระชั้นผู้ใหญ่ อาจจะมีปัญหาติดขัด นายสุชาติกล่าวว่า ทุกอย่างทำตามกฎหมาย และต้องปรึกษามหาเถรสมาคม เราทำได้เท่าที่ทำได้ โดยขอให้เกิดการทำงานและบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงาน ทั้งกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ขณะนี้เกิดจากที่บางวัดไม่มีไวยาวัจกร จะมีการแก้ไขปัญหานี้อย่างไร นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระบุว่าขณะนี้ยังมีจุดที่มีปัญหาอยู่ เพราะไวยาวัจกร เป็นคนที่ช่วยดูแลทรัพย์สินของวัดให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ตอนนี้สำนักพุทธฯ กำลังจะนำไวยาวัจกรมาขึ้นทะเบียน เพราะไม่มีข้อมูลว่าแต่ละวัด ไวยาวัจกรเป็นใคร คุณสมบัติถูกต้องตามข้อกำหนดหรือไม่ แล้วต่อไปอาจจะมีการพัฒนาคล้ายกับรูปแบบอาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสม.ที่มีเงินตอบแทน ซึ่งต้องพัฒนาทักษะและกำหนดคุณสมบัติ มีความรู้ในการบริหารจัดการทรัพย์สินของวัด

ส่วนการคัดเลือกไวยาวัจกรจะต้องมีการคัดเลือกอย่างไร เพราะที่ผ่านมาก็มีการสมรู้ร่วมคิดกับพระสงฆ์ในการทุจริต นายอินทพร กล่าวว่า ปัจจุบันในแต่ละวัดมีการจัดตั้งไวยาวัจกร โดยไม่ถูกกฎของมหาเถรสมาคม ที่จะต้องมีการเสนอไปยังเจ้าคณะอำเภอเพื่อให้ความเห็นชอบ และจากการสำรวจปัจจุบันบางวัดก็ยังไม่ได้มีการตั้งไวยาวัจกร

จากนั้นนายสุชาติได้กล่าวว่า ถือโอกาสนี้ให้นโยบายสำนักพุทธฯ ในการจัดการไวยาวัจกรให้จบ รวมถึงเน้นย้ำเรื่องการจัดทำวัตถุมงคล ที่บางแห่งพบว่าการทำวัตถุมงคลเป็นแหล่งฟอกเงิน พวกที่ค้ายาเสพติดและพนันออนไลน์ ก็ทำวัตถุมงคลขาย ซึ่งได้มอบนโยบายให้ไปปรึกษามหาเถรสมาคม ว่าต่อไปการจัดทำวัตถุมงคลจำเป็นจะต้องจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหรือไม่ เพื่อพิจารณาว่าควรอนุญาตหรือไม่อนุญาต ไม่เช่นนั้นก็จะเกลื่อนไปหมด เดี๋ยวอาจอีกหน่อยอาจจะมีรูปหลวงพ่อสุชาติเกิดขึ้นมันไม่ได้

นอกจากนี้นายสุชาติยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ตอนนี้เกิดวิกฤติการศรัทธาศาสนา ขอให้สื่อมวลชนลงข่าวในทางบวก ตนและสำนักพุทธฯในฐานะกำกับดูแลก็จะจัดทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เรียกศรัทธาจากประชาชนคืนมา ให้พระพุทธศาสนาอยู่คู่บ้านคู่เมืองตลอดไป เหมือนกับที่ตนได้ตอบคำถามกับวุฒิสภา ว่าอย่านำการกระทำของพระสงฆ์ มาเป็นตัวทำลายพระพุทธศาสนา เพราะในคนหมู่มากก็จะมีทั้งคนดีและคนไม่ดี พระสงฆ์ไม่ใช่พระพุทธศาสนาเป็นแค่ส่วนหนึ่งเป็นสาวก อย่างที่เราไปทำบุญตามวัดเราเชื่อในพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา ของพระพุทธเจ้า-313 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]