สภาฯ รับหลักการร่างพ.ร.บ.เสริมสร้างสันติสุข 3 ฉบับ

รัฐสภา 16 ก.ค.- สภาฯ รับหลักการร่างพ.ร.บ.เสริมสร้างสันติสุข 3 ฉบับ แต่ปัดตกร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม “ภาคประชาชน-สส.ปชน.” ด้าน “รทสช.-ภท.” ย้ำไม่ล้างผิดคดี112 หวั่นสร้างปมขัดแย้งใหม่ในสังคม ขณะที่ ปชน. ชี้ตัดความหวังประชาชน


การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (16 ก.ค.) มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ได้พิจารณาเรื่องต่อเนื่องจากการประชุมสัปดาห์ที่ผ่านมา ในกลุ่มของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการนิรโทษกรรมทางการเมือง จำนวน 5 ฉบับ

ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ…. เสนอโดย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. …. เสนอโดย นายปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม และ สส.พรรคประชาชาติ สส.พรรคประชาธิปัตย์ ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. …. เสนอโดยพรรคประชาชน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. …. เสนอโดยประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 36,723 คน และ ร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. …. เสนอโดย สส.พรรคภูมิใจไทย


โดยการอภิปรายดังกล่าวได้เปิดให้ผู้เสนอญัตติอภิปรายปิดหลังจากที่มี สส.ร่วมอภิปรายแสดงความเห็นแล้วเสร็จ ทั้งนี้ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายตอนหนึ่ง ว่า การเสนอร่างกฎหมายสร้างเสริมสังคมสันติสุข ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้ทำเพื่อกลุ่มกปปส. แต่ทำเพื่อประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งนี้ในร่างกฎหมายดังกล่าวแม้จะขัดใจบางพรรคการเมือง แต่จะเป็นโอกาสที่พาประเทศไปตามระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ตนเชื่อว่าจิตใต้สำนึกของสส. ต้องการออกร่างกฎหมายสร้างเสริมสังคมสันติสุข แต่ห่วงเนื้อหา เพราะไม่ได้นิรโทษกรรมของคนทุจริต เข่นฆ่าประชาชน แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในบรรทัดฐานต่อไป คือ เมื่อรับร่างกฎหมาย จะถูกพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ และหารือร่วมกัน ทั้งนี้พรรครวมไทยสร้างชาติยืนยันว่า ในประเด็นการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 จะไม่รับร่าง

นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ไอลอว์ อภิปรายปิดญัตติตอนหนึ่งว่ามี สส.หลาคนบอกว่าจะไม่รับร่างกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับคนที่มีคดีมาตรา 112 แต่จากตัวอย่างของคนที่โดนคดีดังกล่าวพบว่าเป็นบุคคลที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาโดยไม่มีความผิดแท้จริงและบางคนติดคุกฟรี ดังนั้นหากสภาต้องการนิรโทษกรรมให้กับคนที่ทำร้ายร่างกาย นิรโทษกรรมคนที่เป็นกบฎ ก่อการร้าย ปิดสนามบิน ยึดทำเนียบ ยึดศูนย์ราชการที่ประชาชนเดือดร้อนและเสียหาย แต่ไม่นิรโทษกรรมบุคคลในคดีมาตรา 112 เท่ากับเป็นการเลือกปฏิบัติ และไม่ได้ต้องการช่วยคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

“มีสส.หลายคนอธิบายว่าต้องช่วยคนถูกดำเนินคดีจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ควรช่วยคนอีกกลุ่มหนึ่ง ในคดีมาตรา 112 เพราะจะทำให้การนิรโทษกรรมไม่ประสบความสำเร็จ เท่ากับการไม่สร้างสังคมสันติสุขและออกกฎหมายที่เลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน อย่างไรก็ดีการจะนิรโทษกรรมคนที่ทำผิดกฎหมายแต่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับผลที่ตามมา ใช้อภิสิทธิ์ที่รู้จัก สส. ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้พวกตัวเอง ให้คนพ้นผิดทุกข้อกล่าวหา แต่คุมขัง ตีตราคนอีกกลุ่มหนึ่งไปตลอด คือการไม่สร้างสังคมสันติสุขและออกกฎหมายเลือกปฏิบัติที่ชัดเจน” นายยิ่งชึพ อภิปราย


ส่วนนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย อภิปรายต่อที่ประชุมด้วยว่า เห็นใจ บางกรณี ในกลุ่มของคนที่ถูกลงโทษ มาตรา 112 จำนวนไม่น้อย จงใจฝ่าฝืนกฎหมายและทำผิดซ้ำ จนต่องถูกลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งหากในสภาฯ คิดเห็นแตกต่างกัน เมื่อออกไปสังคมภายนอก อาจทำให้เกิดความขัดแย้ง การเผชิญหน้าหรือความไม่สุขสงบ สันติสุขในสังคม

“ภูมิใจไทยเห็นว่า บางกรณีที่ถูกลงโทษตามที่บอกว่าไม่ยุติธรรมนั้นยังมีช่องทางอื่น คือ ขออภัยโทษ ทั้งนี้ไม่ได้รังเกียจคนที่ผิด มาตรา 112 แต่กังวลว่าสิ่งที่จะเป็นผลตามมา คือ การนำไปสู่ความไม่สงบสุขของสังคม และ ความขัดแย้งใหม่ ซึ่งไม่อาจเยียวยาบาดแผลเก่า ด้วยการสร้างบาดแผลใหม่ได้” นายกรวีร์ อภิปราย

ขณะที่น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายปิดญัตติ โดยอ่านจดหมายจากของนายอานนท์ นำภา นักโทษคดีมาตรา 112 ต่อที่ประชุมและย้ำว่า ตนได้พบสส. เพื่ออธิบายเนื้อหาของพรรคประชาชนและฉบับของพรรคประชาชนเพื่อให้รับร่างกฎหมายนิรโทษกรรม แม้มีความหวังแค่ 1% ทั้งนี้มีสส.ส่งข้อความมาว่าเห็นใจ เข้าใจ แต่ทำไม่ได้ เพราะกลัวจะถูกยุบพรรค และบอกว่าให้ตนไปคุยกับข้างบน บางคนพูดด้วยความขี้ขลาดว่าคนของพวกพี่ไม่มีใครอยู่ในคุกแล้ว

น.ส.ศศินันท์ อภิปรายว่า ร่างของพรรคประชาชนไม่มีการขัดหลักการของร่างฉบับอื่น และไม่มีตรงไหนที่บอกว่าจะนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 ทั้งนี้เข้าใจว่าการกดรับร่างของพรรคประชาชนและภาคประชาชนมีความตะขิดตะขวางใจ ขอให้กดงดออกเสียงก็เพียงพอให้ทุกร่างเข้าไปถกกันในชั้นกรรมาธิการ เพราะเชื่อว่าการนิรโทษกรรมนั้นต้องไม่แบ่งแยก

“วาระแรกนี้อย่าเปิดประตูความหวังของประชาชน และขอเรียกร้องความกล้าหาญหากเห็นใจประชาชนขอกดงดออกเสียงให้กับร่างของพรรคประชาชนและภาคประชาชน” น.ส.ศศินันท์ อภิปราย

จากนั้นที่ประชุมลงมติทีละฉบับและมีมติเอกฉันท์รับหลักการร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. ด้วยคะแนน 299 เสียง งดออกเสียง 172 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

รับหลักการร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. …. เสนอโดย นายปรีดา บุญเพลิง 311 ต่อ 0 เสียง งดออกเสียง 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

ไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. …. เสนอโดย นายชัยธวัช ตุลาธน และพรรคประชาชน ด้วยคะแนน 147 ต่อ 319 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

ไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. …. เสนอโดยประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 36,723 คน ด้วยคะแนน 149 ต่อ 306 เสียง งดออกเสียง 20 เสียง

รับหลักการร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. …. เสนอโดย สส.พรรคภูมิใจไทย ด้วยคะแนน 311 ต่อ 3 เสียง งดออกเสียง 147 เสียง

พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการจำนวน 32 คนขึ้นมาศึกษา แปรญัตติภายใน 15 วันโดยเป็นที่สังเกตว่ามีผู้ที่เคยร่วมชุมนุม อาทิ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ เข้าร่วมเป็นกรรมาธิการฯ ด้วย.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]