รัฐสภา 16 ก.ค.- สภาฯ รับหลักการร่างพ.ร.บ.เสริมสร้างสันติสุข 3 ฉบับ แต่ปัดตกร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม “ภาคประชาชน-สส.ปชน.” ด้าน “รทสช.-ภท.” ย้ำไม่ล้างผิดคดี112 หวั่นสร้างปมขัดแย้งใหม่ในสังคม ขณะที่ ปชน. ชี้ตัดความหวังประชาชน
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (16 ก.ค.) มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ได้พิจารณาเรื่องต่อเนื่องจากการประชุมสัปดาห์ที่ผ่านมา ในกลุ่มของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการนิรโทษกรรมทางการเมือง จำนวน 5 ฉบับ
ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ…. เสนอโดย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. …. เสนอโดย นายปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม และ สส.พรรคประชาชาติ สส.พรรคประชาธิปัตย์ ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. …. เสนอโดยพรรคประชาชน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. …. เสนอโดยประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 36,723 คน และ ร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. …. เสนอโดย สส.พรรคภูมิใจไทย
โดยการอภิปรายดังกล่าวได้เปิดให้ผู้เสนอญัตติอภิปรายปิดหลังจากที่มี สส.ร่วมอภิปรายแสดงความเห็นแล้วเสร็จ ทั้งนี้ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายตอนหนึ่ง ว่า การเสนอร่างกฎหมายสร้างเสริมสังคมสันติสุข ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้ทำเพื่อกลุ่มกปปส. แต่ทำเพื่อประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งนี้ในร่างกฎหมายดังกล่าวแม้จะขัดใจบางพรรคการเมือง แต่จะเป็นโอกาสที่พาประเทศไปตามระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ตนเชื่อว่าจิตใต้สำนึกของสส. ต้องการออกร่างกฎหมายสร้างเสริมสังคมสันติสุข แต่ห่วงเนื้อหา เพราะไม่ได้นิรโทษกรรมของคนทุจริต เข่นฆ่าประชาชน แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในบรรทัดฐานต่อไป คือ เมื่อรับร่างกฎหมาย จะถูกพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ และหารือร่วมกัน ทั้งนี้พรรครวมไทยสร้างชาติยืนยันว่า ในประเด็นการนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 จะไม่รับร่าง
นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ไอลอว์ อภิปรายปิดญัตติตอนหนึ่งว่ามี สส.หลาคนบอกว่าจะไม่รับร่างกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับคนที่มีคดีมาตรา 112 แต่จากตัวอย่างของคนที่โดนคดีดังกล่าวพบว่าเป็นบุคคลที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาโดยไม่มีความผิดแท้จริงและบางคนติดคุกฟรี ดังนั้นหากสภาต้องการนิรโทษกรรมให้กับคนที่ทำร้ายร่างกาย นิรโทษกรรมคนที่เป็นกบฎ ก่อการร้าย ปิดสนามบิน ยึดทำเนียบ ยึดศูนย์ราชการที่ประชาชนเดือดร้อนและเสียหาย แต่ไม่นิรโทษกรรมบุคคลในคดีมาตรา 112 เท่ากับเป็นการเลือกปฏิบัติ และไม่ได้ต้องการช่วยคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
“มีสส.หลายคนอธิบายว่าต้องช่วยคนถูกดำเนินคดีจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ควรช่วยคนอีกกลุ่มหนึ่ง ในคดีมาตรา 112 เพราะจะทำให้การนิรโทษกรรมไม่ประสบความสำเร็จ เท่ากับการไม่สร้างสังคมสันติสุขและออกกฎหมายที่เลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน อย่างไรก็ดีการจะนิรโทษกรรมคนที่ทำผิดกฎหมายแต่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับผลที่ตามมา ใช้อภิสิทธิ์ที่รู้จัก สส. ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้พวกตัวเอง ให้คนพ้นผิดทุกข้อกล่าวหา แต่คุมขัง ตีตราคนอีกกลุ่มหนึ่งไปตลอด คือการไม่สร้างสังคมสันติสุขและออกกฎหมายเลือกปฏิบัติที่ชัดเจน” นายยิ่งชึพ อภิปราย

ส่วนนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย อภิปรายต่อที่ประชุมด้วยว่า เห็นใจ บางกรณี ในกลุ่มของคนที่ถูกลงโทษ มาตรา 112 จำนวนไม่น้อย จงใจฝ่าฝืนกฎหมายและทำผิดซ้ำ จนต่องถูกลงโทษตามกฎหมาย ซึ่งหากในสภาฯ คิดเห็นแตกต่างกัน เมื่อออกไปสังคมภายนอก อาจทำให้เกิดความขัดแย้ง การเผชิญหน้าหรือความไม่สุขสงบ สันติสุขในสังคม
“ภูมิใจไทยเห็นว่า บางกรณีที่ถูกลงโทษตามที่บอกว่าไม่ยุติธรรมนั้นยังมีช่องทางอื่น คือ ขออภัยโทษ ทั้งนี้ไม่ได้รังเกียจคนที่ผิด มาตรา 112 แต่กังวลว่าสิ่งที่จะเป็นผลตามมา คือ การนำไปสู่ความไม่สงบสุขของสังคม และ ความขัดแย้งใหม่ ซึ่งไม่อาจเยียวยาบาดแผลเก่า ด้วยการสร้างบาดแผลใหม่ได้” นายกรวีร์ อภิปราย
ขณะที่น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายปิดญัตติ โดยอ่านจดหมายจากของนายอานนท์ นำภา นักโทษคดีมาตรา 112 ต่อที่ประชุมและย้ำว่า ตนได้พบสส. เพื่ออธิบายเนื้อหาของพรรคประชาชนและฉบับของพรรคประชาชนเพื่อให้รับร่างกฎหมายนิรโทษกรรม แม้มีความหวังแค่ 1% ทั้งนี้มีสส.ส่งข้อความมาว่าเห็นใจ เข้าใจ แต่ทำไม่ได้ เพราะกลัวจะถูกยุบพรรค และบอกว่าให้ตนไปคุยกับข้างบน บางคนพูดด้วยความขี้ขลาดว่าคนของพวกพี่ไม่มีใครอยู่ในคุกแล้ว
น.ส.ศศินันท์ อภิปรายว่า ร่างของพรรคประชาชนไม่มีการขัดหลักการของร่างฉบับอื่น และไม่มีตรงไหนที่บอกว่าจะนิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 ทั้งนี้เข้าใจว่าการกดรับร่างของพรรคประชาชนและภาคประชาชนมีความตะขิดตะขวางใจ ขอให้กดงดออกเสียงก็เพียงพอให้ทุกร่างเข้าไปถกกันในชั้นกรรมาธิการ เพราะเชื่อว่าการนิรโทษกรรมนั้นต้องไม่แบ่งแยก
“วาระแรกนี้อย่าเปิดประตูความหวังของประชาชน และขอเรียกร้องความกล้าหาญหากเห็นใจประชาชนขอกดงดออกเสียงให้กับร่างของพรรคประชาชนและภาคประชาชน” น.ส.ศศินันท์ อภิปราย
จากนั้นที่ประชุมลงมติทีละฉบับและมีมติเอกฉันท์รับหลักการร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. ด้วยคะแนน 299 เสียง งดออกเสียง 172 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง
รับหลักการร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. …. เสนอโดย นายปรีดา บุญเพลิง 311 ต่อ 0 เสียง งดออกเสียง 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง
ไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. …. เสนอโดย นายชัยธวัช ตุลาธน และพรรคประชาชน ด้วยคะแนน 147 ต่อ 319 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง
ไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. …. เสนอโดยประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 36,723 คน ด้วยคะแนน 149 ต่อ 306 เสียง งดออกเสียง 20 เสียง
รับหลักการร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. …. เสนอโดย สส.พรรคภูมิใจไทย ด้วยคะแนน 311 ต่อ 3 เสียง งดออกเสียง 147 เสียง
พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการจำนวน 32 คนขึ้นมาศึกษา แปรญัตติภายใน 15 วันโดยเป็นที่สังเกตว่ามีผู้ที่เคยร่วมชุมนุม อาทิ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ เข้าร่วมเป็นกรรมาธิการฯ ด้วย.-312 -สำนักข่าวไทย