ทำเนียบรัฐบาล 15 ก.ค.- “มนพร” ชี้ “อนุทิน” ปราศรัยโจมตี เพียงหวังคะแนน ตอนนั้นก็นั่งใน ครม.ด้วยกัน ยันคนชายแดนศรีสะเกษ เข้าใจ “แพทองธาร” ไม่ขายชาติ ย้ำไม่อยากพ่ายทุกพื้นที่ รวมทั้งศรีสะเกษ
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยปราศรัยที่จังหวัดศรีสะเกษ พาดพิงหลายเรื่องที่ทำให้ตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลว่า เป็นแนวทางการปราศรัยหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยเพื่อให้ได้คะแนนนิยมให้กับผู้สมัครพรรคของตนเอง แต่ในความเป็นจริงเนื้อหาของการปราศรัย โดยเฉพาะเรื่องการโยกเงินงบประมาณ เพื่อทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งตอนที่พิจารณาเรื่องนี้ในคณะรัฐมนตรีนายอนุทินก็นั่งอยู่ในที่ประชุม รวมถึงรัฐมนตรีหลายคนของพรรคภูมิใจไทยก็อยู่ด้วย โดยยืนยันว่าไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่แจกเงิน แต่จะทำในไตรมาสถัดไปคือปีงบประมาณ 2569 เนื่องจากเจอปัญหากำแพงภาษีจากสหรัฐ และอยากให้มีการกระจายรายได้ในเรื่องของการจ้างงาน จึงทบทวนว่าจะนำเงินดังกล่าวมากระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงินงบประมาณ 157,000 ล้านบาท ซึ่งไม่มีใครเห็นแย้ง แต่เมื่อพรรคภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้าน ก็หยิบยกประเด็นเหล่านี้ขึ้นมา ดังนั้นแต่ละหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณต้องทำให้โปร่งใสตรวจสอบได้ เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งเชื่อว่าองค์กรอิสระต่างๆ คงจับตาดูการใช้จ่ายงบประมาณส่วนนี้ในทุกกระทรวง
ส่วนกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุนเซ็น ประธานวุฒิสภากัมพูชาจะทำให้เพลี่ยงพล้ำถูกกล่าวหาว่าขายชาติหรือไม่ นางมนพร กล่าวว่า การพูดคุยดังกล่าวไม่ได้ขายชาติ ซึ่งหลายคนได้เห็นที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์แล้ว ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง นายกรัฐมนตรีก็เตรียมชี้แจง และจากการที่ตนไปลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ไม่มีใครบอกว่านายกรัฐมนตรีขายชาติ จึงขอให้ไปสอบถามพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ อ.ขุนหาญ และ อ.ภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่เลือกตั้งซ่อมอีกครั้ง โดยประชาชนในพื้นที่บอกว่านายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยเรื่องของการไม่ให้เสียเลือดเสียเนื้อ และไม่ต้องการให้เกิดสงคราม ซึ่งผู้ที่ไปปราศรัยอาจไม่ได้ไปสอบถามความเห็นจากประชาชนในพื้นที่จริงๆ ประชาชนไม่ต้องการให้เกิดสงคราม และขณะนี้ยังมีการเรียกร้องว่าเพื่อไม่เกิดสงครามแล้วอยากให้เปิดด่านผ่านแดน เพื่อทำการค้าขายในพื้นที่ชายแดนด้วย
ส่วนจะทำให้พรรคเพื่อไทย เสียพื้นที่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะตัดสินใจในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ว่า ใครอยู่ใกล้ชิดพี่น้องประชาชน ซึ่งผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยเป็นบุตรสาวของนายอมรเทพ สมหมาย อดีต สส. ศรีสะเกษ เขต 5 ซึ่งอยู่ในพื้นที่และเคียงบ่าเคียงไหล่หาเสียงกับบิดามาโดยตลอด ทั้งนี้ยืนยันไม่ได้รู้สึกลำบากใจ แต่ถือว่าได้ชี้แจงและตอบคำถามต่อข้อกล่าวหาของพี่น้องประชาชนด้วยซ้ำ
เมื่อถามว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เตรียมจะลงพื้นที่ เพื่อช่วยปราศรัยหรือไม่ นางมนพร กล่าวว่า ปกติจะมีทีมลงพื้นที่อยู่แล้ว แต่จะต้องมีการหารือในที่ประชุมพรรควันนี้ก่อน ส่วนนายทักษิณชินวัตร จะไปเป็นผู้ช่วยหาเสียงหรือไม่ ยังไม่ทราบ ส่วนความคาดหวังในครั้งนี้พรรคเพื่อไทยยังต้องการรักษาที่นั่งเดิมในพื้นที่ศรีสะเกษไว้ ก็ต้องขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชน เพราะต้องการทำงานร่วมกับรัฐบาลผลักดันนโยบายที่เดินมาครึ่งทางแล้ว เพื่อดูแลคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่า ศึกครั้งนี้พรรคเพื่อไทยแพ้ไม่ได้ใช่หรือไม่ นางมนพร กล่าวว่าในการเลือกตั้งไม่มีใครต้องการแพ้ ก็จะทำให้เต็มที่ ส่วนสนามเลือกตั้งนี้จะเป็นการพิสูจน์ได้หรือไม่ว่าคนอีสานยังรักพรรคเพื่อไทยนั้น มองว่าทุกสนามยังมีความหมาย ไม่ใช่เฉพาะที่ศรีสะเกษเท่านั้น.-312 -สำนักข่าวไทย