กกต. 14 ก.ค.- “ศรีสุวรรณ” ร้อง กกต. สอบ “สทร.-พรรคการเมือง” ปล่อยครอบงำ ชี้นำ เป็นเหตุยุบพรรคหรือไม่
นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน เข้ายื่นคำร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองและกกต.ขอให้ไต่สวนสอบสวน กรณี “นาย สทร.” ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด และกรณีบางพรรคการเมืองยินยอมให้นาย สทร. ซึ่งมิใช่สมาชิกของพรรค กระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํากิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 28 และหรือมาตรา 29 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 หรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่าการที่พรรคการเมืองใหญ่บางพรรคยินยอมให้อดีตนักโทษชายเด็ดขาดที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาในข้อหาทุจริตหรือใช้อำนาจขัดต่อกฎหมาย รวม 3 คดี และเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกในข้อหาทุจริต หรือใช้อำนาจขัดต่อกฎหมาย ซึ่งต้องห้ามตามกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 24 (2) มากระทำการที่แสดงให้เห็นว่า นาย สทร. ซึ่งไม่มีสิทธิเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด น่าจะครอบงำหรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองนั้นหรือสมาชิกพรรคการเมืองนั้นๆ ขาดความอิสระ ทั้งโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม เช่น 1.การบรรยายและให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 27 พ.ค.68 ที่สำนักงาน ป.ป.ส. กรุงเทพฯ การให้สัมภาษณ์ในรายการของ Nation TV เมื่อวันที่ 30 พ.ค.68
2.กรณีขอกระทรวงมหาดไทยคืนมาให้พรรคการเมืองแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จนสำเร็จในขณะนี้
และ 3.การตอบคำถามพิธีกร 3 คน ในเวทีงาน “55 Years Nation Exclusive Talk: Breaking Through Thailand’s Crisis – Chapter 1” เมื่อวันที่ 9 ก.ค.68 และการร่วมถกแผนรับมือภาษีทรัมป์กับแกนนำพรรคการเมืองต่างๆ เมื่อวันที่ 11 ก.ค.68 ที่บ้านพิษณุโลก ที่ผ่านมา จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมไทยอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน พฤติการณ์การกระทำของนาย สทร.และพรรคการเมืองใหญ่ดังกล่าว จึงอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 28 มาตรา 29 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ซึ่งมีบทลงโทษพรรคการเมืองที่ฝ่าฝืนตามมาตรา 92(3) เป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญอาจสั่งยุบพรรคการเมืองดังกล่าวได้
ส่วน นาย สทร.ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด แต่มีพฤติกรรมควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำพรรคการเมืองไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 108 ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 1 แสนบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และศาลอาจสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งได้ -สำนักข่าวไทย