“ณัฐพงษ์” เผยสาเหตุ ปชน.ไม่ร่วมโหวตถอนร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ

รัฐสภา 9 ก.ค.- “ณัฐพงษ์” เฉลยแล้ว เสียงฝ่ายค้านหายไปไหน เผย ปชน.ไม่ร่วมวงโหวตถอนร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เหตุรัฐบาลแจงไม่ได้ จะนำกลับมาอีกหรือไม่ โบ้ย ถาม “อนุทิน” หลังนายกฯ แซะ ดูแลมหาดไทย ทำ นทท.จีนหาย เหน็บ ทุกอย่างอยู่ในความรับผิดชอบของนายกฯ อยู่แล้ว


นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎร มีมติถอนร่างพระราชบัญญัติ การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเม้นคอมเพล็กซ์ ว่า จากการประชุมสภาเป็นการพิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่พรรคฝ่ายค้านและพรรคประชาชนพยายามที่ตั้งคำถามต่อรัฐบาล ถึงเหตุผลในการถอนร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรออกจากระเบียบวาระว่า รัฐบาลมีความจริงใจที่จะถอนร่างออกไป เพื่อต้องการกลับไปพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบ และให้ประชาชนได้มีโอกาสวิพากษ์วิจารณ์มากยิ่งขึ้นว่ามีการถอนร่างออกไป เพราะว่ากลัวที่จะกฎหมายฉบับนี้ถูกโหวตคว่ำในสภา ดังนั้น นี่คือการถอนร่างที่เป็นเทกติคในสภา เพื่อที่จะรอเสียบในอนาคต

ดังนั้น การประชุมสภาเมื่อเช้าเป็นการแสดงออกที่ชัดเจน ที่ตัวแทนของคณะรัฐมนตรี ให้เหตุผลมาฟังไม่ขึ้น เช่นการถอนร่างพระองค์ประกอบของครม. มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะ เมื่อเทียบกับกฎหมายอื่นที่คณะรัฐมนตรีได้เสริมมาอยู่ในวาระการประชุมสภาเช่นเดียวกัน ถ้าใช้เหตุผลนี้ ทำไมกฎหมายอื่นๆไม่มีการถอนออกไป และอีกเหตุผลหนึ่งที่เราต้องการความจริงใจให้รับปากต่อที่ประชุมว่าถอนแล้วจะไม่เสนอกลับเข้าไปอีก ในการประชุมสภาชุดนี้ อย่างน้อยในการเลือกตั้งครั้งหน้ารัฐบาล พรรคแต่ละพรรคจะมีนโยบายอย่างไรก็จะสามารถนำเสนอได้ในกรณีที่พรรคเพื่อไทยต้องการจะนำเสนอเป็นนโยบายหาเสียงก็สามารถทำได้ให้ประชาชนตัดสินได้ แต่รัฐมนตรีก็ไม่สามารถตอบในที่ประชุมได้ เพราะ ไม่ใช่คณะรัฐมนตรีทั้งหมด


และแม้จะทราบว่าวันนี้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามาที่รัฐสภา ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจ นางสาวแพทองธาร สามารถใช้สิทธิ์ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมได้และประธานก็น่าจะอนุมัติให้ นางสาวแพทองธารตอบยืนยัน แทนครม.ได้อยู่ดี

แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลแสดงออกถึง การขาดความจริงใจในส่วนนี้ ประกอบกับผลโหวตที่ออกมาก็เห็นแล้วว่า ฝั่งรัฐบาลมีแค่ 250 กว่าเสียงเท่านั้น หักลบพรรคร่วมรัฐบาลที่ออกมาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนแล้วว่ามีพรรคใดบ้างที่ไม่สามารถเห็นด้วยกับพ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้ ทุกคนสามารถคำนวณได้ มีโอกาสสูงมากว่ากฎหมายฉบับนี้จะถูกคว่ำ ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่ได้ตั้งไว้ตั้งแต่แรกว่าเหตุผลที่ รัฐบาลถอนร่าง เพราะกลัวว่ากฎหมายจะถูกโหวคคว่ำในสภามากกว่า

ทั้งนี้ ตนพยายามใช้กลไกในสภาทุกอย่าง ทวงถามเหตุผลที่แท้จริงในการถอนร่าง


เมื่อถามว่าเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำเกินมา 7 เสียง แค่เสียงของฝ่ายค้าน ก็หายไปเหมือนกัน ข้อเท็จจริงเรื่องนี้เป็นอย่างไรนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องการโหวตของพรรคฝ่ายค้าน เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค ในส่วนของพรรคประชาชนต้องการยืนยันว่าเห็นด้วยในการถอนร่างอย่างจริงใจแต่เมื่อรัฐบาลไม่ได้ให้เหตุผลที่ดีเพียงพอ จึงไม่สามารถที่จะลงมติในครั้งนี้ได้ส่วนพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ จะแสดงออกอย่างไรก็เป็นเหตุผลของแต่ละพรรค พรรคประชาชนไม่ได้ลงมติด้วย

ส่วนจะมีกลไกป้องกันการกลับมาของร่างกฎหมายนี้อย่างไร นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เราต้องติดตาม ตรวจสอบ วันนี้รัฐบาลอาศัยเสียงข้างมาก ในการถอดร่างออกไปเพื่อกันไม่ให้ร่างมีถูกโหวตคว่ำ แต่ในอนาคตไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่ารัฐบาลจะรอเสียบเข้ามาเมื่อไหร่ จึงเป็นหน้าที่ของพรรคประชาชนที่จะคอยติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง

เมื่อถามว่าเห็นด้วยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ ที่ระบุว่ากาสิโนทำให้นักท่องเที่ยวจีนลดลงและเกิดผลกระทบกับการท่องเที่ยว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องถามนายอนุทิน แต่ส่วนตัวที่เพิ่งได้เดินทางไปยังประเทศจีนและพบผู้นำระดับประเทศกับจีนบางคนเหตุผลที่สำคัญอย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจีนลดลงในประเทศไทยคือขาดความเชื่อมั่นเป็นหลัก ดังนั้นสิ่งที่จะเป็นผลบวก เป็นทางออกของประเทศมากที่สุดคือการสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่เราสามารถดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมาได้

เมื่อถามว่า การที่นายกรัฐมนตรีแล้วรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ เมื่อเช้าเป็นการโยนปัญหาให้กับรัฐมนตรี ทั้งที่ตนเองเป็นหัวหน้ารัฐบาลหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่ความรับผิดรับชอบของคนที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่แล้วส่วนคนที่เป็นอดีตรัฐมนตรีและปัจจุบันอยู่ฝ่ายค้านจับชี้แจงอย่างไรว่าในอดีต เคยดำรงตำแหน่ง ได้แก้ไขปัญหานี้มากน้อยอย่างไร ตนไม่ขอให้ความเห็น.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตร.แจ้ง 2 ข้อหามือมีดทำร้าย “เป๊ก” คาดปมเข้าใจผิด

3 ส.ค.- ตำรวจ สน.หัวหมาก แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มวัย 21 ใช้มีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” นักร้องชื่อดัง บาดเจ็บที่คางเป็นแผลฉกรรจ์ อ้างถูกหาเรื่องก่อน เบื้องต้นคาดปมเข้าใจผิด จ่อสอบปากคำเพิ่มเติม เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 3 ส.ค.68 ร.ต.อ.ชัยนรินทร์ กวีพราหมณ์ รอง.สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด มีผู้บาดเจ็บ ภายในปั๊มน้ำมัน ซอยรามคำแหง 76 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมกำลังสายตรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.หัวหมาก และอาสามูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน พบร่างนายผลิตโชค หรือ เป๊ก อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง มีบาดแผลฉกรรจ์ถูกอาวุธมีดฟันเข้าที่บริเวณใต้คาง 1 แผล ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงเร่งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลสมิติเวช ส่วนผู้ก่อเหตุไม่หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ […]

เฝ้าระวังตลอดคืน พบโดรนปริศนาบินล้ำเขตแดนอรัญฯ

สระแก้ว 3 ส.ค.- พบโดรนปริศนาไม่ทราบฝ่ายบินล้ำแดนจากกัมพูชาเข้ามาในไทย ชาวบ้าน-ชรบ.ในพื้นที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เฝ้าระวังตลอดทั้งคืน คืนที่ผ่านมา เวลา 21.00 น. ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยจุดที่ทีมข่าวเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ห่างจากแนวชายแดนเพียง 2 กิโลเมตร บรรยากาศในพื้นที่ขณะนั้นมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ออกมาคอยเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับแจ้งว่าอาจมีโดรนปริศนาเข้ามาในพื้นที่ ระหว่างที่ทีมข่าวกำลังสัมภาษณ์พูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ พบโดรนลำหนึ่งบินเข้ามาจากเขตชายแดนฝั่งกัมพูชา ล้ำเข้ามาในอาณาเขตประเทศไทยลึกประมาณ 2 กิโลเมตร ขณะที่โดรนลำนั้นลอยอยู่เหนือพื้นที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ใช้ไฟสปอร์ตไลต์กำลังแรงสูงร่วมกับแสงเลเซอร์จากอุปกรณ์ของทหาร ส่องไปยังโดรนปริศนาอย่างชัดเจน ทำให้เห็นลำตัวของโดรนแม้อยู่ในความมืด สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีการเปิดเผยว่าโดรนลำนั้นมีเป้าหมายใดหรือเป็นของฝ่ายใด ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงยังคงเพิ่มมาตรการตรวจตราและเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดคิดหรือภัยคุกคามความมั่นคงในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ

3 ส.ค. – เปิดภาพทหารไทยบึ้มบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ สกัดเส้นทางขึ้นภูมะเขือ ห้วงปะทะวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา วันนี้ (3 ส.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานเหตุปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 24-28 ก.ค.ที่ผ่านมา ทหารได้ทำลายบันไดช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ ซึ่งสามารถขึ้นมาถึงภูมะเขือได้ หลังทหารไทยเข้ายึดพื้นที่ภูมะเขือ ผลักดันทหารกัมพูชาอยู่บนจะงอยหน้าผาออกไปทั้งหมด พร้อมทำลายกระเช้า และฐานทหารกัมพูชาด้านล่างภูมะเขือ โดยการใช้โดรนติดระเบิด ล่าสุดมีการเผยแพร่ภาพทหารทำลายบันไดช่องคานม้า ในระหว่างยึดพื้นที่ได้จากการเหตุปะทะช่วง 5 วันที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ชาวเชียงใหม่ร่วมจุดเทียนสดุดี 15 วีรบุรุษชายแดน

3 ส.ค.- ชาวเชียงใหม่ ร่วมกันจุดเทียน แสดงความไว้อาลัย สดุดี 15 วีรบุรุษทหารที่พลีชีพปกป้องแผ่นดินไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่บริเวณ หน้าลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ตัวเมืองเชียงใหม่ ประชาชนได้รวมตัวทำกิจกรรมร้องเพลง เขียนข้อความ พร้อมโบกธงชาติไทย เพื่อส่งกำลังใจให้กับทหารที่อยู่แนวหน้า ชายแดนไทย-กัมพูชา และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย เพื่อเป็นการสดุดีทหาร 15 นายที่พลีชีพในการสู้รบปกป้องอธิปไตย อีกทั้งอ่านรายชื่อทหาร วางพวงหรีดและจุดเทียน แสดงความไว้อาลัยพร้อมทั้งยืนสงบนิ่ง อธิฐานขอให้เจ้าหน้าที่ที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา ปลอดภัยทุกนาย นอกจากนี้ บริเวณย่านถนนท่าแพ หน้าอาคารพุทธสถานเชียงใหม่ มีการนำภาพทหารที่เสียชีวิตทั้ง 15 นายติดไว้ริมถนนและมีการตั้งโต๊ะเพื่อให้ประชาชน มาวางดอกไม้ แสดงความอาลัย -สำนักข่าวไทย