ศาลฎีกา 8 ก.ค.- “วิญญัติ” ขอบคุณศาลกำชับไม่เผยแพร่คำเบิกความคดีชั้น 14 ยัน “ทักษิณ” ไม่ได้กำชับ ทำตามหน้าที่ทนาย เตรียมเสนอรายชื่อพยานฝ่ายจำเลยเบิกความ 30 ก.ค. มอง “ฮุนเซน” แฉไม่ได้ป่วยจริง ไม่เกี่ยวข้องกับคดี ชี้ต้องดูว่าเป็นพยานที่ควรรับฟังหรือไม่
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นการไต่สวนนัดที่ 3 ครั้งนี้มีพยานที่ศาลเรียกเข้ามาไต่สวนทั้งสิ้น 9 ปาก ตนขอกราบขอบพระคุณศาล ได้กำชับสิ่งที่ตนร้องขอมาแล้ว 2 ครั้ง คือ การไม่ให้นำข้อเท็จจริง การเบิกความในชั้นศาลซึ่งเป็นสาระสำคัญไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ หรือบางคนอาจไม่ได้เผยแพร่คำเบิกความ แต่นำไปสรุป วิเคราะห์ และตั้งประเด็นว่าศาลถามอะไร มีอากัปกิริยาอย่างไร ที่ถือว่าไม่ใช่หน้าที่ ซึ่งศาลก็เห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สั่งกำชับแล้ว วันนี้มีการกำชับอีกครั้งและให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ส่วนตัวก็ขอให้ศาลนั้นออกข้อกำหนด แต่ศาลเห็นว่ายังไม่มีเหตุให้ออกข้อกำหนด และพิจารณาในทางเปิดเผยอยู่ ตนก็ขอน้อมรับคำสั่งศาล
หลังจากมีการพิจารณาเสร็จสิ้น และมีคำสั่งศาลออกมาชัดเจน ข้อเท็จจริงที่ใครอยากรู้ ตนก็พร้อมที่จะพูดในเวลานั้น แต่ระหว่างนี้ยังเปิดเผยไม่ได้ เพราะเป็นข้อมูลที่สำคัญ และศาลได้กำชับไปแล้ว
เมื่อถามว่า การขอให้ศาลพิจารณาไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ารับฟังการไต่สวน นายทักษิณเป็นคนกำชับหรือไม่ นายวิญญัติ ปฏิเสธว่า ไม่ใช่ และนายทักษิณไม่ได้กังวลอะไรแบบนั้น แต่การดำเนินการดังกล่าว เป็นการทำหน้าที่ของคนหน้างานแบบตน ที่จะต้องประเมิน และต้องช่วยศาลตรวจ แม้จะมีเจ้าพนักงานตรวจแล้วก็ตาม ซึ่งสิ่งที่ตนแถลงต่อศาลก็ตรงกัน แต่การออกข้อกำหนดก็ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล แต่ก็ได้กำชับ เพราะมีหลายคนที่ไปพูด ทางผ่านรายการ และเฟสบุค ให้ข้อเท็จจริงแบบขาด และเกินบ้างบางส่วน
นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า ภาพรวมรูปคดีไม่ได้มีความน่ากังวล เพราะนายทักษิณมีอาการป่วย และมีการดำเนินการเฉพาะหน่วยงานราชการเท่านั้น ส่วนกระบวนการที่ให้สิทธิประโยชน์ในกรณีที่เป็นนักโทษเด็ดขาด ก็เป็นไปตามกฎหมาย
ส่วนการนัดไต่สวนครั้งถัดไปในวันที่ 15 กรกฎาคม คาดว่าน่าจะมีพยานอีก 5-6 ปาก เช่น อธิบดีกรมราชทัณฑ์ , ผู้อำนวยทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และนัดถัดไปวันที่ 18 และ 25 กรกฎาคม ขณะที่จำเลย หากศาลไม่มีหมายเรียกพยานอื่นเพิ่มเติม ตนก็จะขอใช้สิทธิ์ในการระบุพยานของจำเลย เบิกความในวันที่ 30 กรกฎาคม แต่สุดท้ายต้องอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล ส่วนจำนวนพยานนั้น คงต้องขอรอดูก่อนว่า ที่เตรียมไว้ซ้ำกับพยานที่ศาลนำมาไต่สวนหรือไม่
นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า ตนไม่ทราบว่า การแถลงปิดคดีจะมีขึ้นหรือไม่ เนื่องจากคดีดังกล่าวไม่ได้เป็นการพิจารณาคดีทั่วไป เป็นการไต่สวน เมื่อศาลเห็นว่ามีข้อเท็จจริงปรากฏ การจะแถลงปิดคดีหรือไม่ก็คงเป็นดุลยพินิจของศาล แต่ถ้าหากศาลมีการแถลงปิดคดี ตนก็ต้องมีการแถลงเช่นกัน
เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซนออกมาแฉว่า นายทักษิณ ไม่ได้ป่วยจริง กังวลว่าจะส่งผลต่อคดีหรือไม่ นายวิญญัติ ระบุว่า เรื่องระหว่างประเทศตนไม่มีความคิดเห็น เนื่องจากมองว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร เพราะหากศาลต้องการทราบอะไร ก็จะออกหมายเรียกเข้ามาไต่สวนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่ใครนำข้อมูลมาเปิดเผย ก็ต้องดูว่าเป็นพยานที่ควรรับฟังหรือไม่ แต่ตนก็ไม่ขอก้าวล่วงดุลยพินิจของศาล ส่วนตัวเชื่อว่าไม่เกี่ยวกัน -สำนักข่าวไทย