ศาลฎีกา 8 ก.ค.- ศาลฎีกาฯ ไต่สวนพยานบังคับโทษ “ทักษิณ” ชั้น 14 จำนวน 9 ปาก พร้อมกำชับไม่เผยแพร่คำเบิกความ ส่วนนัดถัดไป 15 ก.ค.นี้
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 ในคดีการบังคับโทษจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งวันนี้มีพยานที่ศาลให้เข้าเบิกความ 9 ปาก เป็นกลุ่มพัศดี ผู้ช่วยพัศดีเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และผู้คุมเวรที่เฝ้านายทักษิณ ชินวัตร ประจำอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในช่วงที่ถูกคุมขัง ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2566
ในช่วงเช้าผู้พิพากษา ออกนั่งบัลลังก์ เริ่มเข้าสู่การไต่สวนตั้งแต่เวลา 09.00 น. ไต่สวนพยานได้ 5 ปากแรก โดยใช้เวลา 3 ชั่วโมง ประเด็นที่ศาลไต่สวนคือ ภาพรวมขั้นตอนการรับนักโทษ หรือ การรับนายทักษิณจากศาลฎีกา เข้าสู่เรือนจำ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ไปจนถึงเหตุการณ์การส่งตัวนายทักษิณไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ขั้นตอนการคุมขังนายทักษิณในโรงพยาบาลตำรวจ และขั้นตอนการเข้าเยี่ยมนายทักษิณว่า เป็นญาติหรือบุคคลอื่น
ในช่วงบ่ายศาลไต่สวนพยานอีก 4 ปาก ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำ ที่ทำหน้าที่เฝ้านายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยประเด็นที่ศาลซักถามถึงข้อเท็จจริง การพักรักษาตัว และการอยู่จริงของนายทักษิณภายในห้องผู้ป่วย รวมถึงบุคคลที่เข้าเยี่ยม และการตรวจโรคของแพทย์ การใช้ชีวิตของนายทักษิณ ตอนที่อยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
ในช่วงท้ายศาลมีคำสั่งว่า ให้คู่ความ และผู้เข้าฟังการพิจารณางดการเผยแพร่การเบิกความของพยาน บุคคล และพยานเอกสาร ที่ศาลไต่สวน หลังพบมีผู้เข้าฟัง และผู้สื่อข่าวบางราย นำคำเบิกความไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ผ่านสื่อช่องต่างๆ ศาลจึงกำชับผู้เข้าฟังให้ผู้เข้าฟังการพิจารณาคดี ให้ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด หลังทนายของจำเลยได้ยื่นคำร้อง ขอให้ศาลออกข้อกำหนดพิจารณาคดีในทางลับ แต่ศาลเห็นว่า ไม่มีเหตุอันควรให้ต้องพิจารณาทางลับ แต่กำชับให้ผู้ฟังการพิจารณาคดี ปฏิบัติตามคำสั่งศาลอย่างเคร่งครัด
สำหรับการพิจารณานัดถัดไปศาลนัดวันที่ 15 กรกฎาคม โดยมีการนัดหมายไต่สวนผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ -สำนักข่าวไทย