แกนนำกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน หอบหลักฐานส่ง ป.ป.ช.เพิ่ม เอาผิดรัฐบาล

ป.ป.ช. 2 ก.ค.-แกนนำกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน หอบหลักฐานพันหน้าส่ง ป.ป.ช. เพิ่ม เอาผิดรัฐบาลโยกงบฯ หนี้ 5 แบงก์ 3.5 หมื่นล้าน มาแจกในโครงการดิจิทัล ยกเอกสารกฤษฎีกามัดเข้าข่ายผิด ม.144 “อ.เจษฎ์” ชี้หากศาลฎีกาฯ สั่ง สส.-สว. 309 คน หยุดปฏิหน้าที่ ไม่เกิดสุญญากาศ เสนอทุกคนลาออก เพื่อเปลี่ยนผ่านเปิดทาง กกต.จัดเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. นายเจษฎ์ โทณะวณิก นักกฎหมาย และนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา เข้ายื่นหลักฐาน และเอกสารมเพิ่มเติมในคำร้องที่ยื่นก่อนหน้านี้ขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินการเอาผิด คณะรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน และคณะรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร คณะกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 รวมถึง สส. และ สว. ที่มีมติสั่งตัดงบประมาณรวม 35,000 ล้านบาท เพื่อไปใช้ในโครงการแจกเงินหมื่นดิจิทัล ซึ่งเข้าข่ายกระทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144


นายชาญชัย กล่าวว่าเอกสารหลักฐานที่นำส่งเพิ่มเติมให้ ป.ป.ช.ในวันนี้มีทั้งสิ้น 11 รายการ รวมกว่า 1 พันหน้า เป็นเรื่องเกี่ยวกับเงินที่กู้มาจากไหน ปี พ.ศ.อะไร และนำไปใช้เรื่องอะไร ปี 67 มีงบประมาณดังกล่าวหรือไม่ ที่สำคัญมีเอกสารสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาความเห็นและแนวทางการเสนอและการเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่ระบุว่า ในการดำเนินการดังกล่าวต้องปฏิบัติตามมาตรา 144 วรรคหนึ่ง และวรรคสองของรัฐธรรมนูญ 60 และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง 2561 โดยเคร่งครัด ซึ่งก็จะทำให้ ป.ป.ช.ได้เห็นข้อเท็จจริงและทำงานได้เร็วขึ้น ก่อนที่จะมีมติและส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงรายละเอียดการถกเถียงกันถึงเรื่องความผิดตามมาตรา 144 ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่งอยู่ในรายงานการประชุมของสภาด้วย จึงเอามายืนยันให้กับ ป.ป.ช. ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงการทำผิดตาม กฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่าเป็นเหตุให้ถูกถอดถอนได้

“เป็นเรื่องของนักการเมืองที่ไม่เคารพกฎหมาย และ ครม. ที่เห็นแต่ได้จะเอาเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ที่ตั้งอยู่ในงบประมาณที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรวาระหนึ่งไปแล้ว อย่างนี้เป็นเรื่องการกระทำความผิดที่เห็นชัดเจน ถึงได้มีการแก้บทบัญญัตินี้ให้มีความละเอียดขึ้น แม้แต่ ครม.ไม่ทำแต่หากรู้แล้วไม่ยับยั้งก็จะถือเป็นความผิดถูกถอดถอนด้วย จนเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่มีหนังสือของกฤษฎีกา ครม.ถึงมีมติว่าถ้าจะแปรเปลี่ยนประมาณในปี 69 ให้ทุกหน่วยงานระมัดระวังอย่าให้ทำผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งตรงนี้เป็นกฎเกณฑ์ที่ออกโดย ครม.ก็เป็นการยืนยันว่าสิ่งที่เราได้ยื่นทั้งหมด เป็นเรื่องข้อกฎหมายและได้มีพฤติกรรมการกระทำผิดไปแล้ว” นายชาญชัย กล่าว


นายชาญชัย กล่าวว่าประชาชนอาจจะไม่เข้าใจ ว่าทำไมจึงมีความผิด เนื่องจากเงินของทั้ง 5 ธนาคาร เช่น ธกส.เป็นเงินที่รัฐบาลสั่งไปกู้เงินมาเพื่อจำนำข้าว ซึ่งเป็น แล้วเอาแจกเงินดิจิตอล ทำให้ไม่ได้นำเงินไปจ่ายหนี้ให้ ธกส. แต่หรือในส่วนธอส.ทำโครงการบ้านเอื้ออาทร ส่วนธนาคาร SME ก็ทำหน้าที่สนับสนุนการกู้ดอกเบี้ยต่ำ ธนาคารออมสินก็เช่นเดียวกัน ส่วนธนาคารส่งออกและนำเข้า สนับสนุนในส่วนของดอกเบี้ยปล่อยเงินกู้ให้กับพม่า ซึ่งเป็นหนี้ที่รัฐมีนโยบายให้ 5 แบงก์ไปกู้ ดังนั้นจึงต้องจ่ายเงินชดเชย แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่เอาเงินไปใช้หนี้ แล้วไปทำผิดกฎหมายซ้ำ โดยเอาไปแจกเป็นเงินให้ประชาชนเพื่อผลประโยชน์ในการหาเสียง และเอาไปแจก สส. สว.ที่พ้นวาระแล้ว ซึ่งเข้าข่ายผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ตนก็เป็นอดีต สว.ที่ก็ได้รับผลประโยชน์ด้วย แต่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ เชื่อว่า ป.ป.ช.จะชี้มูลและส่งศาลโดยเร็ว ขณะนี้เป็นเวลา 60 วันแล้ว จึงมานำเอกสารมายื่นเพิ่มเติมเพื่อช่วย ป.ป.ช.รวมทั้งติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้

ด้านนายเจษฎ์ กล่าวกรณีมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าหากศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองรับพิจารณาเรื่องดังกล่าวจาก ป.ป.ช.จะมีผลให้สมาชิกรัฐสภา 309 คนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะทำให้เกิดสูญญากาศทางการเมือง ว่าตนมั่นใจจะไม่เป็นสุญญากาศ โดยมี 2 ทางออก คือ 1.สมมุติว่าหากศาลพิจารณาแล้วมีความผิดตามมาตรา 144 สุดท้ายจะเหลือแต่พรรคประชาชน เพียงพรรคเดียว คณะรัฐมนตรีที่ทำผิดมาตรา 144 ไม่สามารถอยู่รักษาการได้ ปลัดกระทรวงต่างๆ ก็ต้องมาหารือกันแล้วเลือกปลัดคนหนึ่ง ขึ้นมาทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถทำหน้าที่ไปได้เรื่อยๆ จนกว่าสภาจะหมดวาระแล้ว จึงมีการเลือกตั้งใหม่

2.พรรคประชาชนลาออก ขอย้ำว่าตนไม่เคยถามหาความรับผิดชอบของพรรคประชาชนหรือพรรคใดก็ตาม เพราะเรารู้ว่าเขาไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น แต่การเสนอให้พรรคประชาชนลาออกก็จะทำให้ไม่มีสมาชิกสภาเหลืออยู่ หรือถ้ามีใครบางคนเหลืออยู่ก็ลาออก ซึ่งก็จะทำให้มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนผ่าน ไม่ใช่การปฏิวัติรัฐประหารเด็ดขาด แล้วก็ไม่ใช่ขอนายกฯพระราชทานด้วย แต่จะต้องเปลี่ยนผ่านโดยมีการเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.ก็อาจต้องถามไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่าแบบนี้จะใช้อำนาจทำหน้าที่ได้หรือไม่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็จะตอบมาว่าทำได้ แต่เมื่อไม่มีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญบังคับก็ต้องใช้ประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเปลี่ยนผ่านด้วยการเลือกตั้งก็ให้ กกต.จัดการเลือกตั้ง โดยเมื่อครบวาระให้จัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน แต่กรณีนี้เทียบเคียงได้กับยุบสภาให้จัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน และไม่เกิน 60 วัน ก็จะไม่มีสูญญากาศ


“พวกคนที่บอกว่าที่ทำทั้งหมดนี้ เพื่อที่จะทำให้เกิดสูญญากาศ เพื่อจะเปิดทางให้มีการรัฐประหาร คนพวกนั้นแหละต้องการที่จะให้เกิด เพราะจะได้ประโยชน์จากสิ่งที่พวกคุณพูด” นายเจษฎ์ กล่าว

นายเจษฎ์ ยังกล่าวว่า กรณีนี้ สส. สว.ควรต้องเป็นผู้รักษาเงินแผ่นดิน แต่กลับไม่ทำหน้าที่ ประชาชนจึงต้องมารักษาเงินแผ่นดินกันเอง แล้วถ้าพวกคุณจะดื้อดึง ถูลู่ถูกัง อยู่กันต่อไป ถึงวันนั้นประชาชนก็จะเห็นว่าเศรษฐกิจสังคมเป็นอย่างไร แล้ววันหนึ่งคนก็จะกลับมาถามว่านี่หรือคนที่อาสาเข้ามาเป็นตัวแทน ทำไมไม่ทำหน้าที่ ในขณะที่ประชาชนทั้งหลายทำหน้าที่ ดังนั้นการจะมาอ้างว่าเกิดสุญญากาศ จึงไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าการเมืองยังคงดำเนินมีทางออกดำเนินการต่อไปได้.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตรวจสอบบ้านลักลอบทำประทัดไล่นก บึ้มกลางชุมชน

สุพรรณบุรี 31 ก.ค. – จากเหตุบ้านที่ลักลอบทำประทัดไล่นก เกิดระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต วันนี้ตำรวจเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าที่เกิดเหตุไม่ใช่โรงงาน แต่เป็นที่ลักลอบทำ ที่น่าตกใจคือหลังเกิดเหตุชาวบ้านโดยรอบบอกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าบ้านดังกล่าวลักลอบทำประทัดไล่นก จี้หน่วยงานตรวจสอบ กลัวว่าอาจจะมีบ้านที่ลักลอบทำอีก.-สำนักข่าวไทย

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์

ศรีสะเกษ 31 ก.ค. – ที่จังหวัดศรีสะเกษ มีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 7 ผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ จากการโจมตีของกัมพูชา ที่วัดมหาพุทธาราม หรือวัดพระโต พระอารามหลวง จ.ศรีษะเกษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และวางพวงมาลาพระราชทาน แก่ประชาชน รวม 7 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความความไม่สงบ ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นประชาชนเสียชีวิตบริเวณปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีษะเกษ และอีก 1 คนเสียชีวิตจากระเบิดลงบ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธี พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต และมีพิธีการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมทุกคืน ถึงวันที่ 2 ส.ค.นี้ ก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ 3 สิงหาคมนี้ ด้านนายคมสันต์ […]

พบโดรนปริศนาหลายพื้นที่ คาดเป็นโดรนจารกรรม

บุรีรัมย์ 31 ก.ค. – แม้จะมีประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ในหลายพื้นที่ยังตรวจพบโดรนปริศนาขึ้นบิน เบื้องต้นคาดเป็นโดรนสอดแนม ขณะที่วิทยุการบินฯ วอนประชาชนร่วมมือ หากฝ่าฝืนจะใช้มาตรการทางทหารจัดการทันที เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. คืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยา จุด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพโดรนที่บินเหนือ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ไว้ได้ และยังพบว่ามีโดรนบินเหนือบ้านตะโก, บ้านยายคำ, ตลาดตาเป๊กและบ้านเจริญสุข รวมทั้งหมด 4 แห่ง บินวนเวียนประมาณ 5 นาที จึงพยายามตรวจสอบโดยรอบพื้นที่ ก่อนจะพบรถตู้ยี่ห้อฮุนไดสีดำจอดอยู่ เชื่อว่าน่าจะเป็นเจ้าของโดรน เมื่อเข้าไปสอบถามคนในรถตู้ ที่เปิดกระจกลงมาพูดคุย เห็นภายในรถตู้มีคนประมาณ 3-4 คน มีอุปกรณ์คล้ายเครื่องควบคุมอะไรบางอย่างอยู่ในรถ จึงสอบถามว่าจะไปที่ไหน ได้รับคำตอบว่าจะไปสระแก้ว หลังจากนั้นรถตู้ได้ขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว แม้จะพยายามขับรถไล่ตามแต่ตามไม่ทัน เชื่อว่าเป็นโดรนของกัมพูชามาบินสอดแนมอย่างแน่นอน ส่วนที่ อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตรวจพบโดรนปริศนาหลายสิบลำ บินว่อนเหนือพื้นที่อำเภอบ้านกรวด ครอบคลุมพื้นที่ 7 ตำบล คือ ตำบลสายตะกู ตำบลจันทบเพชร […]

ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนรับฟังข้อเท็จจริงชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 31 ก.ค.- ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนร่วมหารือและรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริง อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังตั้งทีมเฝ้าติดตามหยุดยิงชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ (31 ก.ค.68) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกโดยกรมข่าวทหารบก ร่วมหารือกับผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนประจำประเทศไทย นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย ณ อาคารศรีสิทธิสงคราม ภายในกองบัญชาการกองทัพบก โดยมี พล.ท.กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นประธานในการหารือ การหารือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการจัดตั้ง Interim ASEAN Defence Attaches Monitoring Team (Interim ASEAN DAs Monitoring Team) ในการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์สถานการณ์หยุดยิง (Ceasefire) ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ซึ่งการหารือในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงหยุดยิง ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเห็นพ้องร่วมกันในการจัดตั้งทีมเฝ้าติดตามชั่วคราวของฝ่ายทูตทหารจากชาติสมาชิกอาเซียนโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นกลไกเบื้องต้นในการติดตามสถานการณ์และสร้างความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไก ASEAN Monitoring Team (AMIT) ในอนาคต […]