ทำเนียบ 1 ก.ค.- นายกฯ สั่งจัดการสินค้าเกษตรเถื่อนชายแดน พร้อมสั่งดูแลราคาเกษตรที่ได้รับผลกระทบทุกมิติ ขณะที่แรงงานกัมพูชาให้ผ่อนปรนอยู่ในไทยได้นานขึ้น
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการ ถึงมาตรการป้องกัน และปราบปรามการนำเข้าสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย จากการที่นายกรัฐมนตรีและคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการในหลายจังหวัด และได้รับรายงานจาก กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และ กระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องว่า มีปัญหาในการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร บริเวณชายแดน ทำให้ราคาสินค้าพืชผลทางการเกษตรในประเทศไทยตกต่ำลง ซึ่งจะต้องการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาสินค้าเกษตรภายในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
จึงขอสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสั่งการให้กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง สั่งการกำชับด่านศุลกากรทุกแห่งทั่วประเทศให้ยกระดับมาตรฐานการควบคุม และดำเนินการป้องกัน และปราบปรามการนำเข้าสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย พร้อมทั้งเพิ่มมาตรการเชิงรุก รวมถึงกำชับเจ้าหน้าที่ทุกท่านให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดให้เป็นไปตามกฎหมาย ให้ลาดตระเวนในเขตพื้นที่รับผิดชอบดำเนินการปราบปรามโดยเฉพาะสถานที่ ที่อาจจะเป็นที่จัดเก็บสินค้าเกษตรเถื่อนหรือโกดังต่าง ๆ ที่มีการนำเข้าผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
นายกฯ สั่งการให้กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม จัดตั้งกลไกในการแลกเปลี่ยนข้อมูล การนำเข้า การส่งออก และการนำผ่านแดน เพื่อแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด ระหว่างกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเกษตรฯ และ กระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานราชการอื่น ๆ รวมทั้งสมาคมการเกษตร หรือกลุ่มผู้ผลิต และส่งออก พืชเกษตรต่าง ๆ เพื่อให้สามารถจัดการการป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สั่งการให้ กระทรวงเกษตรฯ ประสานความร่วมมือในการดำเนินการดังกล่าว รวมทั้งดำเนินการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ในการกำหนดโควตาในการนำเข้าสินค้าเกษตร เพื่อป้องกันราคาสินค้าเกษตรในประเทศให้สัมฤทธิ และ เร่งพัฒนาวิจัยพันธุ์พืช หรือสินค้าทางการเกษตรให้มีคุณภาพปราศจากโรค หรือทำแผนในการจัดหาต้นกล้า เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ
นายกรัฐมนตรี สั่งการถึงมาตรการผ่อนผันแรงงานชายแดนไทย-กัมพูชาในช่วงสถานการณ์พิเศษ เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านแรงงานในพื้นที่ชายแดน มิให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจระดับฐานราก ความมั่นคงของรัฐ และหลักมนุษยธรรม อันเนื่องมาจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเดินข้างเข้า-ออกของแรงงานสัญชาติกัมพูชาที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในลักษณะไป-กลับ หรือเป็นการจ้างงานตามฤดูกาล โดยให้กระทรวงแรงงาน เร่งรัดการจัดประชุมคณะกรรมการบริหารการจัดการการทำงานของคนต่างด้าว เพื่อพิจารณาแนวทาง และมาตรการผ่อนผันการทำงานของแรงงานสัญชาติกัมพูชาในพื้นที่ชายแดน ภายใต้อำนาจตามมาตรา 64 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถดำเนินมาตรการได้ โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ
อีกทั้งให้ ก.มหาดไทย อาศัยอำนาจตามมาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ. คนเข้าเมืองฯ เร่งรัดการยกร่างประกาศ กระทรวงมหาดไทย เพื่อรองรับการดำเนินมาตรการผ่อนผันดังกล่าว โดยพิจารณาถึงความเหมาะสม พร้อมทั้งให้มีความสอดคล้องกับหลักมนุษยธรรม และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยขอให้ทั้งสองหน่วยงานเร่งดำเนินการดังกล่าวเพื่อนำกลับมาเสนอต่อ ครม. โดยเร็ว.-315 -สำนักข่าวไทย