“ธีรรัตน์” ปิดการฝึกบริหารจัดการภัยสึนามิ

ภูเก็ต 27 มิ.ย. – “ธีรรัตน์” ปิดการฝึกบริหารจัดการภัยสึนามิ (C-MEX 25) ชื่นชมทุกภาคส่วนร่วมฝึกซ้อมด้วยความมุ่งมั่น พร้อมย้ำ 4 มาตรการ “พัฒนาต่อยอด ทดสอบความพร้อม ให้ความสำคัญการฝึก และทำอย่างต่อเนื่อง” เพื่อประชาชนมีความปลอดภัยสูงสุด


น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานตรวจเยี่ยมกำลังพลและภาคีเครือข่าย เเละปิดการฝึกการบริหารวิฤตการณ์ระดับชาติด้านสาธารณภัย ประจำปี พ.ศ. 2568 (Crisis Management Exercise: C-MEX 25) จากภัยสึนามิ ในพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน ณ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 36 จังหวัดภูเก็ต ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยมีการถ่ายทอดการฝึกซ้อมจากอีก 5 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันมายัง จ.ภูเก็ต โดยมี นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ท.อนุสรณ์ โออุไร แม่ทัพน้อยที่ 4 นายรัชกรณ์ นภาพรพิพัฒน์ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้แทน จ.กระบี่ พังงา ระนอง ตรัง และ จ.สตูล ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลต่างประเทศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย ร่วมฝึกซ้อมในพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน จำนวนกว่า 1,000 คน

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ได้มีการฝึกซ้อมร่วมกัน 6 จังหวัด 6 จุดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยที่เคยเกิดสึนามิเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งรัฐบาล ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่งเสริมให้ทุกคน ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะชุมชนและประชาชนตระหนักถึงภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและมีความรุนแรงขึ้น ซึ่งการรวมพลังในวันนี้ที่หลาย ๆ หน่วยงานเข้ามาร่วมกันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ที่จะทำให้เกิดการสร้างการรับรู้กับพี่น้องประชาชน และสร้างความมั่นใจกับประชาชนว่าทางภาครัฐมีความพร้อม เป็นไปอย่างมีเอกภาพและเป็นไปตามมาตรฐานสากล


ในบทเรียนหลายครั้งที่ผ่านมา เมื่อเกิดภัยเราได้ถอดบทเรียนและนำมาปรับปรุงแผนเผชิญเหตุเพื่อให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุดที่เราสามารถป้องกันได้ ทั้งเรื่องบุคลากร อุปกรณ์ต่าง ๆ เราพร้อมเต็มที่ และเรายินดีให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันไม่ว่าในพื้นที่ไหน จะเป็นความรับผิดชอบหน่วยงานใด ทุกหน่วยงานสามารถช่วยกันเติมเต็มให้ภารกิจประสบความสำเร็จได้ จึงเป็นการที่ทำให้ทุกหน่วยได้มีส่วนร่วมกันและทุกคนได้มีความกระตือรือร้นอย่างจริงจังมาก จึงฝากให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และเป็นประจำ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อหากเกิดสถานการณ์จริงจะสามารถปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย ไม่เกิดการโกลาหลหรือชุลมุนขึ้น

น.ส.ธีรรัตน์ ได้เน้นย้ำ 4 ข้อสั่งการเพื่อให้การป้องกันสาธารณภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ 1. นำบทเรียนจากการฝึกในครั้งนี้ไปสู่การพัฒนา ต่อยอด ที่สอดคล้องตามกฎหมาย แผนว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในทุกระดับ ทั้งระดับชาติ จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2. ให้มีการทดสอบความพร้อมของหอเตือนภัย เครื่องมือ อุปกรณ์ ระบบสื่อสาร เครื่องจักรกลสาธารณภัย ยุทโธปกรณ์ และกำลังพล ที่อยู่ในความรับผิดชอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความพร้อมในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล 3. ให้จังหวัดให้ความสำคัญกับการฝึกแบบบูรณาการร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบการจัดการสาธารณภัย เพื่อร่วมสร้างความเข้มแข็ง และสังคมแห่งความปลอดภัยอย่างยั่งยืน และ 4. ให้หน่วยงานภาคีเครือข่าย ภาครัฐบาล ภาคเอกชน มูลนิธิ อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย จิตอาสาร่วมเตรียมความพร้อมเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกันเพื่อพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการสาธารณภัยของประเทศ และเกิดเครื่อข่ายด้านการป้องกันและบรรเทาสาธาธารณภัยครอบคลุมทุกพื้นที่

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณและชื่นชมทุกภาคส่วนที่มุ่งมั่นจนทำให้การฝึกภาคปฏิบัติครั้งนี้สำเร็จลุล่วง และในส่วนความรู้วิชาการก็ได้มีการให้ความรู้ในเรื่องข่าวสารที่เป็นประโยชน์ในแต่ละพื้นที่เพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปกระจายต่อให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง โดย มท. ร่วมกับทุกภาคส่วนทำงานอย่างใกล้ชิดและมีบุคลากรที่ทำให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพมากและเมื่อเกิดเหตุการณ์สิ่งเราก็พร้อมที่จะรับมือ ทั้งยังได้มีการเชิญตัวแทนสถานทูตและสถานกงสุลได้มาร่วมชมการสาธิตของเราด้วย ทำให้เขาได้รับทราบว่าเรามีการเตรียมความพร้อมอย่างไรเพื่อที่จะเมื่อมีการสอบถามจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทางสถานทูตก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลได้เลยว่า ไทยเรามีการเตรียมความพร้อมด้วยการฝึกซ้อมอยู่เสมอเป็นประจำต่อเนื่อง สามารถสร้างความมั่นใจให้กับชาวต่างชาติที่เข้ามาเยือนประเทศไทยด้วย


ด้านนายภาสกร กล่าวว่า การฝึกในครั้งนี้ครอบคลุมตั้งแต่การแจ้งเตือนภัย การอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย การกู้ภัย การแพทย์และสาธารณสุข การจัดการศูนย์พักพิง และการกู้ภัยทางน้ำและอากาศยาน ระหว่างวันที่ 24-27 มิ.ย. 68 โดยมีภาครัฐภาคเอกชนมูลนิธิองค์กรสาธารณกุศลภาคประชาชนและจิตอาสา 180 หน่วยงาน และผู้ร่วมฝึก 1,000 คน มีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อทดสอบแผนเผชิญเหตุของ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน รวมทั้งยังเป็นการทดสอบความเชื่อมโยงของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ทุกระดับ ทั้งในระดับนโยบาย ระดับอำนวยการ และระดับปฏิบัติ เพื่อพัฒนาศักยภาพหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้มีความพร้อมในการบริหารจัดการสาธารณภัยอย่างมีประสิทธิภาพ เจ้าหน้าที่และประชาชนมีความรู้ในการปฏิบัติตน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิ ที่เคยเกิดเหตุการณ์เมื่อปี 2547 ทำให้มีผู้เสียชีวิตในพื้นที่ประเทศไทยกว่า 5,400 คน ผู้ได้รับบาดเจ็บ และสูญหายจำนวนมาก รวมถึงทรัพย์สินของประชาชนเสียหายคิดเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาท

การฝึกการบริหารวิฤตการณ์ระดับชาติด้านสาธารณภัยในครั้งนี้ ได้จำลองสถานการณ์การตรวจพบระดับน้ำมีการเปลี่ยนแปลงที่หุ่นตรวจคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย และทะเลอันดามัน แล้วได้รับการยืนยันว่าเกิดสึนามิที่มีผลกระทบต่อประเทศไทย โดยคาดว่าจะขึ้นฝั่งที่ จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการท้องถิ่นทั้ง 6 จังหวัดจึงได้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยทันที เพื่อเตรียมพร้อมรับมือเหตุสึนามิที่เกิดขึ้น และเป็นศูนย์กลางระดมสรรพกำลังในการช่วยเหลือประชาชน โดยร่วมมือกับกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยซึ่งได้รับอนุมัติจากอธิบดีให้กดสัญญาณเตือนไปยัง 6 จังหวัดเพื่ออพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยโดยด่วน

สำหรับพื้นที่ฝึกซ้อมใน 6 จังหวัด ได้แก่ 1. ระนอง บริเวณบ้านบางเบน และบ้านอ่าวเคย ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 1 จุด 2. พังงา บริเวณบ้านน้ำเค็ม บ้านบางสักเหนือ และบ้านบางสักใต้ ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 4 จุด 3. กระบี่ บริเวณหาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 1 จุด 4. ตรัง บริเวณหาดทรายทอง ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 1 จุด 5. สตูล บริเวณ ต.ตันหยงโป อ.เมืองสตูล เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 2 จุด และ 6.ภูเก็ต บริเวณหาดกมลา อ.กะทู้ เปิดสัญญาณหอเตือนภัย 1 จุด โดยการฝึกซ้อมจะมีการส่งสัญญาณเตือนภัยจากหอเตือนภัยสึนามิของแต่ละพื้นที่เสมือนจริง แบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ เสียงแบบ M2 “เกิดแผ่นดินไหวในทะเล อาจเกิดคลื่นสึนามิ ขอให้ออกจากชายหาด ไปยังที่สูงโดยด่วน” และเสียงแบบ M3 “ขณะนี้เกิดคลื่นสึนามิ ขอให้ออกจากชายหาด ไปยังพื้นที่สูงโดยด่วน”

จากนั้น เป็นการสาธิตการกู้ภัยทางบก และการจัดการศูนย์พักพิง ด้วยการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวซึ่งเป็นพื้นที่ปลอดภัย และหลังเกิดสถานการณ์ ได้มีการค้นหาผู้ประสบภัยบริเวณซากอาคาร ซากรถยนต์ และพื้นที่โดยรอบ พร้อมทั้งแยกระดับของผู้บาดเจ็บเพื่อลำเลียงไปยังสถานพยาบาล นอกจากนี้ ได้รับชมสาธิตการค้นหาผู้ประสบภัย สถานีกู้ภัยทางน้ำและอากาศยาน โดยได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากฐานทัพเรือภาคที่ 3 และกรม ปภ. และเรือจากกรม ปภ. สำนัก ปภ.กทม. กรมเจ้าท่า และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ด้วยการลำเลียงผู้ประสบภัยที่ลอยคออยู่ในทะเลกลับเข้าสู่ฝั่ง.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]